ลดาวัลลิ์ติงเด้งสุริยงค์ พ้นผอ.ช่อง11ไม่เป็นธรรม เชื่อเครื่องมือเก่า อธิบดีกรมประชาฯหนาวๆร้อนๆ

ลดาวัลลิ์ติงเด้งสุริยงค์ พ้นผอ.ช่อง11ไม่เป็นธรรม เชื่อเครื่องมือเก่า อธิบดีกรมประชาฯหนาวๆร้อนๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เตะโด่งสุริยงค์ พ้นเก้าอี้ผอ.ช่อง 11 เซ่นปัญหาขัดข้องเชื่อมั่นปทท. ซัดทำงานไร้ประสิทธิภาพ ดันผอ.สำนักประชาสัมพันธ์เขต5 สุราษฎร์ธานี แทนที่ ขณะที่เผชิญส่อเก้าอี้หลุดรายต่อไป บ้าน111ติงเด้งไม่เป็นธรรม เชื่อเครื่องมือถ่ายทอดสดรุ่นเก่า ล้าหลังกว่าเอกชน ลดาวัลลิ์ติงเด้ง ผอ.สวท.ไม่เป็นธรรม เชื่อเครื่องมือถ่ายทอดสดเก่า

นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย(ทรท.) หนึ่งในสมาชิกบ้านเลขที่ 111 กล่าวเมื่อวันที่ 25 สิงหาคมถึงกรณีที่ นายสุริยงค์ หุณฑสาร ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย(ผอ.สวท.) ถูกนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งย้ายด่วนให้ไปประจำที่สำนักงานประชาสัมพันธ์ เขต 5 สุราษฎรธานี พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุสัญญาณขัดข้อง จนไม่สามารถถ่ายทอดสดรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมาได้ ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับนายสุริยงค์ ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ รมต.ประจำสำนัก ฯ ทำเกินกว่าเหตุ เนื่องจากไม่มีข้าราชการในสังกัดของรัฐคนใดที่จะมีใจออกห่างหรือกลั่นแกล้งผู้บังคับบัญชาอย่างแน่นอน

นางลดาวัลลิ์ กล่าวต่อว่า สาเหตุปัญหาและอุปสรรคสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้รายการเชื่อมั่นประเทศไทย ฯ ไม่สามารถถ่ายทอดสดได้นั้น คิดว่าเป็นเหตุจากเครื่องมือการทำงานของ สวท.ที่ไม่ทันสมัยและไม่ทันต่อเหตุการณ์ ทั้งนี้จากประสบการณ์ของตนในฐานะที่เคยเป็นพนักงานของ สวท.มาก่อนนานแล้ว พบว่าเครื่องมือการทำงานของ สวท.ยังเป็นเครื่องมือด้านการสื่อสารยังเป็นรุ่นเก่า หากเทียบกับสถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ ของภาคเอกชนทั่วไปแล้ว ยังล้าหลังกว่ามาก เมื่อสมรรถภาพของเครื่องมือในการทำงานอยู่ในระดับต่ำ ย่อมส่งผลให้ประสิทธิของผลงานที่ออกมาไม่น่าพอใจ ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นตนไม่คิดว่าจะเกิดจากตัวบุคคลแต่เกิดจากเครื่องมือมากกว่า สาทิตย์เด้งสุริยงค์ พ้นผอ.ช่อง 11 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์(กปส.) ย้ายนายสุริยงค์ หุณฑสาร ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือเอ็นบีที หรือช่อง 11 สลับตำแหน่งกับ น.ส.รัตนา เจริญศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 5 จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีสาเหตุมาจากการถ่ายทอดสดรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา มีปัญหาขัดข้อง

ทั้งนี้ นายสาทิตย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลเข้าหารือกับนายเผชิญ ขำโพธิ์ อธิบดี กปส.ที่ กปส.เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ว่าได้หารือกับนายเผชิญ และนายนัที เปรมรัศมี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.)เรียบร้อยแล้ว เห็นตรงกันว่า ควรมีการปรับปรุงระบบบริหารจัดการช่อง 11 ใหม่ โดยให้ย้ายนายสุริยงค์ เป็นผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ เขต 5 และให้ น.ส.รัตนา มาเป็นผู้อำนวยการช่อง 11 โดยมีผลในวันเดียวกันนี้(24 สิงหาคม)

นายสาทิตย์ กล่าวว่า การย้ายครั้งนี้ไม่ใช่เหตุผลทางการเมือง โดยเปิดโอกาสให้ทำงานมา 6-7 เดือน แต่ในหลักการเมื่อทำงานไม่ดี ก็ต้องเปลี่ยนแปลง เพื่อให้การสื่อสารภาครัฐไม่มีปัญหา ส่วนที่ให้ น.ส.รัตนา มาทำหน้าที่แทนเนื่องจากมีประสบการณ์ทำโทรทัศน์มา 17 ปี ยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนอธิบดี กปส.จะมีความผิดด้วยหรือไม่ ต้องรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริงภายใน 7 วันก่อน

ต้องการให้ กปส.เป็นสื่อสารภาครัฐที่น่าเชื่อถือ แต่บางคนอาจย่อหย่อนเรื่องประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นสร้างผลกระทบต่อช่อง 11 จึงต้องเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา เพราะไม่อยากให้ช่อง 11 ถูกกล่าวหาว่า วางยารัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่เชื่อว่ามีการวางยา แต่ถ้ามีจริงก็ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดนายสาทิตย์กล่าว

นายสาทิตย์ กล่าวถึงขั้นตอนการโยกย้ายว่า อธิบดี กปส.ได้ทำหนังสือไปถึงปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีคำสั่งโยกย้ายตามอำนาจหน้าที่ และตนได้เซ็นรับทราบแล้ว ขั้นตอนต่อจากนี้คือ การเวียนหนังสือ เพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติ ฉะนั้นการโยกย้ายครั้งนี้จะมีผลทันทีใน 24 ชั่วโมง ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนนั้น อธิบดี กปส.จะมีคำสั่ง โดยจะมีแนวปฏิบัติอยู่ 3 เรื่อง คือ 1.ให้พิจารณาสอบสวนหาข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน 2.คณะกรรมการชุดนี้จะมีองค์ประกอบที่หลากหลาย ทั้งคนภายใน กปส.ที่มีความรู้ด้านการสืบสวนสอบสวน และคนที่มีความรู้ด้านดาวเทียม เพื่อให้ข้อเท็จจริงมีความครอบคลุม และ3.ให้คณะกรรมการชุดนี้เสนอแนะด้วยว่า ในโอกาสต่อไป หากมีการถ่ายทอดสดควรจะมีแนวทางในการปฏิบัติอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังผู้อำนวยการคนใหม่มาแล้ว คงต้องมีการหารือกัน อีกทั้งปัญหาภายในช่อง 11 ยังต้องมีอีกหลายเรื่องที่จะต้องเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเข้าหารือกับนายเผชิญ นายสาทิตย์ ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา ว่าเหตุการณ์การถ่ายสดมีปัญหาไม่ใช่เกิดขึ้นครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยเมื่อครั้งที่เกิดเหตุขัดข้องในการถ่ายทอดสดที่ทำเนียบรัฐบาล ก็ได้เรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยและให้จัดทำแผนสำรองเอาไว้แล้ว แต่ก็ยังเกิดเหตุขึ้นอีก อีกทั้งข้อมูลที่รายงานเข้ามาในเบื้องต้นก็สับสนมาก ฝ่ายหนึ่งบอกว่าอุปกรณ์อัพลิงค์สัญญาณที่รถชำรุด อีกฝ่ายหนึ่งก็บอกว่าสัญญาณดาวเทียมที่ยิงขึ้นไปไม่เสถียร ทั้ง 2 ส่วนนี้เป็นเรื่องที่สามารถแก้ไขได้

ผมไม่เข้าใจทำไมถึงไม่คิดแผนสำรองเอาไว้ก่อน ที่สำคัญก็คือ ก่อนออกรายการก็ไม่แจ้งให้นายกฯ ทราบ ผ่านไปเกือบ 10 นาทีถึงจะแจ้ง เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการบริหารของคนมากกว่าปัญหาด้านอุปกรณ์นายสาทิตย์ กล่าว และว่า นอกจากจะตั้งคณะกรรมการหาคนรับผิดชอบแล้ว ในส่วนของทีมรายการที่แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ฝ่ายโปรดิวเซอร์ กับฝ่ายดูแลเทคนิคการถ่ายทอดสด ซึ่งชุดที่ดูแลเกี่ยวกับเทคนิคนี้จะต้องเปลี่ยนทั้งชุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุริยงค์ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการช่อง 11 และนายเผชิญ ได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิบดี กปส.สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช มีนายจักรภพ เพ็ญแข เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นผู้นำรัฐบาล ก็มีกระแสข่าวการปลดนายสุริยงค์ และนายเผชิญ แต่เรื่องเงียบหายเนื่องจากนายสาทิตย์ ได้เคลียร์ใจกับบุคคลทั้งสองแล้วในเรื่องของการทำงานสนองนโยบายรัฐบาล

นางลดาวัลลิ์ กล่าวว่า การตัดสินใจย้ายนายสุริยงค์ ของนายสาทิตย์เชื่อว่าเป็นการนำอารมณ์ทางการเมืองมาเป็นปัจจัยหลัก เพราะถ้าพิจารณาสาเหตุแท้จริงจะพบว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการที่ช่อง 11 ได้รับงบฯสนับสนุนไม่เพียงพอ ทำให้เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ทันสมัย ถ้ารัฐบาลจริงใจแก้ไขปัญหา ก็ควรจะเจียดเงินกู้ 8 แสนล้านบาทมาให้ช่อง11 ใช้ปรับปรุงอุปกรณ์ในสถานี

คนเป็นผู้บังคับบัญชาควรมองเห็นข้อจำกัดขององค์กรแล้วเข้าไปแก้ไข ไม่ใช่จ้องดูความผิดของตัวบุคคล เพราะอาจถูกมองว่ารังแกข้าราชการ นางลดาวัลลิ์ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook