สาทิตย์ เรียกอธิบดีกรมกร๊วกแจง เชื่อมั่นนายกฯ ล่ม

สาทิตย์ เรียกอธิบดีกรมกร๊วกแจง เชื่อมั่นนายกฯ ล่ม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 24 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุสัญญาณถ่ายทอดสดรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ขัดข้องเมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) ว่า ตนได้คุยกับนายเผชิญ ขำโพธิ์ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และผู้บริหารระดับสูงแล้ว เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น ความจริงถ้านับไปแล้วน่าจะเป็นครั้งที่ 3 เพราะเคยเกิดเหตุที่กระทรวงมหาดไทย และที่ทำเนียบรัฐบาลมาก่อนแล้ว โดยเมื่อครั้งที่เกิดเหตุขัดข้องในการถ่ายทอดสดที่ทำเนียบรัฐบาลนั้นก็บอกว่าเป็นเพราะอุปกรณ์สำรองไฟในรถมีปัญหาชำรุด ความจริงเสร็จจากงานนั้นตนก็ได้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาคุยแล้ว และให้ทำแผนสำรองเอาไว้ ซึ่งแผนสำรองนี้จะต้องมีทั้งในเรื่องรถสำรอง การเตรียมรายการเอาไว้ และในการที่จะต้องขึ้นตัวอักษรชี้แจง รวมถึงอาจจะต้องมีการสำรองด้วยแนวทางอื่นๆที่ไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้น แต่ครั้งนี้ได้รับรายงานซึ่งสับสนมากในเบื้องต้น ฝ่ายหนึ่งก็บอกว่าอุปกรณ์อัพลิงค์สัญญาณที่รถชำรุด อีกฝ่ายหนึ่งก็บอกว่าสัญญาณดาวเทียมที่มีการยิงขึ้นไปนั้นไม่เสถียรหรือมีปัญหา ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้ความจริงเป็นเรื่องที่สามารถที่จะแก้ไขได้ แต่ผมไม่เข้าใจว่าการเตรียมการทำไมถึงไม่คิดสำรองไว้ก่อน ที่สำคัญก็คือก่อนออกรายการก็ไม่มีการแจ้งให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ แล้วหลังจากที่ผ่านไปแล้วถึงเกือบ 10 นาทีึงจะแจ้ง ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการบริหารของคนมากกว่าปัญหาด้านอุปกรณ์ ดังนั้นแนวทางที่ต้องทำซึ่งตนได้มอบนโยบายให้อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ไปแล้ว คือ 1. การตั้งคณะกรรมการสอบฯต้องเสร็จภายในเวลาที่เร็วที่สุด 7 วันก็ต้องทำ และในการสอบก็ควรมีแนวว่าเมื่อสอบหาข้อเท็จจริงไปแล้ว พาดพิงไปถึงใครอย่างไรก็ต้องมีคนรับผิดชอบในข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น นอกจากนี้อะไรที่เป็นปัญหาจากอุปกรณ์ที่เสียหายก็ต้องแก้ไขทันที และจะต้องมีแนวทางในการป้องกันและแก้ปัญหาหากเกิดเหตุในครั้งต่อไป ซึ่งคณะกรรมการฯจะต้องเสนอแนะเข้ามา 2. เมื่อมีปัญหาซ้ำซ้อนอย่างนี้ การบริหารจัดการภายในอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ก็จะต้องทบทวนทันทีว่าการแก้ไขในการบริหารจะต้องจัดการอะไรอย่างไร ซึ่งวันนี้ผมจะไปที่กรมประชาสัมพันธ์ในเวลาประมาณ 09.00 น. เพื่อพบกับนายเผชิญ ซึ่งหลังจากนั้นจะมีความชัดเจนว่าจะต้องจัดการอย่างไรนายสาทิตย์ กล่าว นายสาทิตย์ กล่าวยอมรับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้กระทบต่อการทำงานประชาสัมพันธ์ภาครัฐแน่นอนถ้าไม่จัดการ ซึ่งตนไม่อยากคิดไกลไปอีกว่ามันมีทฤษฎีที่ระบุว่าการที่สัญญาณตกเช่นนี้อาจจะมีใครยิงสัญญาณรบกวนหรือเปล่า แต่เรื่องนี้สามารถสแกนกันได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำงาน ผู้สื่อข่าวถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่ครั้งแรกผู้บริหารสูงสุดของช่อง 11 ควรจะต้องพิจารณาตัวเองหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า หลังเวลา 10.00 น.วันนี้จะทราบ ส่วนทีมรายงานของรายการดงกล่าวนั้นมี 2 ส่วน คือส่วนของโปรดิวเซอร์ กับชุดที่ดูแลเรื่องการถ่ายทอดสดในเรื่องเทคนิค ซึ่งชุดที่ดูแลเกี่ยวกับเทคนิคนี้จะต้องเปลี่ยนทั้งชุด เมื่อถามว่านายสุริยงค์ หุณฑสาร ผอ.สถานีโทรทัศน์ช่อง 11ได้รายงานข้อเท็จจริงอย่างไรบ้าง นายสาทิตย์ กล่าวว่า นายสุริยงค์ยืนยันว่าเป็นเรื่องของการยิงสัญญาณไปแล้ว แต่สัญญาณตก ซึ่งความจริงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการฯที่ต้องไปสอบสวนว่ากรณีดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ แต่เท่าที่ตนได้สอบถามผู้รู้ในวงการก็ได้รับคำยืนยันว่าโอกาสที่ยิงสัญญาณขึ้นไปแล้วสัญญาณจะตกนั้น โอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นน้อยมาก และหากเกิดขึ้นจริงก็สามารถเปลี่ยนย่านความถี่ได้ เพราะกรมประชาสัมพันธ์ก็มีย่านความถี่ของดาวเทียมที่จัดเตรียมไว้เยอะ ก็แปลกใจว่าทำไมถึงไม่มี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผลการสอบสวนของคณะกรรมการฯ ซึ่งตนอยากให้ใช้เวลาเพียง 7 วันเท่านั้น ทุกอย่างต้องชัดเจน ให้โอกาสมา 6-7 เดือนแล้ว มีการปรับปรุงไปแล้วหลายครั้ง ถ้าไม่ดีขึ้นก็ถึงเวลาที่ต้องผ่าตัดใหญ่ก็ต้องทำนายสาทิตย์ กล่าว เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าภายในเวลา 10.00 น.วันนี้จะรู้เลยใช่หรือไมว่าจะต้องเปลี่ยนตัวอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์หรือไม่ นายสาทิตย์ หยุดคิดนิดหนึ่งแล้วกล่าวว่า อันนี้เป็นเรื่องของช่อง 11 ครับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook