คิม แด-จุง

คิม แด-จุง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เกาหลีใต้สูญเสียอดีตผู้นำประเทศถึง 2 คน ในเวลาไม่ห่างกันนัก อดีตประธานาธิบดีโรห์ มู-ฮุน กระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายเมื่อวันที่ 23 พ.ค. แล้วก็อดีตประธานาธิบดีคิม แด-จุง ถึง แก่อสัญกรรมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จากอาการป่วยไข้

คิมถือเป็นนักการเมืองประเภทกระดูก เหล็ก หรือ แมว 9 ชีวิต คนหนึ่ง เพราะรอดพ้นทั้งความพยายามลอบสังหารหลายครั้ง เคยถูกตัด สินประหารชีวิตในข้อหากบฏแต่ก็รอด ถูกจำคุก ถูกเนรเทศ ก่อนจะก้าวสู่จุดสูงสุดบนเก้าอี้ผู้นำประเทศ

คิมเคยพูดในปี 2549 หลังพ้นตำแหน่งแล้วว่า ชีวิตเผชิญกับความยากลำบากมาสารพัด แต่เขาไม่เคยเฉไฉออกนอกหลักการที่ยึดมั่น และไม่เคยอ่อนข้อให้กับความอยุติธรรม แม้มันจะหมายถึงอันตรายต่อชีวิตก็ตาม

คิมดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีระหว่างปี 2541-2546 มองว่าความสำเร็จสูงสุดของตัวเองคือ การประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ ข้ามเขตแดนไปพบปะกับประธานาธิบดีคิม จอง-อิล ผู้นำเกาหลีเหนือ ถึงกรุงเปียงยางเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2543

ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่ความปรองดอง ฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีร่วมสายเลือด และทำให้คิมได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพอันทรงเกียรติ ในเดือน ต.ค. ปีเดียวกัน

คิม แด-จุง เกิดที่หมู่บ้านชนบทบนเกาะฮาวี นอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ วันเดือนปีเกิดอย่างเป็นทางการ ตามที่บันทึกไว้ในทะเบียนทำเนียบประธานาธิบดี คือ 6 ม.ค. 2467 แต่ในเว็บไซต์ของรางวัลโนเบล รวมทั้งหนังสืออ้างอิงอื่น ๆ กลับระบุว่าเกิดเมื่อ 3 ธ.ค. 2468

วัยเด็กเรียนเก่ง แต่จบแค่ระดับ ปวช. พาณิชย์ ในปี 2486 แล้วออกไปทำธุรกิจเปิดบริษัทชิปปิ้ง พอเกิดสงครามเกาหลีระหว่างปี 2493-2496 บริษัทถูกยึด เลยหันเหเข้าสู่การเมือง เนื่องจากตอนนั้นอยู่ในกลุ่มต่อต้านเผด็จการประธานาธิบดีซิงมัน รีห์

ตอนนั้นครอบครัวย้ายขึ้นฝั่งแผ่นดินใหญ่ อยู่ที่เมืองม็อคโปทางตะวันตกเฉียงใต้ ลงสมัคร ส.ส. 2 ครั้ง ไม่ได้รับเลือก มาสำเร็จเอาครั้งที่ 3 ได้เป็น ส.ส. เข้าสู่รัฐสภากรุงโซลสมใจในปี 2504 แต่เป็นได้แค่ 3 วันสภาก็ถูกยุบ หลังการก่อรัฐประหารยึดอำนาจ โดยคณะนายทหารในกองทัพ นำโดย พล.ต.ปาร์ค จุง-ฮี ซึ่งต่อมาได้เป็นประธานาธิบดี

เลือกตั้งใหม่ปี 2506 คิมชนะเลือกตั้งได้เป็น ส.ส. อีกครั้ง และคราวนี้กลายเป็นนักการเมืองดาวรุ่ง แกนนำฝ่ายค้านในรัฐสภา คิมได้ ชื่อว่าเป็นนักปราศรัยฝีปากกล้าลีลาดีคนหนึ่ง พอสะสมบารมีแก่กล้าได้ที่ ก็ลงสมัครแข่งขันชิงตำแหน่งประธานา ธิบดีในปี 2514 แต่ก็แพ้ให้ปาร์ค จุง-ฮี แชมป์เก่า อย่างฉิวเฉียด แม้ว่าฝ่ายหลังจะใช้วิชามารทุกรูปแบบ

สมัครแข่งขันอีก 2 ครั้งแต่ก็แพ้ทั้งสองครั้ง โดยครั้งแรกในปี 2530 แย่งคะแนนกันเองกับฝ่ายค้านด้วยกัน นั่นคือคิม ยัง-ซัม ปรากฏว่าโรห์ แต-วู อดีตนายพลทหารได้เป็นประธานาธิบดี และครั้งหลังในปี 2535 แพ้ให้กับคิม ยัง-ซัม ที่หันไปเข้าร่วมกับพรรครัฐบาล

แต่ในที่สุดความพยายามครั้งที่ 4 ก็สำเร็จ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือน ธ.ค. 2540 แต่สาบานตนเริ่มทำหน้าที่ในเดือน ก.พ. ปีถัดมา ช่วงนั้นเกาหลีใต้กำลังเผชิญกับวิกฤติการเงิน ต้มยำกุ้ง เหมือนทุกประเทศในเอเชีย และอีกหลายประเทศทั่วโลก เกาหลีใต้จำต้องยอมรับความช่วยเหลือเงินกู้จากไอเอ็มเอฟ 57 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่ภายใต้การเป็นผู้นำของคิม เกาหลีใต้สามารถหลุดพ้นจากวิกฤติ และดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจขนานใหญ่ประสานไปกับความพยายามสื่อสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ ตามนโยบาย ตะวัน ฉาย ที่ได้รับเสียงชมเชยรอบทิศ.

เลนซ์ซูม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook