เยี่ยมมีเดียแดนโสมขาว (ตอน 1) ''JAG''ปรับตัวสู้ศึกสื่อไฮเทค

เยี่ยมมีเดียแดนโสมขาว (ตอน 1) ''JAG''ปรับตัวสู้ศึกสื่อไฮเทค

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หลังผ่านการใช้ชีวิตร่วมในคอร์สนานกว่า 4 เดือน จนจบหลักสูตรผู้บริหารการสื่อสารมวลชนระดับกลาง (บสก. ) รุ่นที่ 1 กันเรียบร้อยแล้ว คณะกรรมการผู้บริหาร/ผู้อำนวยการหลักสูตรบสก. นำโดย ชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ได้พาคณะกว่าครึ่งร้อยชีวิต ไปทรรศนะศึกษา แดนกิมจิ และเยี่ยมชมงานกิจการสื่อสารมวลชน 2 ค่ายใหญ่ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลัก คือ 1.Joong Ang Il Bo Group ( JAG ) ยักษ์ใหญ่ 1 ใน 3 ของสื่อสิ่งพิมพ์ และ 2. สถานีโทรทัศน์ KBS ( Korean Broadcasting System ) ทีวีรัฐวิสาหกิจ ที่ทรงอิทธิพลมากสุดแห่งหนึ่งของแดนโสมขาว

การสื่อสารในโลกยุคไฮเทคที่รุดหน้าอย่างรวดเร็ว ได้เปิดทางให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสื่อโดยผ่านช่องทางเลือกมากมาย ทั้งอินเตอร์เน็ต เคเบิลทีวี แซตเทลไลต์หรือดาวเทียม โมบาย (มือถือ ) ส่งผลให้ Traditional media อย่างหนังสือพิมพ์ และทีวี ต้องหาทางปรับตัว ซึ่งตีโจทย์ปัญหาที่ไม่ได้มองจากสื่อประเภทเดียวกันอีกต่อไป แต่เป็นการมองจากองค์รวมธุรกิจสื่อทั้งระบบ

เช่นเดียวกับสื่อ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ ที่กำลังกล่าวถึง

สำหรับ JAG ก่อตั้งมาเมื่อปี 1965 และจะครบ 44 ปี ในเดือนกันยายนปีนี้ ก็เริ่มจากสื่อสิ่งพิมพ์ แต่ช่วง 10 ปีให้หลัง ได้กลายเป็นธุรกิจสื่อคอนเทนต์ที่ครบวงจรรายใหญ่แห่งหนึ่ง

Mr. Soong -Joo Jm ผู้จัดการทั่วไปและในฐานะหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ JAG กล่าวกับคณะ บสก.ว่าผลกระทบจากสื่อสารในโลกยุคไฮเทคช่วง 10-15 ปีที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้อ่านหนังสือพิมพ์ลดลง ไม่เว้นแม้แต่ทางกลุ่มก็กระทบไปด้วย จากที่ผู้อ่านที่เคยมากถึง 2 ล้านคน หดเหลือ 1.5 ล้านคน ในปัจจุบัน

กระแสอินเตอร์เน็ตเข้ามาในปี 2541 ทำให้ผู้อ่านหนังสือพิมพ์น้อยลง ในขณะที่ผู้บริโภคสื่อก็เปลี่ยนพฤติกรรม จากที่อ่านหนังสือพิมพ์เพราะสนใจข่าวสาร เศรษฐกิจ สังคม มาเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ ไลฟ์สไตล์ ช็อปปิ้ง ซึ่งสื่ออินเตอร์เน็ตตอบสนองได้ดีกว่า

เหตุนี้เอง จากสื่อสิ่งพิมพ์ JAG จึงได้ปรับยุทธศาสตร์ แตกไลน์ธุรกิจสื่อ ภายใต้โครงสร้าง JM . Net ( Joong Ang Media Network ) เป็น 4 ธุรกิจหลัก เชื่อมโยงธุรกิจที่เกี่ยวข้องไม่น้อย 40 ยูนิต (บริษัท )

คือ 1.ไลน์สื่อสิ่งพิมพ์ ปัจจุบันมี 5 ฉบับ เป็นฉบับท้องถิ่นรายสัปดาห์ 3 ฉบับ ที่เหลืออีก 2 ฉบับคือ Korean Daily และ ฉบับภาษาอังกฤษ Joong Ang Daily โดยจะเน้นสื่อสิ่งพิมพ์ภาคภาษาอังกฤษ เพราะคนเกาหลีให้ความสำคัญกับการศึกษา และมีแนวโน้มคนรุ่นใหม่จะสนใจภาษาอังกฤษมากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีอนาคต

2. กลุ่มแม็กกาซีน ด้วยการซื้อหัวจากแม็กกาซีนต่างประเทศทำตลาดภายใน หรือนำข้อมูลข่าวสารในสื่อสิ่งพิมพ์ มาผนึกรวมกับคอนเทนต์ในกลุ่มนี้ อาทิ Instyle ,Cosmopolitan , Newsweek , Forbs ,Economist ,Sure ,Heiren , Herald Tribune และ Lemon Tree โดยจะแตกเซ็กเมนต์ เจาะทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งแนวเศรษฐกิจ แฟชั่น กลุ่มทำงาน แม่บ้าน วัยรุ่น กอล์ฟ ภาพยนตร์

3.กลุ่มอินเตอร์เน็ต เคเบิลทีวี การส่งคอนเทนต์ผ่านโมบาย โดยกลุ่มเว็บไซต์ Joins สามารถพัฒนาจนสร้างรายได้เป็นอันดับ 5 เมื่อเทียบกับสื่อประเภทเดียวกันในตลาด ได้แก่ Ch.Joins ,Joinsland ส่วนนิวมีเดียที่ผ่านมือถือยังไม่ได้สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ เนื่องจากการรับคอนเทนต์ของผู้ใช้มือถือในเกาหลีใต้ ไม่ต้องเสียรายจ่าย ต่างไปจากประเทศไทย แต่เป็นธุรกิจที่มีอนาคต บริษัทจึงได้ลงทุนต่อ

4. กลุ่มการศึกษา-วัฒนธรรม อาทิ ธุรกิจพับลิชชิ่ง การจัดพิมพ์พ็อกเกตบุ๊ก ,หนังสือวิชาการ/แนวสร้างสรรค์ ขณะเดียวกันยังดำเนินกิจกรรมซีเอสอาร์ เช่น การเป็นอาสาสมัคร ฯลฯ เป็นศูนย์กลาง ล่าม ให้กับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ

ยุทธศาสตร์หลักของ JAG ก็คือ 1. Globalization การออกสื่อสิ่งพิมพ์ในชิคาโก และนิวยอร์ก ในสหรัฐอเมริกา และการซื้อหนังสือหัวนอกเข้ามาทำตลาดในประเทศ ตัวอย่างกลุ่มหนังสือแม็กกาซีน และ 2 .การสร้างธุรกิจใหม่ แตกไลน์ไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแต่ละเซ็กเมนต์อย่างตรงจุด หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์ JAG กล่าว

ค่ายสื่อแห่งนี้ สามารถสร้างรายได้ต่อปี 700,000 ล้านวอน หรือประมาณ 23,800 ล้านบาท ( อัตราแลกเปลี่ยน 1,000 วอน เท่า 34 บาท ) โดยรายได้หลักสัดส่วนกว่า 50% มาจากโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ ส่วนที่เหลือจึงเป็นรายได้จากสื่อ

และในรายได้มาจากสื่อ รายได้หลัก 50% เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ ที่เหลือ 50 % มาจากไลน์ธุรกิจที่เหลือ 3 กลุ่มคือ (กลุ่ม 2-4 )

ซึ่งแสดงให้เห็นว่า โฆษณายังเป็นหัวใจสำคัญ และตอกย้ำจากคำกล่าวนี้ ก็จากกองบรรณาธิการต่างประเทศ ที่มีผู้สื่อข่าว 40 คน แต่ใช้เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดถึง 20 ชีวิต จากการเปิดเผยของ หัวหน้าฝ่ายข่าวต่างประเทศ Joong Ang Daily ให้เหตุผลว่าฝ่ายตลาดหายาก จำเป็นต้องเซฟคนกลุ่มนี้ และธุรกิจก็อยู่ได้ด้วยรายได้

วิกฤติเศรษฐกิจโลก ยังลามกระทบถึงธุรกิจสื่อ เช่นเดียวกับ JAG ซึ่งต้องปรับตัวรัดเข็มขัดลดรายจ่ายองค์กร การปรับลดไซซ์หนังสือพิมพ์ลง แต่ยังคงอัตราค่าโฆษณาเท่าเดิม และข้อเท็จจริงเป็นเช่นไรไม่ทราบ ยังยืนยันว่าไม่มีการปลดคนเด็ดขาด แต่บริหารโดยการกระจายคนไปยังธุรกิจใหม่

ก่อนจะจบท้ายด้วยอนาคตสื่อ ผู้บริหาร JAG เชื่อว่าสื่อสิ่งพิมพ์ ยังเป็นหัวหอกสำคัญของธุรกิจสื่อและมีความแตกต่างจากกลุ่มอินเตอร์เน็ต ด้านของความเชื่อถือ ( Trust ) ,ความเชื่อมั่น ที่มีมากกว่า อีกทั้งข้อสันนิษฐานที่ว่าเมื่อคนอายุเพิ่มขึ้น ท้ายสุดจะกลับมาตายรังกับสื่อสิ่งพิมพ์

JAG จะยกระดับ สื่อสิ่งพิมพ์แห่งนี้เป็น E -newspaper เจาะวิเคราะห์เฉพาะเรื่อง แทนการนำเสนอข่าวที่เป็นการทั่วไป แต่สิ่งที่เป็นห่วง กระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโลก กระดาษซึ่งเป็นตัวทำลาย อาจทำให้หนังสือพิมพ์ส่วนหนึ่งต้องหายไปจากระบบ ผู้บริหาร JAG กล่าว

ตามต่อ (ตอน 2 ) ฉบับ 2556 วันที่ 27 -29 สิงหาคม 2552

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook