เปิดเสรีการค้าแล้วได้ประโยชน์อะไร?

เปิดเสรีการค้าแล้วได้ประโยชน์อะไร?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องการค้าเสรีระหว่างอาเซียนกับจีน และอาเซียนกับอินเดีย ได้รับความสนใจอย่างสูง

ที่คนอยากจะรู้จริง ๆ คือ ทำแล้วได้ประโยชน์อะไร และ จำเป็นด้วยหรือที่ต้องทำสัญญาการค้าเสรีกับจีนและอินเดีย เพราะช่วงที่ผ่านมา มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันว่า การเปิดเสรีทำให้หลายคนลำบาก และเป็นการขายชาติ

ผมขอเริ่มจากคำถามแรกก่อนว่า ทำไมจึงต้องเปิดเสรีการค้า

สาเหตุจริง ๆ ก็คือ นับวันการแข่งขันในตลาดโลก จะรุนแรงมากขึ้น และนับวันผู้ผลิตในไทยก็จะเสียเปรียบคู่แข่งในประเทศต่าง ๆ มากขึ้น ที่บอกว่าเสียเปรียบเพราะอะไร

เพราะช่วงที่ผ่านมา มีการรวมกลุ่มทางการค้ากันแล้ว 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ในระบบเศรษฐ กิจโลก ก็คือ กลุ่มสหภาพยุโรป และกลุ่มอเมริกาเหนือ ซึ่งสหภาพยุโรปกำลังขยายขอบข่ายไปยังยุโรปตะวันออก และกลุ่มอเมริกาเหนือกำลังขยายขอบข่ายไปยังอเมริกากลางและใต้

การรวมกลุ่มกันเช่นนี้ ทำให้ (1) กำแพงภาษีนำเข้าลดลง เอื้อต่อการผลิต โดยวัตถุดิบและชิ้นส่วนสินค้าสามารถเคลื่อนย้ายกันได้อย่างเสรี ไม่มีต้นทุนทางภาษี หรือมีแต่น้อย และ (2) หลังผลิตเสร็จแล้ว ก็สามารถที่จะส่งขายในกลุ่มของตนได้อย่างอิสระ ทำให้ได้เปรียบการค้าและการผลิต เมื่อเทียบกับประเทศที่อยู่นอกกลุ่ม

จากมุมมองนี้ชัดเจนว่า เราอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ เพราะสหรัฐและยุโรปเป็น 2 ตลาดใหญ่ของโลก คาถาสำคัญสำหรับเอเชียก็คือ รวมกันเราอยู่ แยกกันคงลบาก เพราะถ้าเอเชียยังไม่เปลี่ยน ยังแยกกันอยู่เป็นประเทศ ๆ ความสามารถในการแข่งขันของแต่ละคนก็จะลดลง เพราะไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ต่างเป็นประเทศที่เล็กมาก ๆ

ถ้าวัตถุดิบและชิ้นส่วนที่ส่งไปมา ยังติดกำแพงภาษีนำเข้าอยู่ ครั้นผลิตแล้วก็ขายได้แค่ประเทศเดียว จะส่งไปที่อื่น ก็ติดระเบียบ ภาษี เอเชียโดยรวมก็ยากที่จะแข่งกับกลุ่มสหภาพ ยุโรปและกลุ่มอเมริกาได้

ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของการหาทางให้ประเทศในเอเชีย รวมกลุ่มกันให้ได้

ตรงนี้ ถือว่าโชคดีมาก ที่เมื่อรวมอาเซียน กับจีนและอินเดียแล้ว เราจะเป็นกลุ่มที่มีอำนาจต่อรองทางการค้าอย่างยิ่ง และอาเซียนจะกลายเป็นฐานการผลิตที่น่าดึงดูดใจสำหรับบริษัทข้ามชาติ ที่จะย้ายฐานการผลิตเข้ามาในอนาคต

ถ้าดีเช่นนี้แล้วทำไมหลายคนจึงต่อต้าน วิพากษ์วิจารณ์

ที่ต่อต้าน มีสาเหตุหลัก ๆ อยู่ 4 ประ เด็น (1) รัฐบาลไทยมีปัญหาอย่างมากในเรื่องการเตรียมการรองรับผลกระทบจากการเปิดเสรี เพราะโดยปกติแล้ว การเปิดเสรีจะทำให้ผู้ผลิตสินค้าบางกลุ่มต้องปรับตัว หรืออาจจะต้องหยุดผลิตไป แต่ช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลเร่งเจรจา เร่งเซ็นสัญญา เร่งโฆษณาผลงานมากไป ไม่เตรียมรองรับให้พอเพียง ผู้ผลิตที่ได้ผลกระทบจึงปรับตัวไม่ได้ ท้ายสุดก็ต้องออกมาบ่น มาวิพากษ์วิจารณ์

(2) กระบวนการเจรจาที่ผ่านมาไม่โปร่งใส ไม่แน่ใจว่าทำเพื่อใคร และใครได้ประโยชน์ที่คนสนใจอยากรู้ก็คือ รัฐบาลใช้อะไรเป็นเกณฑ์ ในการเลือกเปิดเสรีสินค้าประเภทต่าง ๆ ทำเพื่อพวกพ้องกลุ่มน้อย โดยเอาคนกลุ่มใหญ่ไปแลกเปล่า ด้วยเหตุนี้ ปัจจุบันจึงกำหนดให้นำสัญญาการเปิดเสรีทางการค้าเข้าพิจารณาในรัฐสภา เพื่อให้โปร่งใสมากขึ้น สะท้อนความต้องการของทุกคนมากขึ้น

(3) ในอดีต การเจรจาการค้าเสรี มักจะเป็นการเจรจาระหว่างไทยกับอีกประเทศ เช่น ไทย-สหรัฐ ไทย-ญี่ปุ่น ยิ่งทำให้ดูว่าถูกบังคับ ถูกเอาเปรียบได้ง่ายขึ้น คนก็เลยตั้งข้อสงสัย และ (4) ท้ายสุดพอเจรจาและลงนามเสร็จ ผู้ส่งออกที่ได้ประโยชน์กลับมีไม่มาก อาจจะเพราะไม่รู้ ไม่มีการโฆษณา ทำให้ไม่ได้มีการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่

ด้วยเหตุนี้ เมื่อเราเริ่มเจรจาเสรีการค้ารอบนี้ กระบวนการจึงโปร่งใสขึ้น เตรียมการรองรับมากขึ้น และพยายามให้ผู้ที่ควรได้รับประ โยชน์ได้รับประโยชน์มากขึ้น

เพื่อให้สัญญาเปิดเสรีการค้าที่เรากำลังทำอยู่ เป็นโอกาสสำคัญทางการพัฒนาเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจอาเซียนในอนาคต ก็ขอเอาใจช่วยทุกคนที่เกี่ยวข้องครับ.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook