ก.ต.ช.ล่มไม่เป็นท่า''เพรียวพันธ์''ขอชิงเก้าอี้

ก.ต.ช.ล่มไม่เป็นท่า''เพรียวพันธ์''ขอชิงเก้าอี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) วันนี้(20 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงการประชุม ก.ต.ช.เพื่อเลือกผบ.ตร.คนใหม่แทน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ว่า ตนเองก็ติดตามความเคลื่อนไหวของการประชุมอยู่ แต่ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีหนังสือหรือเรียกให้ไปแสดงวิสัยทัศน์แต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรที่นายกฯไม่ได้เสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่ง ผบ.ตร. พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า ตนเองก็เป็นปุถุชนคนหนึ่งก็รู้สึกผิดหวัง ที่ผ่านมาก็รับราชการมาด้วยความซื่อสัตย์ ทำงานมาตลอดและอาวุโสสูงที่สุด ก็เรียนขอความเป็นธรรมให้ตนเองด้วย เพราะที่ผ่านมาตนเองก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง

ต่อข้อถามที่ว่าการประชุม ก.ต.ช.ยังไม่สามารถเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ได้ท่านคิดว่าอย่างไร พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า ก็ต้องดูว่าก.ต.ช.มีขั้นตอนอย่างไร มีมติออกมาแบบไหน อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตนเองจะส่งประวัติและวิสัยทัศย์เสนอไปให้ ก.ต.ช.พิจารณา ผู้สื่อข่าวถามว่าหากไม่ได้นั่งตำแหน่ง ผบ.ตร.จะดำเนินการฟ้องร้องหรือไม่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวต่อว่า ก็ต้องดูว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่ ตนเองเป็นข้าราชการก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน

ด้าน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รอง ผบ.ตร.ในฐานะเลขานุการ ก.ต.ช. กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุม ก.ต.ช. มีคณะกรรมการ ก.ต.ช. เข้าครบทั้ง 11 ท่าน โดยการประชุมเริ่มเมื่อเวลา 16.00 น. วาระแรกเป็นวาระเพื่อทราบการพิจารณาเรื่องกองทุนสืบสวนสอบสวน และเรื่องที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ร้องขอความเป็นธรรม เรื่องการมอบหมายหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างอนุ ก.ตร.พิจารณา และมีเรื่องที่เกี่ยวกับ ก.ต.ช. คือเรื่องคุณสมบัติที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็น ผบ.ตร. ซึ่ง ก.ต.ช. ก็รับทราบและยอมรับว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มีคุณสมบัติและคุณวุฒิที่เหมาะสมเป็น ผบ.ตร.ได้ แต่ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.หรือไม่ เพราะเป็นผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ก็ถือว่าเรื่องที่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ร้องทุกข์ มาได้ผ่านการพิจารณาของ ก.ต.ช. เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องกลับมาพิจารณาอีก

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวต่อว่า หลังจากประชุมทั้งสองเรื่องแล้วเสร็จ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที นายกรัฐมนตรี ก็ได้เชิญเจ้าหน้าที่ไม่เกี่ยวข้องออก เหลือเพียงคณะกรรมการ ก.ต.ช.11 ท่านประชุมต่อกันเองในวาระการเลือก ผบ.ตร. ซึ่งเป็นวาระสุดท้าย ซึ่งผลเป็นอย่างไรตนเองก็ไม่ทราบ เพราะไม่ได้ร่วมอยู่ในที่ประชุมด้วย แต่ทราบภายหลังว่ายังไม่สามารถเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ได้ และนายกฯก็ยังไม่ได้แจ้งว่าจะประชุม ก.ต.ช. ครั้งต่อไปเมื่อไหร่ สำหรับการเลือก ผบ.ตร.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีจะเสนอชื่อผู้ที่จะได้รับตำแหน่งผบ.ตร.เพียงชื่อเดียว แต่ครั้งนี้ตนเองไม่ทราบจริงๆว่ามีการเสนอชื่อเข้ากี่คน

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวต่อว่า สำหรับตนเองในฐานะเลขานุการ ก.ต.ช. ได้เตรียมประวัตินายตำรวจยศ พล.ต.อ.ทุกท่านเป็นข้อมูลใส่แฟ้มให้กับคณะกรรมการ ก.ต.ช.ทุกคน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา โดยส่วนตัวซึ่งมียศ พล.ต.อ. ก็ไม่ได้ไปแสดงวิสัยทัศน์ต่อนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้เรียกไปพบและไม่มีหนังสือเวียนให้ส่งประวัติหรือวิสัยทัศน์แต่อย่างใด เป็นเพียงการเสนอผ่านสื่อมวลชนเท่านั้นว่า นายกฯให้ไปแสดงวิสัยทัศน์ เข้าใจว่านายกรัฐมนตรีเรียกบุคคลที่มีความอาวุโสจะได้รับตำแหน่ง ผบ.ตร.เข้าพูดคุยเท่านั้น.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook