เชลซี แซงชนะ แมวดำ 3-0นำพรีเมียร์

ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ฟอร์มหรูบุกพิชิต ม้าลายเขียวขาว เซลติก 2-0 เพลย์ออฟแชมเปี้ยนส์ ลีก อาร์แซน เวนเกอร์ มั่นใจฉลุย ด้าน ม่วงมหากาฬ ฟิออเรนตินา บุกตีเสมอ สปอร์ติง ลิสบอน 2-2 ขณะที่ สิงโตน้ำเงินคราม"เชลซี ครองจ่าฝูงพรีเมียร์ชิพสมใจบุกแซงชนะ แมวดำ ซันเดอร์แลนด์ 3-1

ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ นัดแรกคืนวันอังคารที่ 18 สิงหาคม "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ออกไปเยือน "ม้าลายเขียวขาว" เซลติก ที่สนามเซลติก ปาร์ค ท่ามกลางแฟนบอลเต็มสนามถึง 58,000 คน โดยเกมนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ ยังส่งนักเตะชุดเดียวกับที่ไปถล่ม เอฟเวอร์ตัน 6-1 ลงสนามทั้งชุด ซึ่งเกมในช่วงแรก เซลติก อาศัยการวิ่งสู้ฟัดสู้กับทีมปืนใหญ่ได้อย่างสูสี จนกระทั่งนาทีที่ 43 ทีมเยือนมาได้ประตูนำแบบมีโชคเมื่อ โรบิน ฟานเพอร์ซี ไหลลูกฟรีคิกให้ เชส ฟาเบรกาส ยิงแฉลบ วิลเลียม กัลลาส์ เข้าไป จบครึ่งแรก อาร์เซนอล นำ 1-0

เข้าครึ่งหลังทีมของ เวนเกอร์ เล่นกันผ่อนคลายขึ้น ก่อนมาได้ประตูย้ำชัยชนะแบบมีโชคช่วยอีกเหมือนเดิมเมื่อ กาแอล คลิชี ผ่านบอลจากทางซ้ายเข้าเขตโทษ เป็น แกรี คัลด์เวลล์ ที่สกัดบอลพลาดเข้าประตูตัวเองไป จบเกม อาร์เซนอล จึงบุกมาชนะ 2-0 ก่อนไปเล่นกันที่เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม วันที่ 26 สิงหาคม

หลังจบเกม เวนเกอร์ กล่าวอย่างมั่นใจว่าทีมน่าจะผ่านรอบนี้ไปได้ แม้ว่ายังมีเกมอีก 90 นาทีที่เหลือที่เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ลูกทีมยังต้องเล่นกันเต็มทีมเหมือนเดิม

"การเข้ารอบยังไม่ร้อย เปอร์เซ็นต์ แต่เราชนะเกมเยือน ตอนนี้เรามีโอกาสดีมากที่จะเข้ารอบ แต่เรายังไม่ได้เข้าไป การต่อสู้มี 180 นาที และเราต้องเล่นให้ดีทั้ง 180 นาที" เวนเกอร์เผย

ขณะที่ "ม้าขาว" สตุ๊ตการ์ท ของเยอรมนี ออกไปเยือน ทิมิซัวรา ของโรมาเนีย ก่อนเอาชนะไปได้ 2-0 เช่นกันจากจุดโทษของ ทิมโม เกบฮาร์ท นาทีที่ 28 และ อเลกซานเดอร์ ฮเลบ นาทีที่ 30 ทำให้โอกาสเข้ารอบสดใส

"ม่วงมหากาฬ" ฟิออเรนตินา ของอิตาลีไปเยือน สปอร์ติง ลิสบอน ที่โปรตุเกส และออกนำ 1-0 ก่อนตั้งแน่นาทีที่ 6 จาก ฮวน วาร์กาส ก่อนที่เจ้าถิ่นจะตีเสมอได้จาก ไซมอน วูซินิช นาทีที่ 58 แต่ วูซินิช ไปถอดเสื้อดีใจทำให้โดนใบเหลืองใบที่ 2 ออกจากสนามไป ซึ่ง 10 คนของ สปอร์ติง ก็มาได้ประตูนำจาก มิเกล เวโลโซ นาทีที่ 66 เป็น 2-1 แต่สุดท้าย อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน มาตีเสมอให้ทีมเยือนได้นาทีที่ 79 จึงเสมอกันไป 2-2

ผลคู่อื่นๆ เอฟซี โคเปนเฮเกน ของเดนมาร์ก ชนะ อาโปเอล นิโคเซีย ของไซปรัส 1-0 และ เชอริฟฟ์ ของมอลโดวา แพ้ โอลิมเปียกอส ของกรีซ 0-2

ด้านการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ยกพลออกไปเยือน "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ โดยเกมนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือทีมเยือนมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นหลายตำแหน่งส่ง เดโก้, มิชาเอล บัลลัค และ ซาโลมง คาลู ลงมาเป็นตัวจริง ซึ่งเกมในช่วงแรกถือว่าครองเกมได้ดี แต่ต้องมาเสียประตูก่อนนาทีที่ 18 เมื่อ เคนวิน โจนส์ ยิงแฉลบ จอห์น เทอร์รี มาเข้าทางให้ ดาร์เรน เบนท์ ยิงเป็น 1-0

ช่วงครึ่งหลัง เชลซี ยังโหมได้หนักเหมือนเดิมนาทีที่ 52 ก็ตีเสมอได้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช โหม่งเสยลูกเตะมุมให้ มิชาเอล บัลลัค ยิงที่เสาสองเป็น 1-1 ก่อนแซงนำ 2-1 นาทีที่ 59 หลังจาก ดิดิเยร์ ดร็อกบา โดน จอร์จ แม็คคาร์ทนีย์ ฟาวล์ในเขตโทษ แฟรงค์ แลมพาร์ด สังหารจุดโทษเข้าไป และมาได้ประตูย้ำชัยเด็ดขาดจากลูกยิงหน้าเขตโทษของ เดโก้ นาทีที่ 70 เชลซี จึงบุกมาชนะไป 3-1 เก็บชัยชนะ 2 นัดรวดพร้อมขึ้นจ่าฝูง

คาร์โล อันเชล็อตติ เผยหลังเก็บ 6 แต้มเต็มจาก 2 นัดของฤดูกาลใหม่ว่า เกมนี้เป็นเกมที่ลูกทีมกลับมาเล่นได้ดี และแม้ว่าจะโดนนำก่อนในครึ่งแรกก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เพราะมีเกมที่เหนือกว่าอยู่แล้ว

"ผมมีความสุข เราได้เห็นทีมที่เล่นได้ดีมาก แม้กระทั่งครึ่งแรกที่เราตามหลังอยู่ 1 ประตู เราไม่ได้เสียสมาธิไป มีการเล่นคุณภาพจากพวกเรา และเราชนะในครึ่งหลัง ตอนพักครึ่งผมบอกให้พวกเขาลุยต่อเพราะครึ่งแรกก็เป็นครึ่งที่ดีของพวกเรา ทั้งๆ ที่เราเล่นกับทีมที่แข็งแกร่งพอดู" อันเชล็อตติกล่าว

ส่วน เกมอีกคู่ที่ เจเจบี สเตเดี้ยม วีแกน เปิดบ้านรับ "หมาป่า" วูล์ฟแฮมป์ตัน น้องใหม่ และมีประตูเกิดขึ้นเพียงประตูเดียวจาก แอนดรูว์ ค็อก นาทีที่ 6 ส่งผลให้ วูล์ฟ บุกมาพลิกล็อกชนะไป 1-0