3จนท.ถูกเด้งพ้นสพช. มาร์คสั่งฟัน4ส.ข.เอี่ยวโครงการพอเพียง พท.แฉที่ดินแดงขอตู้น้ำกลับได้โคมไฟ

3จนท.ถูกเด้งพ้นสพช. มาร์คสั่งฟัน4ส.ข.เอี่ยวโครงการพอเพียง พท.แฉที่ดินแดงขอตู้น้ำกลับได้โคมไฟ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
3จนท.สพช.ถูกสั่งให้พ้นงานช่วงเกิดเรื่องอื้อฉาว 2 คน โดนเชือดหลังลุยสอบที่อยุธยาข้ามหัวประโภชฌ์ มาร์คสั่งฟัน 4 ส.ข.เอี่ยวโครงการพอเพียงพท. แฉตุกติกที่ดินแดง ขอตู้น้ำกลับได้โคมไฟ เงินหายไป 5 หมื่น แฉผช.นักการเมืองชื่อพมีเอี่ยว ปชป.ปูดโครงการปุ๋ยอินทรีย์ 11 จว.พัวพันเพื่อไทย

3เจ้าหน้าที่ถูกเด้งพ้นสพช.

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเข้าไปสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตโครงการชุมชนพอเพียง หลังจากนายสุมิท แช่มประสิทธิ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.) เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงใน สพช. 3 คนมีพฤติการณ์ส่อไปในทางใช้อำนาจหน้าที่สั่งระงับหรือเปลี่ยนแปลงโครงการที่อนุมัติไปแล้วให้เป็นอีกโครงการหนึ่งโดยมิชอบ และไปร่วมมือกับบริษัทเอกชนบังคับให้ชุมชนจัดซื้อสินค้าของบริษัท ทาง สพช.จึงได้ส่งตัวกลับต้นสังกัดแล้ว 1 คน สั่งพักงานไปแล้ว 2 คนนั้น ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบคำสั่ง สพช.ย้อนหลัง เพื่อหาข้อเท็จจริงว่า มีพนักงาน สพช.คนใดถูกพักงานในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาแล้วบ้าง ปรากฏว่า พบคำสั่งพักงานดังกล่าว 2 คำสั่ง แต่ไม่ยืนยันว่าจะใช่ผู้มีพฤติกรรมส่อไปในทางมิชอบหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ต่อไป

ตรวจอยุธยาข้ามหัวประโภชฌ์

สำหรับคำสั่งทั้ง 2 คำสั่ง ประกอบด้วย

1.คำสั่ง สพช.ที่ 4/2552 เรื่อง ให้ข้าราชการพ้นจากหน้าที่ และมอบหมายให้ข้าราชการ พนักงานราชการ และพนักงานจ้างเหมาบริการ ปฏิบัติหน้าที่ ลงนามโดยนายสุมิท เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2552 1.นายกมล แมลงทับ นักวิชาการศึกษาชำนาญการระดับ 8 มหาวิทยาลัยศิลปากร พ้นจากหน้าที่ต่างๆ ใน สพช. ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2552 ทั้งนี้ นายกมล ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วย ผอ.สพช.เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2552

2.คำสั่ง สพช.ที่ 7/2552 เรื่อง ให้ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงานจ้างเหมาบริการ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ และพ้นจากหน้าที่ ลงนามโดยนายสุมิท เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2552 1.ให้พนักงานจ้างเหมาบริการพ้นจากหน้าที่ เนื่องจากมีพนักงานจ้างเหมาบริการ ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง จึงทำให้ผู้มีรายนามดังต่อไปนี้พ้นจากหน้าที่ 1.1 ดร.พรหมมิน สีตบุตร ตำแหน่งพนักงานจ้างเหมาบริการ พ้นจากหน้าที่ที่รับผิดชอบตามคำสั่งที่ 5/2552 และ 6/2552 1.2นายประพันธ์ พิกุลทอง ตำแหน่งพนักงานจ้างเหมาบริการ พ้นจากหน้าที่รับผิดชอบตามคำสั่งที่ 6/2552

แหล่งข่าวจาก สพช.เปิดเผยว่า 2 ใน 3 คน ซึ่งนายสุมิทลงนามในคำสั่งให้พ้นจากงานใน สพช.นั้น อยู่ในฝ่ายกลุ่มงานตรวจสอบและติดตามผล โดยมีกระแสข่าวว่า มีสาเหตุมาจากลงไปตรวจสอบเรื่องร้องเรียนใน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยไม่รายงานให้นายประโภชฌ์ สภาวสุ อดีตรอง ผอ.สพช.ทราบก่อน ทำให้นายประโภชฌ์โมโหมาก พท.ปูดเปลี่ยนโครงการดินแดง

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย คณะทำงานติดตามการใช้งบประมาณโครงการชุมชนพอเพียง และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค ร่วมกันแถลง เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่พรรคเพื่อไทย ถึงการตรวจสอบโครงการ โดยออกมาเปิดเผยถึงความผิดปกติของโครงการในเขตดินแดง กทม.หลายชุมชน โดยนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ล่าสุดมีหนังสือร้องเรียนมายังพรรค ให้ตรวจสอบความผิดปกติของโครงการที่ชุมชนในเขตดินแดง ซึ่งคณะทำงานของพรรคได้ลงพื้นที่ตรวอบพบความผิดปกติ โดยชุมชน ได้งบประมาณชุมชนละ 2 แสนบาท เช่น ชุมชนหมู่บ้านอยู่เจริญ ซอยอินทามระ 41 ซึ่งตัวแทนส.ส.มานำเสนอสิ่งของให้ และชาวบ้านขอตู้น้ำพลังแสงอาทิตย์ไป ปรากฏว่า มีการพากรรมการชุมชนรีบไปเปิดบัญชีของธนาคารออมสิน และถอนเงิน แต่สมุดบัญชีนั้น ไม่มีลายเซ็นในสมุดหน้าหลังสุด ซึ่งไม่รู้ว่าธนาคารยอมได้อย่างไร ต่อมา มีการเปลี่ยนแปลงโครงการโดยมีการจัดโคมไฟพลังแสงอาทิตย์ 3 ต้น ต้นละ 5 หมื่นบาท รวม 1.5 แสนบาท มาติดตั้งให้แทน ซึ่งมีหลักฐานเป็นใบเสร็จ จึงสงสัยว่า เงินหายไปไหนอีก 5 หมื่นบาท แถมโคมไฟนี้ยังสว่างน้อยกว่าของกทม. แฉผช.นักการเมืองชื่อพมีเอี่ยว

เรื่องนี้ยังพบว่า มีผู้ช่วยของนักการเมืองใหญ่ในเขตดินแดง ชื่อย่อ พ. ซึ่งร่วมในรัฐบาล เป็นผู้มาดำเนินการ แถมเรื่องตู้น้ำนี้ยังระบาดลงไปถึงภาคใต้แล้วหลังจากดูข่าวที่ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่หาเสียงที่จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งล่าสุดพรรคกำลังจะเปิดเผยเรื่องความไม่ปกติของโครงการที่ตรวจพบเจอที่ จ. ภูเก็ตด้วยนายพร้อมพงศ์ กล่าว

ด้านน.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ต่อเรื่องนี้ ไม่เคยแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา แต่เป็นการแก้ตัววันต่อวัน ตัดตอน พยายามบอกว่า เป็นเรื่องเล็กน้อย หรือทุจริตวงเงินเล็กน้อยถ้าเทียบกับวงเงินงบประมาณโครงการ ซึ่งตอนนี้พรรคมีหลักฐานในกทม.ครบแล้ว อย่างที่ดินแดง ก็เป็นเขตแรกในกทม.ที่มีการอนุมัติเป็นโมเดลให้เขตอื่น เขตวังทองหลางก็มีลักษณะแบบนี้ ถ้ารัฐบาลจริงใจเชื่อว่า น่าจะจับคนทุจริตได้ แต่นี่ไม่ทำ ผลคือ ผลประโยชน์ 100 % แบ่งเป็น 30 % ตกอยู่นักการเมืองระดับบน 35%อยู่กับบริษัทผู้ค้าและผลิต 15%อยู่ที่นักการเมืองระดับเขต 10 %อยู่กับเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่น อีก 10 % อยู่ที่ตัวแทนนักการเมืองผู้ประสานงานจัดสินค้าลงชุมชน ส่วนประชาชนได้ประโยชน์เพียง 5-10% เท่านั้น

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า การเปลี่ยนให้นายมีชัย วีระไวทยะ มาเป็นประธานบอร์ดของโครงการนั้น ตนเชื่อมั่นในตัวนายมีชัย แต่หากปล่อยนายมีชัย ยืนโดดเดี่ยวก็ทำงานลำบาก นายกฯต้องระวังและมาดูแลเรื่องนี้ เพราะยังมีโครงการต้นกล้าอาชีพที่พรรคกำลังตรวจสอบข้อมูลอยู่ว่า มีการโกงแค่จุดเล็กๆหรือโกงแบบเดียวกับโครงการชุมชนพอเพียง มาร์คสั่งฟัน4ส.ข.ปชป.

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พท.ออกมาเปิดโปงการตรวจสอบโครงการชุมชนพอเพียงที่พบการทุจริตว่า หาก พท.มีข้อมูลสามารถส่งเข้ามาได้ตลอด รัฐบาลไม่ได้เพิกเฉย ทั้งนี้ ได้รับรายงานการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการชุมชนพอเพียงจากพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ที่ส่งมาเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว แต่ยังไม่ได้ดูในรายละเอียด

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะดำเนินการกับ 4 ส.ข. (สมาชิกสภาเขต) พรรคประชาธิปัตย์ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการเสนอเข้าสู่คณะกรรมการบริหารพรรคก่อน เพราะเป็นเรื่องของข้อบังคับพรรค ส่วนโทษจะถึงขั้นขับออกจากสมาชิกพรรคหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบว่ากรรมการจะเห็นว่าอย่างไร เมื่อถามว่า กรณีดังกล่าวจะทำให้กระทบต่อฐานเสียงของพรรคใน กทม.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อาจกระทบแต่ต้องยืนยันหลักที่ถูกต้อง และคนเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคอยู่แล้วตามระบบ ส.ข. แต่พรรคมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบตรงนี้

เมื่อนายมีชัย วระไวทยะ เข้ามาเป็นประธาน ศพช. จะช่วยให้ประชาชนมีความมั่นใจมากขึ้น อีกทั้งขณะนี้นายมีชัยยังไม่ได้ที่จะปรับรื้อโครงการใหม่ เพราะเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งผมก็อยากให้นายมีชัยทำงานอย่างอิสระ นายอภิสิทธิ์กล่าว

ปชป.ย้อนพท.เอี่ยวปุ๋ยอินทรีย์

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกอร์ปศักดิ์ ยื่นเรื่องต่อ สตง.ให้เข้ามาตรวจสอบการทุจริตในโครงการชุมชนพอเพียงว่า น่าจะเป็นข้อมูลเรื่องการซื้อปุ๋ยอินทรีย์ ใน 11 จังหวัด 17 อำเภอ 34 ตำบล ซึ่งเจ้าหน้าที่ สพช.ตรวจสอบข้อมูล พบว่ามีการใช้แบบฟอร์มเดียวกันแทบทุกจังหวัด ทั้งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ อาทิ แบบฟอร์มของชุมชนบ้านห้วยไผ่ใต้ หมู่ 8 ต.หนองหิน อ.หนองหิน จ.เลย แบบฟอร์มของชุมชนบ้านดอนสะแบง หมู่ 6 ต.หนองตาดใหญ่ อ.สีตา จ.นครราชสีมา และแบบฟอร์มของชุมชนบ้านเดื่อใต้ หมู่ 8 ต.บ้านเดื่อ อ.เมืองหนองคาย

เดิม สพช.ไม่ทราบว่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น จึงอนุมัติโครงการพร้อมจ่ายเงินไปให้กับโครงการซื้อปุ๋ยแล้วหนึ่งล็อต แต่พอมีล็อตที่ 2 เข้ามา สพช.ก็พบความผิดปกติ เพราะเมื่อคีย์ข้อมูลลงไปในคอมพิวเตอร์ปรากฏว่าลักษณะการนำเสนอโครงการเหมือนกันแทบจะทุกตัวอักษร จึงได้ระงับการจ่ายเงินและส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ แต่เมื่อลงไปถึงพื้นที่เจ้าหน้าที่ สพช.ถึงกับตกใจ เพราะพบว่ามีการนำปุ๋ยไปส่งในแต่ละชุมชนแล้วนพ.วรงค์กล่าว และว่า เจ้าของบริษัทจำหน่ายปุ๋ยดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นญาติกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะออกมาตรวจสอบคนอื่น ควรจะกลับไปกวาดบ้านตัวเองก่อน และขณะนี้ สพช.ได้เข้าไปตรวจสอบว่า โครงการขายปุ๋ยลักษณะแบบนี้มีมาตั้งแต่สมัยโครงการเอสเอ็มแอลหรือไม่

เปิด11จว.ใช้แบบฟอร์มเดียวกัน

รายงานข่าวจาก สพช.แจ้งว่า สำหรับโครงการจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพที่มีแบบฟอร์มเหมือนกัน มี 11 จังหวัด ประกอบด้วย จ.กำแพงเพชร จำนวน 40 หมู่บ้าน จ.มหาสารคาม 22 หมู่บ้าน จ.อุบลราชธานี 16 หมู่บ้าน จ.ชัยภูมิ 11 หมู่บ้าน จ.นครราชสีมา 10 หมู่บ้าน จ.เลย 4 หมู่บ้าน จ.อุดรธานี 4 หมู่บ้าน จ.บุรีรัมย์ 3 หมู่บ้าน จ.สกลนคร 3 หมู่บ้าน จ.หนองบัวลำภู และ จ.หนองคาย จังหวัดละ 1 หมู่บ้าน

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีโครงการปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพแล้ว ยังพบโครงการที่ใช้แบบฟอร์มเสนอโครงการแบบเดียวกันอีกหลายโครงการ อาทิ โครงการธนาคารโค โครงการธนาคารกระบือ โครงการส่งเสริมปลูกข้าวพันธุ์ดี โครงการร้านค้าชุมชน ใน จ.อุบลราชธานี และโครงการส่งเสริมปลูกข้าวพันธุ์ดีใน จ.กำแพงเพชร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook