กขช.ถกอีกก่อนประกาศราคาประกันสินค้าเกษตร
''เงินที่ใช้ดำเนินโครงการฯ นั้น จะมาจากโครงการไทยเข้มแข็ง เพื่อใช้ชดเชยส่วนต่างให้ข้าวโพดและมันสำปะหลัง 18,500 ล้านบาท และข้าวเบื้องต้น 25,000 ล้านบาท หากต้องใช้เงินเพิ่ม ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้เงินในโครงการไทยดังกล่าวได้ทันทีหรือไม่ ธ.ก.ส.จึงต้องกันงบไว้ 120,000 ล้านบาท ส่วนราคาข้าวนั้น น่าจะเป็นไปตามข้อเสนอเดิม โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิที่ให้ราคาสูงถึงตันละ 15,300 บาทนั้น ได้บวกเพิ่มกำไรให้ถึง 40% เพื่อจูงใจให้เกษตรกรหันมาปลูกข้าวที่มีราคาและคุณภาพดีที่สุดมากขึ้น อีกทั้งผลผลิตที่ได้ต่อไร่ปัจจุบันยังค่อนข้างต่ำ'' นายเอ็นนู กล่าว
สำหรับการชดเชยส่วนต่างราคาข้าวที่รับประกันนั้น ประเมินไว้ที่ตันละ 2,000 บาท ซึ่งเป็นส่วนต่างของราคาประกันกับราคาตลาด จึงต้องประสานความร่วมมือกับสมาคมโรงสีที่เข้าร่วมโครงการให้เข้าไปช่วยรับซื้อข้าวจากเกษตรกร หากเห็นว่าส่วนต่างราคามีแนวโน้มจะห่างกันมากขึ้น เพื่อช่วยให้รัฐไม่ต้องแบกรับภาระการชดเชยมากนัก ซึ่งจากการหารือกับโรงสีทุกจังหวัด พร้อมให้ความร่วมมือ โดยหลังจากกขช.ประกาศราคาประกัน เกษตรกรสามารถยื่นขอเข้าโครงการได้ทันที โดยให้นำหนังสือรับรองพื้นที่การปลูกมาติดต่อ ธ.ก.ส. สาขาใกล้บ้าน เพื่อจัดทำสัญญาประกันราคาพืชผลในแต่ละชนิดต่อไป.