มือถือเฮาส์แบรนด์ขึ้นแชมป์ เน็กซ์เข้าตีเมืองเน้นฟังก์ชันมัลติมีเดียเจาะวัยรุ่น-คนทำงาน จีเนทจี ลอนช์

มือถือเฮาส์แบรนด์ ประกาศสู้ศึกครึ่งหลัง เน็กซ์ ชูกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง ลั่นเตรียมบุกตลาดเมืองหลวง หลังตีตลาดต่างจังหวัดสำเร็จ ตั้งเป้าสิ้นปียอดขายแตะ 1 ล้านเครื่อง ขณะที่จีเนท กร้าวขอขึ้นแท่นเบอร์ 2 ครองส่วนแบ่งตลาด 25%

นางสาวชัณญพัชญ์ พรทองประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.ที.อี อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ผู้ทำตลาดโทรศัพท์มือถือภายใต้แบรนด์ เน็กซ์ (NEX) เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่าบริษัทยังมองว่าโทรศัพท์มือถือเฮาส์แบรนด์ ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าปีนี้จะมีสัดส่วน 60% ของตลาดรวมโทรศัพท์มือถือที่คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 8 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 2 เท่าตัว

โดยในส่วนของมือถือ เน็กซ์นั้นครึ่งปีแรกที่ผ่านมามียอดขายประมาณ 300,000 เครื่อง ซึ่งการทำตลาดที่ผ่านมาใช้กลยุทธ์ ป่าล้อมเมือง โดยมุ่งขยายตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก ซึ่งกลุ่มตลาดหลักอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาก็ภาคเหนือ ตะวันตก และใต้ อย่างไรก็ตามในครึ่งปีหลังบริษัทจะมีแผนขยายตลาดกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากขึ้น โดยได้วางแผนใช้งบประมาณราว 20 ล้านบาท ในการใช้สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มลูกค้าในวงกว้าง

พร้อมทั้งวางแผนนำผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาทำตลาดเดือนละ 4-6 รุ่น โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ออกสู่ตลาด จะมีคุณสมบัติการทำงานด้านมัลติมีเดีย และรองรับเครือข่ายไร้สาย ไว-ไฟ มุ่งเน้นตอบสนองความต้องการกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มเริ่มต้นทำงาน และกลุ่มผู้ใช้พีดีเอโฟน ซึ่งจุดแข็งของแบรนด์เน็กซ์ คือราคาถูก และมีคุณสมบัติการทำงานมากกว่าแบรนด์เนม ทั้งนี้คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะสามารถทำยอดได้ 1 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท

ขณะที่นายทัศ เชาวนเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทจีเนท อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าได้ดำเนินปรับเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ จากบริษัทไวร์เลส แอดวานซ์ ซิสเต็มส์ จำกัด ในฐานะตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ จีเนท มาเป็นบริษัทจีเนท อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะบริษัทลูก หรือ สำนักงานสาขาของบริษัทจีเนท ประเทศเกาหลีใต้ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการทำตลาด และการสนับสนุนจากบริษัทแม่

สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทนั้นคงมุ่งเน้นความแตกต่าง มองตลาดไม่เหมือนรายอื่น ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยเป็นรายแรกที่นำทีวีโมบาย (มือถือดูทีวีได้) และมือถือ 2 ซิมเข้ามาทำตลาด ล่าสุดได้นำจีเนท จี 101 เครื่องเล่นเพลงเอ็มพี 3 ที่มีฟังก์ชันมือถือ คุณภาพเสียงเทียบเท่าไอพ้อด พร้อมทั้งดึงวงเซเว่นเดย์ ค่ายอาร์เอส เข้ามาเป็นพรีเซนเตอร์ ซึ่งเข้ากับตัวสินค้าที่มีหลากหลายสี โดยการทำตลาดจะมุ่งเจาะไปยังกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก

เรามองตลาดไม่เหมือนใคร คนอื่นเริ่มต้นจากโทรศัพท์มือถือก่อนขยายไปพีดีเอโฟน ราคา 20,000 บาท แต่เรากำลังจะทำตรงกลาง โดยจะนำเอาไว-ไฟ ทัช โฟน ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่ ที่ผู้ใช้ไม่ต้องการดาวน์โหลดโปรแกรมเพิ่ม และโมบายเทเลโฟน ที่สามารถเชื่อมใช้เป็นโทรศัพท์ภายในบ้านได้ ราคาประมาณหมื่นบาทต้นๆ เข้ามาทำตลาดในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้

สำหรับภาพรวมของโทรศัพท์เคลื่อนที่ปีนี้นั้นตลาดค่อนข้างถดถอยตามภาวะเศรษฐกิจ ความต้องการของผู้บริโภคส่วนใหญ่ตัดสินใจซื้อจากราคา และฟีดเจอร์การทำงานเป็นหลัก ทั้งนี้คาดว่าตลาดรวมจะมีการซื้อขายประมาณ 8 ล้านเครื่อง จากปีที่ผ่านมามีการซื้อขายกันที่ 10 ล้านเครื่อง ซึ่งในส่วนจีเนทนั้นครึ่งปีแรกยังคงเติบโตได้ดีอยู่ โดยมียอดขายประมาณ 1 ล้านเครื่อง ขณะที่ปี 2550-2551 มียอดขายรวม 1 ล้านเครื่อง ส่วนยอดขายตลาดทั้งปีตั้งเป้าไว้ 2 ล้านเครื่องหรือ 25% ของตลาด หรืออันดับ 2 ของตลาด และคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท