ด.ญ.วัย 12 ถูกมาเฟียลวงไปขืนใจ-ขังนาน 5 วัน ครอบครัวผวาตัดสินใจหนี

ด.ญ.วัย 12 ถูกมาเฟียลวงไปขืนใจ-ขังนาน 5 วัน ครอบครัวผวาตัดสินใจหนี

ด.ญ.วัย 12 ถูกมาเฟียลวงไปขืนใจ-ขังนาน 5 วัน ครอบครัวผวาตัดสินใจหนี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลูกสาววัย 12 ปี ถูกหนุ่มข้างบ้านลวงไปขืนใจ 5 วัน ซ้ำยังข่มขู่ ครอบครัวผวาหอบข้าวของหนี ล่ามแฉคนร้ายเคยก่อเหตุคล้ายกันนี้มาแล้ว แต่รอดเพราะมีพฤติกรรมมาเฟีย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (27 พ.ค.) ครอบครัวแรงงานชาวเมียนมาเข้าแจ้งความ ที่ สภ.ทุ่งตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ว่า ลูกสาววัย 12 ปี ชาวเมียนมา ถูก นายอู วัย 35 ปี เพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นชาวเมียนมาเช่นกัน หลอกอ้างพาไปเที่ยวและหางานทำ แต่กลับพาไปขังในบ้านและข่มขืนนานถึง 5 วัน ก่อนนำตัวมาทิ้งไว้ที่สถานีรถไฟปากตะโก

ล่าสุด วันนี้ (28 พ.ค.) ครอบครัวของเด็กหญิงวัย 12 ปี ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ที่อาศัยเดิม มาขออยู่ในบ้านพักของเพื่อนชาวเมียนมาในสวนทุเรียนแห่งหนึ่ง ในต่างตำบลของ อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งห่างจากไปกว่า 20 กิโลเมตร เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวพร้อมกับ นายโจ ซึ่งอาสาเป็นล่าม จึงได้เดินทางไปพบกับ นายชัย อายุ 38 ปี และ นางชู อายุ 37 ปี และลูกสาววัย 12 ปี นั่งอยู่บริเวณเพิงพักหน้าบ้านปูนชั้นเดียว ซึ่งเป็นบ้านพักของเพื่อนแรงงานชาวเมียนมาด้วยกัน ที่นายจ้างได้ให้อาศัยอยู่ภายในสวนทุเรียน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในสภาพอิดโรย และยังเสียขวัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายชัยและนางชู พ่อแม่ของเด็กหญิงวัย 12 ปี เล่าว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ตนเองได้นำลูกสาวไปแจ้งความกับทางตำรวจ และต่อมาก็มีข่าวว่านายอูจะแก้แค้นครอบครัวตนที่นำเรื่องไปแจ้งความกับตำรวจ ทำให้ตนเองหวั่นกลัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากทราบว่านายอูมีอิทธิพลมาก และคอยดูแลกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่เข้ามาทำงานใน จ.ชุมพร โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.หลังสวน และ อ.ทุ่งตะโก

เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงได้ขนข้าวขนของที่จำเป็นมาขออาศัยเพื่อนชาวเมียนมา ซึ่งอยู่ใน จ.ทวาย ด้วยกัน เพื่อหลบซ่อนตัวก่อน ตอนนี้ยอมรับว่าหวาดผวาอย่างมาก เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงอยากให้ทางตำรวจเร่งไล่ล่าเพื่อจับกุมตัวนายอู มาดำเนินคดีโดยไว   

นายโจ ผู้เป็นล่าม ยังบอกว่า ที่ผ่านมา นายอู เคยกระทำในลักษณะนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งนั้นเป็นลูกสาวของเพื่อนชาวเมียนมาเช่นกัน และอายุก็ไล่เลี่ยกัน แต่ทางครอบครัวของผู้เสียหายไม่กล้าไปแจ้งความเพราะเกรงกลัวจะถูกนายอูพาตำรวจมาจับ และนายอูเองก็เคยเป็นล่ามให้กับทางตำรวจด้วย จึงทำให้นายอูไม่เกรงกลัวอะไร ทำตัวเป็นมาเฟียข่มขู่แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมามาตลอดอีกด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook