"อุตตม" ยันประชุมใหญ่พลังประชารัฐ ตามกรอบ 45 วันแน่นอน

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระบวนการจัดประชุมใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการประชุมใหญ่ประจำปี โดยกฎหมายต้องดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคหรือไม่

นายอุตตม ยืนยันจะดำเนินการภายในกรอบเวลาไม่เกิน 45 วันนับแต่ตำแหน่งว่างลงแน่นอน ซึ่งกำลังพิจารณากำหนดวัน จะดำเนินการโดยนายทะเบียนของพรรคเพื่อจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี โดยมีวาระเลือกคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ และวาระอื่น โดยปฏิเสธข้อสังเกตว่าจัดประชุมช้าแต่เพียงยังไม่ทราบว่าเมื่อไหร่

ด้านนายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งจะมีการหารือกันในพรรคถึงการกำหนดวันวันประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค หลังมีคณะกรรมการบริหารลาออก โดยจะต้องตรวจสอบการยื่นลาออกและหนังสือว่าถูกต้องสมบูรณ์หรือไม่ เพื่อรายงานให้ กกต.รับทราบภายใน 15 วันตามกฎหมาย จากนั้นจะดำเนินการประชุมของคณะกรรมการบริหารพรรคว่าจะหารือได้วัน

นายวิเชียร ระบุด้วยว่าสำหรับการประชุมพรรค มีหลายอย่างที่ต้องทำ ทั้งเรื่องภาระตามกฎหมาย เรื่องตำแหน่งกรรมการบริหารว่างลง เรื่องรายงานกิจการในรอบปี เรื่องงบดุลประจำปี ซึ่งมีรายละเอียดมากจึงต้องตรวจสอบให้มีความพร้อม ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 เป็นเงื่อนไขในการพิจารณากำหนดวันประชุม ยืนยันว่าไม่ได้ดึงเวลา แต่เป็นการเตรียมความพร้อมมากว่า ซึ่งตามข้อบังคับหัวหน้าต้องแจ้งวันนัดประชุมล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน และเตรียมจัดสถานที่ที่ต้องเว้นระยะห่าง ย้ำว่าคณะกรรมการบริหารพรรคต้องกำหนดวันร่วมกัน โดยกำลังนัดประชุมกรรมการบริหารพรรคอยู่

ส่วนสมาชิกพรรคที่อาจเคลื่อนไหวด้วยการเข้าชื่อเพื่อขอเปิดประชุมใหญ่เอง นายทะเบียนพรรคการเมือง ระบุว่าไม่ทราบ แต่กระบวนการต้องดำเนินการตามกฎหมาย เป็นคนละเรื่องกับเกมการเมือง แต่เป็นการบริหารภายใน

ทั้งนี้เมื่อถามถึงบรรยากาศการเผชิญหน้าของกลุ่มการเมืองในพรรคพลังประชารัฐแบบอืมครึม นายวิเชียรระบุว่า "มีเหรอ" ซึ่งได้นั่งข้างนายอุตตมในห้องประชุมวิปพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) เป็นปกติที่นั่งข้างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังยืนยันว่าช่วยกันทำงาน และเมื่อถามถึงความสัมพันธ์ของกลุ่มการเมืองในพรรคเหมือนเดิมไหม นายวิเชียรบอกสั้นๆ ว่า "เหมือนไหม" คำว่าเหมือนเดิมคือการร่วมกันทำงาน ยังไงพลังประชารัฐก็ช่วยกันทำงานต่อไป