สภาทนายแนะรบ.คว่ำฎีกา ยุถอดยศ-เรียกคืนเครื่องราชฯแม้ว เสื้อแดงตั้งเป้าอีก10ล้านชื่อถอดถอนมาร์ค

สภาทนายแนะรบ.คว่ำฎีกา ยุถอดยศ-เรียกคืนเครื่องราชฯแม้ว เสื้อแดงตั้งเป้าอีก10ล้านชื่อถอดถอนมาร์ค

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เสื้อแดงตั้งเป้าหมายล่า 10ล้านรายชื่อต่อ หวังยื่นถอดถอนนายกฯ สภาทนายแนะรัฐบาลอย่ารับฎีกาไม่สุจริต ยุถอดยศ-เรียกคืนเครื่องราชฯแม้ว มูลนิธิ 111 ทรท.ออกหนังสืออัดเปรม-ทหาร-ปชป.-พันธมิตร ร่วมกันทำลายประเทศ เชื่อเหตุลอบยิง สนธิหวังปฏิวัติอีกรอบ สพรั่งเสียใจถูกพวกเดียวกันทำร้าย

ก.ยุติธรรมยังไม่ได้รับฎีกาเสื้อแดง

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท) ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม กล่าวเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ว่า กระทรวงยุติธรรมยังไม่ได้รับเรื่องการยื่นถวายฎีกาของกลุ่มเสื้อแดงเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากสำนักนายกรัฐมนตรี คงต้องรอหนังสือราชการส่งมาอย่างเป็นทางการ จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจะพิจารณาเนื้อหาและอาจจะเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้นายนัที เปรมรัศมิ์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้หารือทางวาจากับนายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่าจะให้ไปร่วมตรวจสอบรายชื่อและหลักเกณฑ์ของผู้ร่วมลงชื่อยื่นถวายฎีกาในรูปแบบของคณะทำงานร่วมกันหรือไม่ แต่ทางกระทรวงยุติธรรมยังไม่ได้ตอบรับแต่อย่างใด

สภาทนายแนะอย่ารับฎีกาไม่สุจริต

วันเดียวกัน นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ แถลงว่า กรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงยื่นคำร้องต่อสำนักราชเลขาธิการ เพื่อขอรับพระราชทานความเป็นธรรมในรูปของการถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้ต้องโทษจำคุก 2 ปี คดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาภิเษก ต้องเป็นไปตามระเบียบการทูลเกล้าฯถวายฎีกา ตามพระราชกฤษฎีกาที่วางระเบียบการทูลเกล้าฯถวายฎีกา พ.ศ.2457 ซึ่งเป็นการขอพระราชทานพระมหากรุณาลดหย่อนผ่อนโทษที่ศาลลงโทษแล้ว แต่ไม่ใช่โต้แย้งคำพิพากษาของศาล

นายเดชอุดมกล่าวว่า การที่กลุ่มคนเสื้อแดงอ้างว่าการขอหรือร้องถวายฎีกาเป็นสิทธิของตนเองหรือคนใดคนหนึ่งจึงเป็นการตีความเอาเองทั้งสิ้น เพราะหากถือว่ามีสิทธิโต้แย้งคำพิพากษาของศาลไม่ชอบแล้ว ความปั่นป่วนในบ้านเมืองก็จะเกิดขึ้น ผู้ต้องโทษทั้งหลายจะอ้างสิทธิไม่ต้องรับโทษ ส่วนการเกณฑ์ผู้คนเป็นล้านๆ ชื่อนั้นไม่มีความหมายอะไร เพราะหากมีรายชื่อหนึ่งที่ไม่สุจริตจะทำให้รายชื่อนั้นใช้ไม่ได้ เมื่อสำนักราชเลขาธิการรับคำขอไว้แล้ว ก็ยังไม่อาจถือได้ว่าความทราบถึงฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว เพราะต้องตรวจสอบความถูกต้องก่อน ดังนั้น รัฐบาลจะต้องตรวจสอบให้รอบคอบ หากพบว่า การยื่นฎีกาไม่สุจริต ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็ไม่ควรที่จะรับไว้พิจารณา

จี้ถอดยศแม้ว คืนเครื่องราชฯ

กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคดีอาญาที่ถึงที่สุดแล้ว ต้องยอมรับระบบศาลยุติธรรมและคำพิพากษา ก่อนขอรับพระราชทานอภัยโทษ ผู้รับราชการสนองคุณูปการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ดีย่อมต้องไม่หลีกเลี่ยงความผิดของตน ดังเช่นพันท้ายนรสิงห์ นักการเมืองต้องยอมรับผลแห่งการกระทำของตนเหมือนนานาอารยประเทศ เช่น นายโนห์ มู ฮยอน อดีตประธานาธิบดีประเทศเกาหลีใต้ที่ฆ่าตัวตาย เพราะถูกกล่าวหาว่า ครอบครัวคอร์รัปชั่น เมื่ออาสามาบริหารแผ่นดินหากผิดพลาด ทั้งประมาทหรือเจตนาต้องกล้ารับผิด นายกสภาทนายความกล่าว

นายเดชอุดมกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่จะต้องดำเนินการปลดยศอดีตตำรวจผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุด รวมถึงสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีต้องทำเรื่องการเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยยังคงตั้งโต๊ะรับลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกา มีรายงานตัวเลขกว่า 11 ล้าน รายชื่อแล้ว แสดงให้เห็นว่ากระทรวงมหาดไทย สามารถทำความเข้าใจกับประชาชนได้อย่างทั่วถึง และยังคงให้ตั้งโต๊ะไปเรื่อยๆ

เสื้อแดงตั้งเป้า10ล้านชื่อไล่มาร์ค

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)-แดงทั้วแผ่นดิน แถลงว่า ในวันที่ 21 สิงหาคม กลุ่ม นปช.จะประชุมเพื่อวางแนวทางการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและโค่นล้มกลุ่มอำมาตย์ โดยจะมีแนวทางการล่าชื่อถอดถอนนายอภิสิทธิ์ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อาทิ การต่อต้านการถวายฎีกาที่เป็นสิทธิพื้นฐานของคนไทย การแทรกแซงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการรับของขวัญเป็นงาช้างราคาเกิน 3 พันบาท

แม้ว่ากฎหมายจะระบุไว้แค่ 2 หมื่นรายชื่อ แต่เราจะพยายามทำให้ได้เกินกว่า 10 ล้านชื่อ เพื่อแสดงให้นายอภิสิทธิ์เห็นว่าประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งในประเทศนี้เขาไม่เอาคุณ และเราเองก็ไม่ได้หวังผลของวุฒิสภา เพราะ ส.ว.สรรหาก็มีกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว แต่เราจะแสดงให้เห็นว่ามีคนไม่เอานายอภิสิทธิ์ นายจตุพรกล่าว

หนังสือทรท.อัดป๋า-ทหาร-ปชป.-พธม.

วันเดียวกัน ที่มูลนิธิ 111 ไทยรักไทย ย่านนางเลิ้ง เปิดตัวหนังสือที่จัดทำขึ้นในนาม มูลนิธิ 111 ไทยรักไทย ชื่อ ใครทำลายประเทศไทยฒ โดยมีนายสุชา จุลเพชร เป็นบรรณาธิการ มีนายพศ อดิเรกสาร นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล นายทวี สุระบาล อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย (ทรท.) นายประสพ บุษราคัม อดีตผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี พรรคพลังประชาชน (พปช.) และนายปรีชา ธนานันท์ เป็นคณะที่ปรึกษา โดยหนังสือดังกล่าวราคาเล่มละ 160 บาท เนื้อหาของหนังสือเน้นกรณีที่กลุ่มทหารที่ยึดอำนาจ และพยายามเชื่อมโยง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่าเป็นขบวนการที่ร่วมกันทำลายประเทศไทย ด้วยการร่วมกันวางแผนยึดอำนาจและใช้อำนาจเผด็จการผ่านรัฐบาลภายหลังการยึดอำนาจ

นายวีระกร คำประกอบ สมาชิกบ้านเลขที่ 111 กล่าวว่า คนที่ทำร้ายประเทศไทยตัวจริงคือ กลุ่มทหารที่ทำการปฏิวัติ ทำเพื่อแสวงหาอำนาจเงินทอง โดยเฉพาะการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 มีการคอร์รัปชั่นกันไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท หรือกรณีเหตุยิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร ก็เพื่อให้เกิดการปฏิวัติ ต้องการให้นายสนธิตายจริงๆ เพื่อให้กลุ่มคนเสื้อเหลืองออกมาเพ่นพ่าน แล้วมีเสื้อสีอื่นๆ ออกมาเคลื่อนไหวผสมโรง จากนั้นทหารจะออกมาปฏิวัติ ซึ่งมีการให้ทหารทุกกรมกองเตรียมกำลังไว้พร้อม เพื่อปฏิวัติจริงๆ ขอให้เลิกขึ้นป้ายหยุดทำร้ายประเทศไทยได้แล้ว เพราะคนที่ทำร้ายประเทศไทยตัวจริงคือ ทหารที่ออกมาปฏิวัติ

สพรั่ง เสียใจถูกพวกเดียวกันทำร้าย

วันเดียวกัน พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตแม่ทัพภาคที่ 3 เข้าร่วมงานวันครบรอบวันสถาปนากองทัพภาคที่ 3 ปีที่ 107 ที่อนุสรณ์สถานกองทัพภาคที่ 3 ก่อนร่วมรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านคอทเทจ อ.เมือง จ.พิษณุโลก กับกลุ่มนายทหารเกษียณในรุ่นเดียวกัน ต่อมา กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดพิษณุโลกกว่า 20 คน เข้ามอบดอกไม้เพื่อกำลังใจแก่ พล.อ.สพรั่ง

พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ได้ทำหน้าที่เป็นพลเมืองที่ดี ตนต้องเก็บตัว เป็นจังหวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทุกอย่างมันประดัง เสียใจที่สุดคือถูกคนพวกเดียวกันทำร้ายพวกเรากันเอง ศัตรูที่น่ากลัวที่สุดคือคนกันเอง และถือว่ามันขัดอุดมการณ์ของตน หากเป็นข้าศึกคงไม่ว่าอะไร เพราะข้าศึกไม่เคยทำร้ายพวกเรา ปัญหาบ้านเมืองเวลานี้จึงยังไม่ดีขึ้น

ผมอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถแสดงพลังได้ ไม่สามารถกระโตกกระตากได้ ไปแสดงอาการแข่งบารมีกับใครไม่ได้ สังคมย่อมรู้ดี แม้จะเสียใจ แม้จะโกรธเคืองกับพวกเรากันเอง เสียใจกับคนบางคน แต่ก็ถือว่าโชคดี ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ผมไม่ไปไหนยังคงอยู่เบื้องหลัง ทำหน้าที่เป็นพลเมืองที่ดี ดูแลปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ พล.อ.สพรั่งกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook