เสนาะ เทียนทอง (2 ) ตอน..เบื้องหลัง รสช.ปฏิวัติ 2534
ล่าสุดมีข่าวลือสะพัดจะเกิดรัฐประหารอีกครั้ง แต่นักการเมืองที่ผ่านเหตุการณ์ยึดอำนาจมาแล้วหลายครั้ง อย่าง เสนาะ เทียนทอง น่าจะเป็นผู้สะท้อนบทเรียน ปล้นประชาธิปไตย ได้อย่างลึกซึ้ง
เหตุการณ์ รสช.ปฏิวัติ 2534 เป็นอีกฝันร้าย ที่ฝังอยู่ในความทรงจำของป๋าเหนาะ ไม่รู้ลืม
แม้วันเวลาจะล่วงเลยมานานถึง 18 ปี ตัวละครสำคัญในเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกในหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์การเมืองไทย บางท่าน โดยเฉพาะ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึง นายพลเสื้อคับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ถึงอสัญกรรมไปหลายปีแล้วก็ตาม
แต่เบื้องหน้าเบื้องหลังก่อนถึงนาที รสช. จะก่อการรัฐประหาร น้อยคนนักที่จะรู้ข้อมูลที่คนในสังคมรับรู้กันในวงกว้างก็คือ เวลา 11.15 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534 เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ขณะที่พล.อ.ชาติชาย และพล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก รองนายกรัฐมนตรี (ตำแหน่งในขณะนั้น ) และคณะกำลังจะเดินทางโดยเครื่องบิน ซี 130 เพื่อนำพล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเสด็จฯแปรพระราชฐาน ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่
เป็นการยึดอำนาจ ภายใต้การนำของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) และพล.อ.สุจินดา คราประยูร ผู้บัญชาการทหารบก แกนนำจปร.รุ่น 5
การยึดอำนาจครั้งนั้น เหตุผลที่ทหารยกมาอ้างคือ เรื่องการทุจริตคอร์รัปชันและความร่ำรวยผิดปกติของนักการเมือง แต่แท้ที่จริง นอกเหนือจากนั้นคือ...อะไร !
ป๋าเหนาะ เป็นคนหนึ่ง ที่มีส่วนได้รับรู้และอยู่ในเหตุการณ์ช่วงก่อน พล.อ.ต.วีระศักดิ์ สิงหเสนี เจ้ากรมส่งกำลังบำรุงทางอากาศ (ยศและตำแหน่งขณะนั้น ) จะเปิดปฏิบัติการจี้นายกรัฐมนตรี พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ กลางอากาศ
จากนี้ไปเป็นเรื่องจริง จากปาก ป๋าเหนาะ ที่ไม่มีผิดเพี้ยน ไม่มีเสแสร้งและแต่งเติม และไม่มีความประสงค์ที่จะให้กระทบกระเทือนต่อผู้ใด แต่เป็นการบันทึกประวัติศาสตร์เพื่อประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก
ที่มาของ รสช. มาจาก ลูกโต้ง คุณไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ (บุตรชายของน้าชาติ)ส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่ปล่อยข่าวว่าน้าชาติจะปลด จปร.รุ่น 5 แต่จะไม่ปลดเอง จะให้พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ที่เป็นรองนายกฯปลดแทน ไปปล่อยข่าวกับ พ่อ (พล.อ.ชาติชาย )ว่า ทหาร รุ่น 5 จะปฏิวัติ นะ
ขณะเดียวกันก็ไปปล่อยข่าวกับ นายทหาร จปร. รุ่น 5 ว่า นายกฯจะปลด
ทีนี้ อย่าง บิ๊กเต้ ( พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ )ก็เพื่อนกัน เขาก็มาบอกเรา มีพล.อ.ชัยณรงค์ หนุนภักดี พล.อ.อิสรพงศ์ หนุนภักดี ก็อยู่ปราจีนบุรี อยู่กองกำลังบูรพา ถ้าเทียบกับปัจจุบัน ก็เหมือน พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับพล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร. ตอนนี้แหละ พล.อ. พัลลภ ปิ่นมณี พล.อ.ประจักษ์ สว่างจิต ท่านเหล่านี้ จปร. 5 และรู้จักกับป๋าดี
พอรู้เรื่อง ป๋าก็นัดน้าชาติ บอกน้าชาติ เรื่องจะไปกันใหญ่ แล้ว ก็ไปเล่าให้ อาประมาณ (พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร ) ฟังอีกคน
ด้วยเหตุผลกลัวนักข่าวจะรู้ เรานัดกัน 3 ทุ่ม นั่งรถคันเดียวกันไปพบน้าชาติ
ตอนนั้นจะไปไหน ก็มีแต่นักข่าวตาม ที่จำได้มี อาประมาณ ชูชีพ (หาญสวัสดิ์ ) หมอเอื้อ (นายบุญเอื้อ ประเสริฐสุวรรณ) แล้วก็ป๋า รวม 7 คน แต่ไม่มีพี่บรรหาร (ศิลปอาชา )ไปด้วย
ก็ไปที่บ้านซอยราชครู บ้านน้าชาติ เจอไกรศักดิ์ กับน้าชาติ นั่งคุยกันอยู่ น้าชาติ นุ่งกางเกง แพร ผมเดินเข้าไป ขณะที่เดินเข้าไป น้าชาติก็ทักว่า
เฮ้ย! เหนาะ ลื้อพาพวกมาบีบอั๊วเหรอ
ป๋าก็เล่าเรื่องให้น้าชาติฟังเรื่องข่าวลือ ปฏิวัติ
เหรอ เหรอ น้าชาติ หูตาโตขึ้นมา
เฮ้ย อย่างนี้ไม่ได้ ต้องเคลียร์ (โว้ย) .... ต้องเคลียร์ น้าชาติ พูดซ้ำหลายครั้ง
หลังจากนั้น น้าชาติและแกนนำ จปร. 5 ก็นัดไปกินข้าวกันเคลียร์กระแสข่าวลือ ที่เรือนรับรอง กองทัพอากาศ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2534
เฮ้ย เข้าใจแล้ว ต่อไปนี้ พวกน้องๆทั้ง 3 เหล่าทัพ จะแต่งตั้งใคร เอามาเลย เซ็นให้ลูกเดียว น้าชาติรับคำ
และแล้วคืนนั้น ผู้นำ 3 เหล่าทัพอยู่กันพร้อมหน้า
ปรากฏว่า วันที่ 17 กุมภาพันธ์ หลังกินข้าวกันแล้ว พวกรุ่น 5 ก็สบายใจ ไม่มีอะไร พอวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ป๋าไปนอนที่จังหวัดร้อยเอ็ด และนครพนม ไปกับไจก้า ไปสร้างถนน สะพาน วันที่ 21 กุมภาพันธ์ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก เป็นรมช. กลาโหม
ป๋าอยู่อีสาน ป๋าเลยไม่รู้เรื่อง จะเคลียร์ก็เคลียร์ไม่ทัน โปรดเกล้าฯแล้ว ป๋าก็กลับมาคืน วันที่ 22 กุมภาพันธ์ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ก็แอ่นแอ้น จะเอาพล.อ.อาทิตย์ ไปที่พระตำหนักภูพิงค์
ในที่สุด ก็เกิดรัฐประหาร เขาก็เอา น้าชาติ ไปขัง
ขังไว้ที่เรือนรับรอง กองทัพอากาศ สถานที่นัดกินข้าว กับจปร. 5 นั่นแหละ
