เสื้อแดงนับหมื่นรวมตัวสนามหลวง จนท.คุมเข้ม วิเชียรยันเข้าระงับเหตุได้ใน 1 ชม. หากปะทะกับน้ำเงิน

เสื้อแดงนับหมื่นรวมตัวสนามหลวง จนท.คุมเข้ม วิเชียรยันเข้าระงับเหตุได้ใน 1 ชม. หากปะทะกับน้ำเงิน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เสื้อแดงนับหมื่นรวมตัวสนามหลวง จนท.คุมเข้มโดยรอบ ตร.เชื่อเอาอยู่ เผย ทภ.1 เตรียมการไว้รองรับ ประเมินตจว.เข้ากรุง7.5พันคน ชุมนุมยื่นฎีกาสนามหลวง พท.ปูดบุรีรัมย์จ่ายเงินระดมฮาร์ดคอร์หวังให้ปะทะกัน เสื้อแดงโต้บวรศักดิ์ อ้างดูให้ดี อ้างยื่นได้ แม้วเตรียมโฟนอินเผยความในใจ เสื้อแดงนับหมื่นรวมตัวสนามหลวง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณท้องสนามหลวง ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันที่ 17 สิงหาคมพบว่ามีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 1 หมื่นค ที่เดินทางมาด้วยรถบัส รถกระบะ รถเก๋งและรถแท็กซี่ทยอยกันมาถึงบริเวณสนามหลวง ส่วนมากจากทางภาคเหนือและภาคอีสาน เช่น เชียงใหม่ ลำปาง นครสวรรค์ อุดรธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ รวมทั้ง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อมาปักหลักชุมนุมบริเวณด้านทิศเหนือ ฝั่งสะพานสมเด็จพระปิ่นกล้า แต่ฝนที่ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักและมีน้ำเจิ่งนอง ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงต่างพากันวิ่งเข้าไปหลบฝนภายในเต็นนท์ ขณะที่บางคนก็ใช้ร่มกางกันฝน ขณะที่รอบ เวทีปราศรัยก็มีการตั้งเต็นท์ออกร้านขายของที่ระลึก เช่น ผ้าโพกหัว เสื้อความจริงวันนี้ ซีดีบันทึกการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แก่ผู้มาร่วมชุมนุมและมีการเปิดเวทีด้วยการแสดงดนตรี สร้างความคึกคักให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง ท่ามกลางการ์ดของนปช.ที่สวมชุดดำกว่า 500 คน เดินตรวจเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากคุมเข้มด้านนอกรอบสนามหลวงและพระบรมมหาราชวังและพื้นที่ใกล้เคียง

วิเชียร ยันเข้าระงับเหตุได้ใน1ช.ม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางตรวจความเรียบร้อยการดูแลพื้นที่บริเวณท้องสนามหลวง ตั้งแต่กลางดึกวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในวันที่ 17 สิงหคมนี้ จะมีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เตรียมยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมกำชับให้ตำรวจใช้ความอดทนอดกลั้น และห้ามใช้กำลัง ก่อนปล่อยแถวตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 1,000 นาย ตรวจอาวุธรอบพื้นที่สนามหลวง

พล.ต.อ.วิเชียร กล่วว่า เตรียมกำลังตำรวจ 28 กองร้อย หรือกว่า 4,000 นาย หากเกิดความรุนแรงขึ้นสามารถเรียกมาระงับเหตุได้ภายใน 1 ชั่วโมง ส่วนการยื่นถวายฎีกาฯ จะไม่อนุญาตให้แกนนำเข้าเขตพระบรมมหาราชวัง แต่จะให้ยื่นหน้าประตูประตูวิเศษไชยศรีเท่านั้น ส่วนการป้องกันกลุ่มผู้สนับสนุน นายเนวิน ชิดชอบ มาเผชิญหน้ากับกลุ่มเสื้อแดง ได้วางแผงเหล็กกั้นทั้งฝั่งศาลฎีกาและฝั่งสนามหลวง พร้อมใช้กำลังตำรวจ 4,000 นาย หมุนเวียนยืนตั้งแถวสกัด ไม่ให้ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน และจะตรวจอาวุธผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมอย่างเข้มงวด

ตร.เชื่อคุมอยู่-ทหาร5กองร้อยรับมือ

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เป็นประธานประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) รอง ผบช.น. ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 (ผบก.น.1-9) ผบก.ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ ผบก.ตำรวจจราจร ผบก.อำนวยการ ตัวแทนกองทัพภาคที่ 1 ตัวแทนกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุมใหญ่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม เพื่อเตรียมความพร้อมการรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมยื่นถวายฎีกาในวันที่ 17 สิงหาคม

พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวก่อนเข้าประชุมว่า มั่นใจในเรื่องการเตรียมความพร้อมว่า กลุ่มผู้ชุมนุมทุกฝ่ายคงไม่อยากให้เกิดความไม่สงบ ส่วนเรื่องนี้ทางตำรวจเองไม่เห็นด้วยกับการถวายฎีกา แต่ทางสำนักราชเลขาธิการได้กรุณาจัดผู้แทนออกมารับฎีกา ตำรวจก็จะช่วยดูแลจัดความสงบเรียบร้อย การจัดเจ้าหน้าที่ดูแลเอกสาร การตรวจสอบว่าเป็นฎีกาถูกต้องก็จะยื่นใส่รถ เมื่อเรียบร้อยก็จะบรรทุกเข้าสำนักพระราชวัง เบื้องต้นคาดว่า น่าจะมีการจัดส่งไปที่ประตูวิเศษไชยศรีและฝ่ายผู้ชุมนุม สื่อมวลชน ก็จะรอด้านนอก การชุมนุมครั้งนี้ ผู้แทนกองทัพภาคที่ 1 เตรียมกำลังไว้ 4-5 กองร้อย หากตำรวจร้องขอ โดยในชั้นนี้ 10 กองร้อยที่ ผบช.น.เตรียมไว้ และกำลัง ภาค 1, 2, 7, บช.ก. และ ตชด. ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ยังไม่จำเป็นต้องใช้ทหารออกมาในชั้นนี้

ประเมินตจว.เข้ากรุง7.5พันคน

กระทรวงมหาดไทยได้มีการรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงที่จะเข้าร่วมชุมนุมที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 17 สิงหาคม โดยมีการรายงานตัวเลขผู้เข้าร่วมชุมนุมที่จะเดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ ในวันที่ 16 สิงหาคม ประมาณ 7,500 คน จาก 1.ปริมณฑล 1,200 คน แบ่งเป็น จ.สมุทรปราการ 800 คน ปทุมธานี 300 คน และสมุทรสาคร 100 คน 2.ภาคเหนือ 2,030 คน จากเชียงใหม่ 1,050 คน ลำพูน 210 คน ลำปาง 440 คน แพร่ 80 คน ตาก 100 คน และน่าน 150 คน 3.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2,700 คน จาก สุรินทร์ 30 คน บุรีรัมย์ 20 คน เลย 10 คน หนองบัวลำภู 10 คน อุดรธานี 250 คน นครพนม 80 คน สกลนคร 1,000 คน ขอนแก่น 500 คน นครราชสีมา 500 คน และชัยภูมิ 300 คน และ 4.ภาคกลาง 1,450 คน จากสระแก้ว 50 คน พระนครศรีอยุธยา 200 คน สระบุรี 200 คน อ่างทอง 50 คน เพชรบุรี 100 คน ประจวบคีรีขันธ์ 100 คน ชลบุรี 200 คน จันทบุรี 100 คน จ.ตราด 350 คน และปราจีนบุรี 100 คน

พท.ปูดบุรีรัมย์ระดมฮาร์ดคอร์

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษก พท. แถลงว่า ได้รับหนังสือร้องเรียนของกลุ่มอีสานรักประชาธิปไตย โคราช-บุรีรัมย์ ต่อต้าน 2 มาตรฐาน ที่ระบุว่าในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ มีความพยายามของนักการเมืองใหญ่ที่จะระดมคนระดับฮาร์ดคอร์ โดยใช้กลไกผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาที่สนามหลวงในวันที่ 17 สิงหาคมนี้ โดยทุ่มเงินกว่า 10 ล้านบาท ในพื้นที่ 23 อำเภอของบุรีรัมย์ ตกอำเภอละประมาณ 5 แสนบาท โดยให้ค่าหัวผู้มาชุมนุมรายละ 1 พันบาท แต่ไม่รู้วัตถุประสงค์ของการระดมคนมา อาจจะต้องการให้เหมือนกับเหตุการณ์ที่พัทยา จ.ชลบุรีก็เป็นไปได้ จึงอยากเตือนให้นายอภิสิทธิ์จับตาดูขบวนการดังกล่าวว่า จะเป็นความพยายามสร้างสถานการณ์ให้คนอีกกลุ่มเข้ามาควบคุมสถานการณ์ และผลักให้นายอภิสิทธิ์ตกเก้าอี้ พร้อมทั้งดึงให้ประเทศไทยถอยหลังไปอีกหรือไม่ และขอเตือนว่าหากเกิดการปะทะกันระหว่างคนกลุ่มไหนก็แล้วแต่ รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบโดยตรง จึงขอให้จับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย

แดงโต้บวรศักดิ์-ชัดยื่นถวายฎีกาได้

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ราชบัณฑิต อ้างอิงเนื้อหาจากวิทยานิพนธ์ ยกพระราชดำรัสในหลวง เมื่อปี 2506 การถวายฎีกาต้องสำนึก และยอมรับผิดจริงๆ ว่า อ่านเนื้อหาในบทความที่นายบวรศักดิ์เขียนพบว่าแม้จะเห็นความพยายามในการรับใช้ฝ่ายอำมาตย์อย่างเต็มที่ แต่ข้อดีของบทความนี้ก็ทำให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมว่า การถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นเรื่องที่สามารถกระทำได้ เพราะในบทความของนายบวรศักดิ์ได้หยิบเนื้อหาจากวิทยานิพนธ์ที่มีหลักการกับข้อเท็จจริงขัดกันอย่างชัดเจน คือนายบวรศักดิ์อธิบายว่า การถวายฎีกาต่อหน้าพระพักตร์ในระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯทรงเยี่ยมราษฎรเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย และจะต้องส่งฎีกากลับมาเริ่มต้นใหม่ยังหน่วยงานของรัฐบาล เพราะนายบวรศักดิ์ได้ยกตัวอย่าง คือกรณีเมื่อปี 2509 ที่กลุ่มนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจำนวน 9 คนได้ถวายฎีกาต่อพระองค์ท่าน ขณะที่กำลังเสด็จออกจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณรับฎีกา และมีพระราชดำรัสให้อธิการบดี คณาจารย์ และนิสิตที่ถวายฎีกาในวันเดียวกัน หากนายบวรศักดิ์อ้างว่าการถวายฎีกาต่อเบื้องพระพักตร์เป็นเรื่องผิดขั้นตอนของกฎหมาย ก็ต้องอธิบายว่า แล้วการที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับฎีกาจากนิสิตเหล่านั้นแล้วมีพระราชดำรัสให้อภัยในวันเดียวกันนั้น หมายความว่าอย่างไร

แขวะเดาใจฟ้า-ไอ้นั่นมันเด็กตีกัน

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า กรณีที่นายบวรศักดิ์อ้างในเหตุการณ์เดียวกันว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสว่า การถวายฎีกาให้อภัยโทษจะต้องมีความสำนึกผิดทางใจ มิใช่ถวายฎีกาแต่เพียงลายลักษณ์อักษร นายบวรศักดิ์ต้องเข้าใจว่า กรณีดังกล่าวแตกต่างกัน เพราะเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นการทะเลาะวิวาทกันระหว่างนิสิตต่างคณะ แล้วทางมหาวิทยาลัยจะลงโทษโดยการให้ออก นิสิตกลุ่มหนึ่งจึงทูลเกล้าฯถวายฎีกา พระองค์ท่านจึงมีพระราชดำรัส ซึ่งถือเป็นการให้ข้อคิดต่อคณะนิสิตกลุ่มนั้น นายบวรศักดิ์จะยืนยันได้อย่างไรว่า ต่อกรณีการฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงนี้ พระองค์ท่านจะมีพระบรมราชวินิจฉัยอย่างเดียวกัน

ไอ้นั่นมันเด็กตีกัน พระองค์ท่านก็เลยบอกว่า นี่ ถวายฎีกาแล้วต้องรับผิดด้วย ก็คือสอนเด็ก แต่ว่าวันนี้สถานการณ์มันต่างกัน นายบวรศักดิ์จะแน่ใจได้อย่างไร ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะมีพระราชดำรัสอย่างเดียวกัน สาเหตุหนึ่งที่ทำให้สังคมไทยวุ่นวายจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะมีกลุ่มคนประเภทเดียวกันนายบวรศักดิ์ที่ชอบทำตัวเป็นพวกเดาใจฟ้า แล้วกล่าวอ้าง ต่างๆ นานาเพื่อผลประโยชน์ของตน นายณัฐวุฒิกล่าว

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า จะเห็นได้ชัดว่าขนาดนิสิตทะเลาะกัน ก็ยังไปทูลเกล้าฯถวายฎีกา และได้พระมหากรุณาธิคุณ แล้วกับกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มาจากการเลือกตั้ง แล้วถูกยึดอำนาจ และใช้กระบวนการ ตุลาการในระบบเผด็จการตัดสินคดีให้มีความผิด ทำไมจะยื่นฎีกาไม่ได้ นายบวรศักดิ์ต้องอธิบายแล้วให้อธิบายจากบทความที่ตัวเองสอน แล้วอยากให้คนอย่างนายบวรศักดิ์ได้สำนึกตัวและหยุดเดาใจฟ้า เพื่อให้เรื่องเล่านี้เป็นเรื่องพระบรมราชวินิจฉัย ซึ่งคนเสื้อแดงยินดีที่จะเคารพ และน้อมนำไปปฏิบัติโดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ

เสื้อแดงเหนือ-ใต้เคลื่อนสมทบ

ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ 51 ปักหลักอยู่ที่โรงแรมวโรรส แกรนด์พาเลซ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยแกนนำปลุกระดมประชาชนผ่านวิทยุชุมชนเดินทางไปเข้า กทม.อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้มีผู้ทยอยเข้ารวมตัว พร้อมสัมภาระกว่า 300 คน จากที่ตั้งเป้าให้ได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 คนเพื่อขึ้นรถโดยสารที่จัดเตรียมไว้เดินทางไปรวมกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ ในเช้าวันที่ 17 สิงหาคม โดยบางส่วนเตรียมเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่นครสวรรค์ก่อนเดินทางเข้า กทม.

ที่บริเวณศาลาสมประสงค์เทศบาลเมืองกันตัง เขตเทศเมืองกันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง กลุ่มคนเสื้อแดง 10 จังหวัดภาคใต้ ในนามเครือข่ายสมาพันธ์รักประชาธิปไตยภาคใต้ จาก จ.ภูเก็ต ชุมพร ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง สตูล พัทลุง สุราษฎร์ธานี และสงขลา กว่า 200 คน นำโดยนายรัตน์ ภู่กลาง ประธานสมาพันธ์รักประชาธิปไตยภาคใต้ และนายสมาน ลิปประพันธ์ รองประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดตรัง ชุมนุมและรับฟังการแถลงการณ์ในการถวายฎีกาก่อนออกเดินทางสมทบเสื้อแดงที่ กทม.

แม้วเตรียมโฟนอินเผยความในใจ

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เขียนข้อความไว้ในเฟซบุ๊ก ถึงการเตรียมการโฟนอินเข้าไปสื่อสารกับกลุ่มคนเสื้อแดงในวันยื่นถวายฎีกาว่า วันนี้ผมจะอยู่บ้านเพื่อเตรียมร่างสิ่งที่จะพูดกับพี่น้องที่สนามหลวงพรุ่งนี้ (17 สิงหาคม) ถึงความในใจที่อยากจะพูดมานานแล้ว แต่โอกาสไม่เหมาะเท่าพรุ่งนี้ครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook