เตรียมใช้สื่อแจงหากสถานการณ์บานปลาย

วันนี้ (26 ส.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักรในเขตดุสิต ว่า เพราะรัฐบาลเป็นห่วงว่า สถานการณ์จะมีปัญหากระทบต่อความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ไม่ได้เป็นการตื่นตูมอะไร แต่เป็นผลดีมากกว่า ในการสร้างความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลมีเครื่องมือจัดการไม่ให้ปัญหาลุกลาม และไม่ได้ไปริดลอนสิทธิของผู้ชุมนุม ทั้งนี้ รัฐบาลจะใช้สื่อของรัฐทำความเข้าใจกับประชาชน โดยใช้ช่อง 11 เป็นตัวหลัก นอกจากนี้ ตนจะประชุมกับสื่อของรัฐอื่น ๆ ทั้ง อสมท. หรือช่อง 5 เชื่อมเครือข่ายเข้าด้วยกัน เพื่อชี้แจงหากเกิดเหตุการณ์บานปลายขึ้น โดยจะชี้แจงในสัปดาห์นี้อย่างเต็มที่ และก่อนหน้านี้ได้หารือกับทางวิทยุชุมชน เคเบิ้ลทีวี และโทรทัศน์ดาวเทียม ซึ่งได้กำชับไปที่เคเบิ้ลทีวีเป็นพิเศษ เพราะมีการถ่ายทอดทีวีดาวเทียมทั้งของเสื้อแดง และฝ่ายอื่น ๆ ซึ่งได้ขอร้องว่า ขอให้ระมัดระวังเนื้อหา หากไปจาบจ้วงสถาบัน หรือล่วงละเมิดบุคคลจะถูกฟ้องร้องได้

เป้าหมายเป็นการทำความเข้าใจว่า สถานการณ์ที่มีการชุมนุมกันนั้น เงื่อนไขที่เขาใช้ เป็นเงื่อนไขที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะงานนี้มีความพยายามใช้เงื่อนไขว่า รัฐบาลไปถ่วงรั้งฎีกา ทั้งที่อยู่ในขั้นตอนกฎหมาย ไม่ได้ถ่วงรั้ง นายสาทิตย์ กล่าว

เมื่อถามว่า สิ่งที่กลุ่มเสื้อแดงทำถือว่าผิดเงื่อนไขการให้ประกันตัวหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่เขาต้องรับผิดชอบ เพราะหลายคนมีคดี และศาลวางเงื่อนไขในการประกันตัวแล้ว ดังนั้นหากผิดเงื่อนไข จะไปโทษว่าศาลลำเอียงไม่ได้ เพราะละเมิดเงื่อนไขเอง ทั้งนี้ หากมีการชุมนุมกัน ทางตำรวจต้องจัดการ โดยคนที่ละเมิดเงื่อนไขประกันตัว ต้องกำชับให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการอย่างเข้มงวด.