''นายกฯข้าราชการ''จวกตั้งปลัดมหาดไทย

''นายกฯข้าราชการ''จวกตั้งปลัดมหาดไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
''เติ้ง''อวยพรให้''เนวิน''รอดพ้นในคดีกล้ายาง

มานิต วัฒนเสนยังไม่ทันนั่งปลัด มท.เก้าอี้ร้รอนฉ่านายกฯข้าราชการออกโรงสวดไม่คำนึงระบบคุณธรรม กระทบขวัญกำลังใจลูกหม้อคลองหลอด ชี้ผลงานยังไม่เป็นที่ประจักษ์ เย้ยเป็นได้ร่างทรงนักการเมือง ซัด วิชัย ศรีขวัญ ต้องรับผิดชอบฐานเออออตามใบสั่งการเมือง ส่วน เทพเทือก อ้างมารยาทไม่ก้าวก่ายภูมิใจไทย ด้าน พท.-ปชป. ใช้กลไกสภาลุยเพื่อนเนวิน ขณะที่ ภูมิใจไทย ชงนิรโทษกรรม เหลือง-แดง-สีกากี พ้นบ่วง ส่วน ฎีกาเสื้อแดง จากสำนักราชฯ ถึงมือรัฐนาวาแล้ว มาร์ค แย้มอาจใช้เวลามากกว่า 60 วันด้วยซ้ำ ฟาก ตุ๊ดตู่ ฮึ่มนานเกินรอเจอล่าชื่อถอดถอนแน่ ไม่เล่นตามเกม ภท. ด้วย ฝ่าย เสื้อเหลือง รู้ทันไม่เล่นด้วย ส่วน ป.ป.ช. คาดชี้มูลสลายม็อบ 7 ต.ค. 51 ต้นเดือนหน้า หลัง ผบ.ตร. หน้าระรื่นแจงไม่ได้สั่งลุย ฝ่าย อสส. ไฟเขียว สั่งฟ้อง นปช. บุกสี่เสาเทเวศร์แล้ว ด้านบรรหาร อวยพร เนวิน พ้นคุกคดีกล้ายาง ส่วนคดี หวยบนดิน นัดพิพากษา 30 ก.ย. นี้ ห้ามจำเลยไปเมืองนอก ขณะที่ กอร์ปศักดิ์ ทิ้งเก้าอี้ ปธ.บอร์ดพอเพียง ส่งไม้ให้ มีชัยสายรุ้ง กุมบังเหียนต่อ ด้าน เพื่อไทย โต้แหลกไม่มีเอี่ยว

บรรหารทำบุญวันเกิด 77 ปี

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ตั้งแต่เวลา 07.00 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ และอดีต หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้เปิดบ้านพักย่านซอย จรัญสนิทวงศ์ 53 ให้บรรดาข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน และนักการเมือง เข้าอวยพรเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดอายุ 77 ปี นายบรรหารพร้อมครอบครัว ได้ร่วมกันตักบาตรพระสงฆ์ 12 รูป และเป็นที่น่าสังเกตว่า นายบรรหารได้แต่งกายด้วยกางเกงสีขาวและเสื้อสีฟ้า โดยระบุว่า ใส่เสื้อสีฟ้า เพราะตรงกับสีวันเกิดซึ่งเป็นวันศุกร์ ส่วนกางเกงขาว เพราะสีขาวนั้นบริสุทธิ์ ในวันเกิด ปีหน้าได้ตั้งใจไว้แล้วว่าจะใส่กางเกงสีแดง เสื้อเหลือง พร้อมด้วยหมวกสีน้ำเงิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดานักการเมืองได้ทยอยเข้าอวยพรนายบรรหาร อาทิ นายประภัตร โพธสุธน อดีตเลขาธิการพรรคชาติไทย นำคณะอดีต ส.ส.พรรคชาติไทย เข้ามาอวยพร จากนั้น พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ และ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา นำคณะ ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา เข้าอวยพร

อวยพร เนวิน หลุดคดีกล้ายาง

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายเนวิน ชิดชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้นำกระเช้ามาอวยพร โดยนายบรรหารได้เรียก นายเนวินเข้ามาสวมกอดพร้อมยังอวยพรด้วยว่า วันที่ 21 ก.ย. นี้ โอมเพี้ยงขอให้พ้นทุกข์ภัย ส่วนนายเนวินได้ก้มกราบอกนายบรรหาร ทั้งนี้นายเนวิน ได้อวยพรขอให้คุณอาบรรหารเป็นหลักของบ้านเมือง ขณะที่อดีตนายกฯ กล่าวตอบว่า เมื่อพ้นภัยแล้วขอให้ช่วยรัฐบาลทำงานต่อไป และขอ ฝากตัวอาไว้ให้เนวินดูแลด้วย

ต่อมานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อม ส.ส.พรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่ง นายไชยยศ จิรเมธากร แกนนำพรรคเพื่อไทย รวมทั้งนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าอวยพรนายบรรหารตามลำดับ

ให้กำลังใจ-แซวมาร์คมีลูกอีก

จากนั้นเวลา 12.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ได้นำแจกันดอกไม้มาอวยพรนายบรรหารด้วยตัวเอง โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวอวยพรนายบรรหารให้มีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังกายและกำลังใจทำประโยชน์ให้บ้านเมือง ส่วนนายบรรหาร กล่าวตอบว่า ขอให้กำลังใจนายอภิสิทธิ์เช่นกัน เพราะการเป็นนายกฯ ไม่ง่าย ต้องใช้ความอดทน หากมีอะไรขอให้บอกมาตนยินดีให้ความช่วยเหลือ และขอพูดแทนในนามพรรคชาติไทยพัฒนาว่าจะร่วมมือทำงานอย่างเต็มที่ ตราบจนกว่านายกฯ จะเบื่อ ส่วนการทำงานต้องมีข้อบกพร่อง ดังนั้นต้องหาจุดบกพร่องแล้วแก้ไข ใช้ความอดทน ประนีประนอม หากทำได้จะเป็นรัฐบาลได้ถึง 8 ปี

นายอภิสิทธิ์ ยังบอกนายบรรหารด้วยว่า วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของตัวเอง ทำให้นายบรรหาร กระเซ้านายอภิสิทธิ์ว่า ขอให้มีลูกอีก สองคนมันน้อยไป ทั้งนี้ก่อนหน้านั้นนายบรรหาร ได้กล่าวกับสมาชิกพรรคชาติไทยฯ ตอนหนึ่งว่า ให้คำมั่นสัญญาว่าเมื่อพ้นการเว้นวรรค 5 ปี แม้ว่าจะอายุ 80 ปีก็จะเล่นการเมืองต่อไป

หนุน รบ. ไม่ขวางฎีกาเสื้อแดง

นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ และอดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มีเพื่อนฝูงมีรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลมาอวยพร รวมทั้งอดีตพรรคชาติไทยและพรรคชาติไทยพัฒนาก็ให้ข้อคิดว่าตอนนี้ปัญหาของบ้านเมืองมีมาก พวกเราอยู่ร่วมรัฐบาลก็ต้องช่วยกัน ถ้าเห็นอะไร ที่ไม่ถูกต้องก็ต้องค้านในสิ่งที่สร้างสรรค์และ ภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ ตนมั่นใจว่าถ้างบกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเข้มแข็งได้ออกไปสู่พื้นที่ต่าง ๆจะเห็นผลในอีก 3-4 เดือน ทำให้ภายในปีนี้เศรษฐกิจจะผงกหัวขึ้น แต่ถ้าเศรษฐกิจดีขึ้นแล้วการเมืองไม่ดีขึ้น ก็จะทำให้เศรษฐกิจแย่ลงไปด้วย เพราะฉะนั้นวิงวอนทุกฝ่ายพยายามใช้ความอดทน อะไรที่เห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำก็ไม่ต้องทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง

ส่วนการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทาน อภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ของกลุ่มเสื้อแดงนั้น อดีตนายกฯ กล่าวว่า ถ้าเบรกแล้วมีปัญหาเลือดตกยางออกเกิดขึ้น รัฐบาล ก็ต้องปล่อยให้ยื่น

ไม่เชื่อ นิรโทษกรรม ยุติศึกได้

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยบินไปคุยกับ รมว. กลาโหม และ ผบ.เหล่าทัพที่ประเทศสิงคโปร์จนทำให้มีข่าวการปฏิวัติเงียบ นายบรรหาร กล่าวว่า กระแสข่าวก็คือกระแสข่าว นายเนวินได้ยืนยันกับตนว่าไม่ได้ไป ต้องบอกตรง ๆ ว่ารัฐบาลนี้จัดตั้งได้เพราะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นนั่งร้านที่ทำให้นายอภิสิทธิ์ขึ้นมาเป็นนายกฯ จึงอยากบอกว่านายสุเทพมีความสำคัญต่อรัฐบาลชุดนี้ และได้บอกพรรคร่วมรัฐบาลว่ามีอะไรก็ให้นายสุเทพดูแล ตนจะไม่ก้าวล่วงไปทางพรรคประชาธิปัตย์

ส่วนกรณีพรรคภูมิใจไทยเสนอร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม นายบรรหาร กล่าวว่า อยู่ที่ว่าเสนอไปแล้วทั้งสองฝ่ายยอมรับและยอมเลิกหรือไม่ จะปลดสีเสื้อของตัวเองมาใส่เสื้อสีขาวหรือไม่ ปัญหามันอยู่ตรงนี้ อย่างไรก็ตามการนิรโทษกรรมดังกล่าวไม่ควรครอบคลุมไปถึงนักการเมือง เพราะนักการเมืองมีกฎหมายกำหนดไว้

แม้วไม่เคยโทรฯ หลังสลับขั้ว

ต่อข้อถามว่า การที่ฝากแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลให้ช่วยดูแลพรรคชาติไทยพัฒนาด้วยหมายความว่าอย่างไร นายบรรหาร กล่าวว่า ตนบอกให้ช่วยดูแลพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน คุณดูผม ผมดูคุณ ไม่ใช่ให้คุณดูผมฝ่ายเดียว ต่างคนต่างดู ถ้อยทีถ้อยอาศัย และที่ฝากคุณเนวินดูแลหมายถึง ตัวผมจะไปฝากให้ดูแลพรรคผมได้อย่างไร เพราะ ผมอายุมากแล้วเขายังหนุ่มอยู่ ผมอายุมากแล้วไปไหนก็จูงมือหน่อย อย่าแปลความหมายผิด ไม่ได้หมายถึงให้ดูแลพรรค วันที่ 21 ก.ย. เขาได้รับความทุกข์ก็อยากให้พ้นทุกข์ก็เท่านั้น อยากจะไปบนเจ้าพ่อเจ้าแม่ก็ไม่ได้ อย่างพรรคชาติไทย ผมบนเจ้าพ่อเจ้าแม่ถึง 20 แห่งไม่สำเร็จสักแห่งเลย นายบรรหาร กล่าว

เมื่อถามถึง พ.ต.ท.ทักษิณ โทรศัพท์มาอวยพรหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ตั้งแต่เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยโทรศัพท์มาหาเลย เมื่อถามต่อว่า หากโทรฯ มาจะบอกอะไร นายบรรหาร กล่าวว่า จะชวน ไปกินหูฉลาม เมื่อถามย้ำว่าต้องไปที่ดูไบ นายบรรหาร กล่าวว่า ไปกินที่ร้านซ้งไม่ได้หรือ

มาร์คฉะตุ๊ดตู่หยุดพูดเท็จ

ที่บ้านพักนายบรรหาร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการพิจารณาการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า ปกติแล้วเรื่องนี้จะมาไม่ถึงตน เพราะได้มอบหมายงานนี้ให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้ดูแล ฉะนั้นถ้าเรื่องส่งมาถึงก็จะไปอยู่ที่นายสุเทพและต้องปฏิบัติตามขั้นตอน คือ ส่งให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณา

ส่วนกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำแนวร่วมประชาธิป ไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง จะออกมาเคลื่อนไหวโจมตีรัฐบาล หากรัฐบาลพยายามดึงเรื่องและขัดขวางการถวายฎีกาทั้งที่น่าจะพิจารณาได้ก่อน 60 วันนั้น นายกฯ กล่าวว่า ทำไมรัฐบาลต้องไปขัดขวางแล้วเวลาประชาชนคนอื่นที่เดือดร้อนและครอบครัวเขียนอะไรมาไม่ได้มีอะไรซับซ้อนก็ต้องใช้เวลา 60 วัน แล้วคุณจตุพรทำไมจะต้องมีสิทธิพิเศษเหนือคนอื่น ความจริงต้องไม่ต่ำกว่า 60 วันด้วยซ้ำ เพราะ 60 วันถือว่าเร็วแล้ว เพราะต้องมีการตรวจสอบ ตรงนี้เป็นเรื่องปกติ ฉะนั้นขอความกรุณาอย่ากล่าวเท็จต่อสาธารณะ

สำนักราชฯส่งฎีกาให้รัฐบาล

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ไม่มีอะไรเลยที่ไปขัดขวาง ตนได้บอกกับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการนี้ ให้ปฏิบัติตามปกติ ปฏิบัติกับกรณีอื่นเช่นใดก็ขอให้ปฏิบัติกับกรณีนี้เช่นนั้น เมื่อถามว่า นายจตุพรเป็นผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการประกันตัว กรณีนี้ถือว่าเข้าข่ายการยุยงปลุกปั่นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ แต่ผมอยากจะเตือนคุณจตุพร เพราะผมฟ้องไป 2 คดีแล้วที่กล่าวเท็จเกี่ยวกับผม ความจริงมากกว่า 2 เรื่อง ดังนั้นอย่าได้กล่าวเท็จต่อไป และอยากให้ประชาชนใช้ดุลพินิจว่าที่กล่าวเท็จใส่ร้ายผมมากี่ครั้งแล้ว ต่อมาพิสูจน์ว่าไม่เป็นความจริง ก็ไม่เคยมีความรู้สึกว่าจะหยุดพฤติกรรม

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในเรื่องเดียวกันว่า ก่อนการประชุม ครม. วันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา เลขาธิการ ครม. ได้รายงานว่าสำนักราชเลขาธิการได้ส่งเรื่องดังกล่าวมาแล้ว ขั้นตอนจากนี้ไปทางสำนักเลขาธิการ ครม. เตรียมส่งให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการต่อไปหากดูแล้วว่าเป็นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว

รัฐนาวายันไม่เตะถ่วงดึงเกมยาว

นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า ขั้นตอนการตรวจสอบอาจต้องใช้เวลามาก เพราะรายชื่อมีเป็นล้านคน ดังนั้นการตรวจสอบรายชื่อว่ามีใครเข้าข่ายว่าเป็นญาติหรือเป็นคนที่มีผลประโยชน์เกี่ยวเนื่องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ คงต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตามไม่อยากให้กลุ่มเสื้อแดงใช้วิธีการชุมนุมใหญ่ อีก เพราะรัฐบาลไม่มีเจตนาที่จะไปถ่วงรั้งอะไร ทุกอย่างว่าไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาในเรื่องการอภัยโทษนั้น ก็เป็นกฎหมายที่แก้ในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ และมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา เป็น รมว.ยุติธรรม อย่างไรก็ตามยืนยันว่ารัฐบาลเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายสามารถใช้สิทธิตามกฎหมายได้อยู่แล้ว

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4/2552 เพื่อสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในชาติว่า ความปรอง ดองที่จะเกิดได้ง่ายที่สุดคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องหยุดความเคลื่อนไหวโฟนอิน หยุดการสนับสนุนด้านเงินทุนให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง

ซัดนปช.ปลุกผีคอมมิวนิสต์

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า เชื่อว่าหลังการถวายฎีกา กลุ่มคนเสื้อแดงคงไม่ยุติบทบาทลงง่าย ๆ เพราะการยุติความเคลื่อนไหวทางการเมืองก็เปรียบเสมือนการปิดช่องทำมาหากิน จากนี้ไปคงจะมีกิจกรรมความเคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ อีก ทั้งแนวคิดตั้งโรงเรียนอบรมคนเสื้อแดงทุกจังหวัดทั่วประเทศ ถือเป็นการจัดตั้งมวลชนรูปแบบหนึ่ง อยากจะถามว่าจะจัดตั้งโรงเรียนอย่างเป็นทางการหรือไม่ ถ้าใช่ก็ ต้องได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ มิฉะนั้นจะเป็นโรงเรียนเถื่อน สอนโดยหลักสูตรเถื่อน มีอาจารย์เถื่อนเป็นผู้สอน เรื่องนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเข้าไปดูแล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักสูตรการอบรมว่าจะสอดคล้องกับการจัดตั้งโรงเรียนการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในอดีตหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวสำหรับการปลุกผีคอมมิวนิสต์ให้คืนชีพของแกนนำ นปช. บางคน

ลูกคิดชี้ฎีกาแดงไม่เข้าเกณฑ์

นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ฎีกาของกลุ่มเสื้อแดงหากเป็นการร้องทุกข์สามารถทำได้ไม่มีปัญหา เพราะการร้องทุกข์นั้นประชาชนที่คิดว่ามีความเดือดร้อนหรืออยากให้ใครเป็นนายกฯ ก็ยื่นได้ แต่ถ้าเป็นการขอพระราชทาน อภัยโทษ ต้องทำด้วยตัวเองหรือญาติ จะให้คนอื่นทำแทนไม่ได้ ยกตัวอย่างการขอใช้สิทธิ รับเบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุจะให้หลานไปทำแทนไม่ได้ หรือการขึ้นทะเบียนประกันสังคมจะให้คนอื่นทำแทนไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นฎีกาของกลุ่มเสื้อแดงคือฎีการ้อง ทุกข์ไม่เข้าเกณฑ์การขอพระราชทานอภัยโทษ รวมทั้งการร้องทุกข์ แต่ให้มีผลในการพระราชทานอภัยโทษก็ไม่ได้เช่นเดียวกัน ส่วนที่ พ.ต.ท. ทักษิณ เรียกร้องให้พิจารณาโดยใช้หลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ทั้งสองหลักต้องไปด้วยกันอยู่แล้ว จะใช้หลักนิติศาสตร์อย่างเดียวโดด ๆ ไม่ได้ การเป็นเจ้าหน้าที่ถ้าทำผิดกฎหมายแม้จะมีคน หนุนหลังจำนวนมากก็ต้องถือว่าผิดจะให้กลาย เป็นถูกไม่ได้

ภท.ชงนิรโทษกรรมเข้าสภา

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา ส.ส.พรรคภูมิใจไทย 15 คน นำโดยนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช. มหาดไทย และนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เข้ายื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องในการชุมนุมทางการเมืองของประชาชนระหว่างวันที่ 25 พ.ค.-3 ธ.ค. 2551 และระหว่างวันที่ 26 มี.ค.-14 เม.ย. 2552 พ.ศ. ... ต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้นอกจาก ส.ส.พรรคภูมิใจไทยที่ลงชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้วยังมีนายรณฤทธิชัย คานเขต นายพิกิฐ ศรีชนะ ส.ส.ยโสธร นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อแผ่นดิน นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ ส.ส.พิจิตร นางวรศุลี สุวรรณปริสุทธิ์ ส.ส.มุกดาหาร นพ.ไกร ดาบธรรม ส.ส. เชียงใหม่ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และนาย จักรกฤษณ์ ทองศรี ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคประชาราช ร่วมลงชื่อด้วย

นายชัย กล่าวว่า จะตรวจสอบความถูกต้องของการเสนอร่างกฎหมาย ถ้าไม่มีปัญหาคาดว่าวันที่ 20 ส.ค. จะบรรจุในวาระการประชุม ได้ เพื่อให้สังคมมั่นใจถึงความปรองดองที่จะ เกิดขึ้น ส่วนสภาจะพิจารณาได้เมื่อใดขึ้นอยู่กับ คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) จะหยิบยกขึ้นมาพิจารณาหรือไม่

เหลือง-แดง-ตำรวจหลุดบ่วง

นายบุญจง กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว มี 9 มาตรา วัตถุประสงค์เพื่อนิรโทษกรรมทั้งทางแพ่ง อาญา ให้กับประชาชนที่ชุมนุมทางการเมือง 2 ห้วงเวลา คือ การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เพื่อให้เกิดความสามัคคี เพราะตอนนี้ความแตกแยกทางการเมืองยังมีอยู่และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งนี้การชุมนุมของทั้งสองกลุ่มเป็นการแสดงออกทางการเมืองโดยสุจริต แต่ตอนนี้หลายคนถูกดำเนินคดี บางคนยังอยู่ในชั้นสอบสวน ชั้นอัยการ และชั้นศาล หากประเทศจะสามัคคีกันได้ต้องให้โอกาสคนเหล่านี้เพื่อให้หันหน้าเข้าหากัน นอกจากนี้ยังนิรโทษกรรมรวมไปถึงความผิดทางแพ่ง อาญา วินัย ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งผู้ที่ออกคำสั่งและรับคำสั่งไปปฏิบัติ เช่น คดีสลายการชุมนุมที่มี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. รวมอยู่ด้วย แต่ไม่รวมถึงผู้ที่กระทำผิดทางการเมืองเช่นกรณียุบพรรคทั้งบ้านเลขที่ 111 และ 109 รวมถึงคดีหมิ่นสถาบัน

ลั่นไม่มีนัยการเมืองอื่นแอบแฝง

ต่อข้อถามว่า หลายฝ่ายสงสัยว่าการเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว มีนัยแอบแฝง รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า มีนัยที่ต้องการเห็นบ้านเมืองสงบสุข คนในชาติมีความสามัคคี ไม่ต้องการเห็นความแตกแยก วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเห็นความสงบสุขของประเทศ และช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นช่วงเปิดประชุมสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติ

เมื่อถามว่า แกนนำ นปช. อาจจะไม่ยอมและพร้อมสู้คดี นายบุญจง กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช. แต่ทุกคนล้วนเป็นคนไทยอยากเห็นบ้านเมืองสงบ เมื่อมีการพิจารณากฎหมายจะมีความเห็นแตกต่างอย่างไรก็น้อมรับเสียงส่วนใหญ่ ยืนยันว่าพรรคไม่มีอะไรแอบแฝง ไม่ได้มุ่งช่วยใครคนใดคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ. พัชรวาท หรือนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ แต่ช่วยทุกคน เมื่อถามต่อว่า คดียึดสนามบินถือเป็นคดีใหญ่ที่ต่างชาติจับตา นายบุญจง กล่าวว่า คดีนี้เป็นความผิดตามกฎหมายไทย ถ้าไม่ออก ทางนี้ก็ไม่รู้จะออกทางไหนแล้ว ส่วนข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ไม่มีใครรับกันจึงต้องมาที่จุดนี้

มาร์คประกาศปชป.ไม่ยุ่ง

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคภูมิใจไทยเสนอร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมฯ ว่า ไม่ใช่กฎหมายของรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่ได้เป็นผู้เสนอ และไม่มีนโยบายในเรื่องนิรโทษกรรม แต่เป็นสิทธิของ ส.ส. ที่จะเสนอ ซึ่งแต่ละพรรคต้องไปกำหนดจุดยืนของตัวเอง แต่ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลสามารถที่จะเห็นพ้องต้องกันได้ก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรคการเมือง ทั้งนี้นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาลได้รายงานว่าจะนำเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป อย่างไรก็ตามคงไม่จำเป็นถึงขั้นที่จะนัดแกนนำพรรคร่วมมาหารือ และความจริงแล้วกฎหมายเร่งด่วนที่จำเป็นที่ยังค้างในสภามีอีกมาก

เมื่อถามว่า ระบบนิติรัฐจะถูกตั้งคำถามหรือไม่ว่าสุดท้ายเมื่อสภามีอำนาจก็จะไปลบล้างทุกอย่างโดยการออกนิรโทษกรรม นายกฯ กล่าวว่า ต้องไปฟังเหตุผลก่อนว่าครอบคลุมไปถึงใคร ความผิดอะไรบ้างและเหตุใดจึงต้องมีกฎหมายลักษณะนี้ แต่โดยหลักต้องคำนึงว่ามีเหตุผลพิเศษ เพราะถ้าทำบ่อยหรือพร่ำเพรื่อจะเป็นจุดที่ทำให้คนมองว่าต่อไปอาจจะละเมิดกฎหมายได้ เพราะหวังว่าจะมีการนิรโทษกรรมอีก

วิปรัฐบาลดอดดูท่าทีฝ่ายค้าน

ขณะที่นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล ได้มาหารือกรณีพรรคภูมิใจไทยเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยนายชินวรณ์ได้แสดงความแปลกใจถึงท่าทีของพรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีการผลักดันร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้เข้าสู่สภา อย่างไรก็ดีส่วนตัวเห็นด้วยในสาระหลัก เพราะก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยเคยเสนอเรื่องนิรโทษกรรมมาแล้ว และล่าสุดนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับตน โดยได้แสดงเจตนาและความจริงใจที่จะแก้ปัญหาจริง ๆ

นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าว ว่า พรรคภูมิใจไทยเริ่มรู้ตัวว่าคะแนนตกจึงสร้าง ภาพด้วยการเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ที่พรรคเพื่อไทยเสนอม าก่อนแล้วมีขอบเขตกว้างกว่า นั่นคือนิรโทษย้อนกลับไปก่อนวันที่ 19 ก.ย. 2549

เสื้อแดง-เสื้อเหลืองไม่เอาด้วย

นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ อดีต ส.ว.กรุงเทพฯ และแกนนำ นปช. กล่าวว่า การที่พรรคภูมิใจไทยเสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวอาจจะเป็นความตั้งใจดี แต่ถ้าทำตามนั้นจะเกิดวัฒนธรรมที่ไม่ถูกต้อง เกิดมาตรฐานการเลียนแบบ คนที่ทำผิดควรได้รับการลงโทษไม่ควรเป็นเยี่ยงอย่าง ทั้งนี้หากจะนิรโทษกรรมควรทำตั้งแต่การรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า น่าจะมีวาระซ่อนเร้นมากกว่า เพราะสาระสำคัญหวังนิรโทษกรรมให้ข้าราชการประจำและข้าราชการการเมืองแบบเหวี่ยงแห โดยเฉพาะนายตำรวจใหญ่ทั้งในเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. 2551 และกรณี ครม. สมคบกับข้าราชการประจำรวมกว่า 40 คนที่จะยกปราสาทพระวิหารให้กัมพูชา ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนและกำลังจะชี้มูลความผิดใน เร็ว ๆ นี้แล้ว

ผบ.ตร.หน้าระรื่นแจง ป.ป.ช.

อีกด้านหนึ่ง ที่สำนักงาน ป.ป.ช. พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ได้เดินทางเข้า พบคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดีสั่งสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 จนเป็นเหตุให้มีผู้เสีย ชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.ต.อ.พัชรวาท เดินทางมาชี้แจงกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส โดย พล.ต.อ.พัชรวาท ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับผู้สื่อข่าว ทั้งนี้ ผบ.ตร. ใช้เวลาชี้แจงกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง

สั่งฟ้องนปช.บุกบ้านป๋าเปรม

ขณะเดียวกัน นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ชุมนุมก่อความวุ่นวายที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2550 ว่า นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด มีความเห็นชี้ขาดสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด หลังจาก ที่ ผบ.ตร. มีความเห็นแย้งของพนักงานอัยการคดีอาญา ที่สั่งไม่ฟ้อง ซึ่งขณะนี้อัยการได้รับสำนวนและความเห็นชี้ขาดของอัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจ เอกสารและการกำหนดวันนัดให้แกนนำ นปช. และผู้ร่วมชุมนุม ผู้ต้องหามาฟังการสั่งคดีและนำตัวไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญา

บิ๊กป๊อกวอนลืมกีฬาสีแห่งชาติ

ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคภูมิใจไทยเสนอร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมฯ ว่า ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและอยากให้คนในประเทศยอมรับ ไม่ใช่ทำตามเหตุผลของคน ๆ เดียว ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนสังคมรับได้ก็จบ

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาของประเทศชาติขณะนี้คือความแตกแยกของคนในชาติ ซึ่งไม่มีท่าทีว่าจะลงเอยได้ดีอย่างไร แต่ รับรองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้มีผลกับประเทศชาติโดยรวม ถ้ามีหนทางที่ทำได้ในกรณีเช่นนี้ ต้อง บอกว่าไม่มีสี ไม่มีฝ่าย ทุกคนช่วยกันสร้างความเข้าใจว่า มีแนวทางที่จะปฏิบัติอย่างไรให้ลืมเรื่องสีไปได้ เพราะเป็นคนไทยทั้งนั้นความคิดเห็นแตกต่างกันได้ แต่ไม่น่าจะนำมาเป็นความแตกแยก ซึ่งจะไม่ส่งผลดีต่อสังคมโดยรวม ส่วนกองทัพพยายามวางตัวให้เป็นหลักทำให้สังคมเกิดความสมดุลเพื่อให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้

30 ก.ย.นี้ตัดสินคดีหวยบนดิน

วันเดียวกัน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายสบโชค สุขา รมณ์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวนคดีทุจริตโครงการออกสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว พร้อมองค์คณะผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานจำเลยนัดสุดท้าย จากนั้นศาลได้นัดฟังคำพิพากษาวันที่ 30 ก.ย. เวลา 14.00 น. พร้อมมีคำสั่งห้ามจำเลยทั้ง 47 คน เดินทางออกนอกประเทศจนกว่าจะฟังคำพิพากษา

ที่ศาลอาญา ศาลอ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำ อ.1994/2552 ที่นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป็นโจทก์ฟ้องนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ศาลพิเคราะห์คำเบิกความ และหลักฐานโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณา เนื่องจากจำเลยเป็น ส.ส. และขณะนี้อยู่ระหว่างประชุมสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติ จึงให้มีหนังสือแจ้งรัฐสภาเพื่อขอตัวจำเลยมาดำเนินคดีต่อไป โดยนัดคู่ความเพื่อแถลงเปิดคดีวันที่ 23 พ.ย. นี้

กอร์ปศักดิ์ไขก๊อก ปธ.พอเพียง

อีกเรื่องหนึ่ง ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการชุมชนพอเพียง เปิดเผยว่า ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ดชุมชนพอเพียงเรียบร้อยแล้วเพื่อเปิดโอกาสให้ สตง. และตำรวจ เข้ามาตรวจสอบโครงการชุมชนพอเพียงอย่างโปร่งใส ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน พร้อมกันนี้ได้เสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ให้สรรหาประธานฯ คนใหม่ โดยให้เลือกผู้ที่พร้อมทุ่มเทเวลาเพื่อดำเนินการต่อให้ชุมชนพอเพียงประสบผลสำเร็จ ตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด และตนได้เสนอให้แต่งตั้งนายมีชัย วีระไวทยะ รองประธานฯ มารับตำแหน่งแทน

ผมไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งใดอยู่แล้ว และผมไม่เชื่อว่าจะมีโครงการใดที่ไม่ทุจริต แต่ในความจริงแล้วผมไม่ต้องการให้มีการโกงเกิดขึ้น แต่ผมกันคนไม่ให้โกงไม่ได้ ที่ผ่านมาได้ยินว่ามีโครงการอื่นทุจริต ผมก็ยังพอรับได้ แต่ผมยอมรับไม่ได้ ถ้ามีการทุจริตกับโครงการที่ผมดูแลอยู่ ผมจึงขอออกจากตำแหน่ง รองนายกฯ ระบุ

สุมิทยังไม่สละเก้าอี้ตามลูกพี่

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวต่อว่า โครงการชุมชนพอเพียงเป็นโครงการที่ดีและสำคัญ จึง ต้องการให้เดินหน้าต่อ หลังจากได้สรรหาประธานฯ คนใหม่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งได้ตั้งงบประมาณในปีหน้าไว้อีก 3 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้สั่งระงับการดำเนินการในส่วนที่เหลือ ทั้งหมดและจะพิจารณาปรับโครงสร้างเพื่อปรับปรุงการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส รวมถึงรองรับงบประมาณที่ยังเหลืออีกกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งให้ สตง. เข้ามาตรวจโครงการโดยไม่ต้องรอให้โครงการแล้วเสร็จ เพื่อเห็นถึงข้อบกพร่องต่าง ๆ และสามารถดำเนินงานไปได้ด้วยดี

นายสุมิท แช่มประสิทธิ์ ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.) กล่าวว่า ได้รับทราบว่า นายกอร์ปศักดิ์ ลาออกจากประธานบอร์ดชุมชนพอเพียงและมอบหมายให้นายมีชัย เข้ามาทำหน้าที่แทน ส่วนการดำเนินการต่อไปตนต้องหารือกับนายมีชัยให้ชัดเจนก่อน

หนุนมีชัยสายรุ้งนั่ง ปธ.บอร์ด

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า เห็นด้วยที่นายกอร์ปศักดิ์ เสนอชื่อนายมีชัย วีระไวทยะ เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดชุมชนพอเพียงแทนนายกอร์ปศักดิ์ที่ลาออกไป และคิดว่าจะเดินหน้าโครงการด้วยความเชื่อมั่นมากขึ้น และเป็นการยืนยันว่ารัฐบาลเห็นว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีและจำเป็นต้องการเดินหน้าต่อไป รวมทั้งยืนยันว่าทุกเรื่องที่เกิดปัญหานั้นรัฐบาลยินดีรับฟังและตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา

นายกฯ กล่าวต่อว่า นอกจากจะส่งเรื่อง ให้ สตง. ตรวจสอบแล้วเข้าใจว่าจะมีการส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบด้วย ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ นายเจริญ คันธวงศ์ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบได้มารายงานให้ทราบว่าจะสรุปผลการสอบสวนเสนอให้คณะกรรมการบริหารพรรคภายใน 1-2 วันนี้

กกต.ถกคดีเงินบริจาค 25 ส.ค .

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า ประธาน กกต. ได้แจ้งในที่ประชุม กกต. เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า คณะกรรมการไต่สวนกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ได้สอบสวนเสร็จสิ้นแล้วและได้ถ่ายเอกสารสำนวนแจกให้ กกต. พร้อมนัดพิจารณาในวันที่ 25 ส.ค. นี้ ส่วนจะลงมติได้หรือไม่นั้นต้องดูว่าสำนวนดังกล่าวมีความเรียบร้อยหรือ กกต. ติดใจในประเด็นอะไรบ้าง หากติดใจก็ต้องขยายเวลาเพิ่ม

ส่วนกระแสข่าวผลสอบสวนของอนุกรรมการไต่สวนฯ รั่วนั้น เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ได้รับรายงานว่ามีอนุกรรมการในชุดดังกล่าวยอมรับว่าให้ข่าวกับสื่อมวลชนจริง ก่อนหน้านี้ก็เกิดปัญหาเช่นนี้และ กกต. เคยมอบหมายให้ตนทำหนังสือเวียนถึง กกต.จังหวัดและคณะอนุกรรมการว่าไม่ควรแถลงข่าว เพราะจะถือเป็นการกดดัน กกต. หากมีความเห็นต่างกัน ดังนั้นควรจะรอให้ กกต. กลางมีมติซึ่ง กกต.กลางจะได้มอบหมายให้เลขาธิการ กกต. เป็นผู้แถลงอย่างเป็นทางการ

พท.-ปชป.คาใจตั้งปลัด มท.

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณี ครม. มีมติแต่งตั้งนายมานิต วัฒนเสน อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ว่า ในที่ประชุม ครม. กระทรวงมหาดไทยไม่ได้ชี้แจงเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ และ ครม. ก็ไม่มีใครซักถามเรื่องนี้ ตนเชื่อว่าไม่มีใครไปก้าวก่ายงานของใคร

ส่วนที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าพรรคภูมิใจไทยรีบแต่งตั้งเพื่อปูทางสำหรับการเลือกตั้งในครั้งต่อไปนั้น เป็นเพียงข่าวลือไม่มีข้อมูลอะไรที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook