กกต.ยันเชือด44ส.ส.ถือหุ้น ย้อนส.ว.ร้องศาลปค.กลับไปเปิดรธน.

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม นายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวถึงกรณีการพิจารณาลงมติคำร้องการถือครองหุ้นของ 44 ส.ส.ที่อาจถือหุ้นกิจการสื่อและบริษัทที่รับสัมปทานจากภาครัฐ ซึ่งเป็นการกระทำต้องห้ามมาตรา 48 ประกอบ มาตรา 265 (2) (4) แห่งรัฐธรรมนูญว่า เนื่องจากมีเอกสารที่ต้องพิจารณาเป็นจำนวนมาก ประกอบกับบริษัทที่คณะอนุกรรมการต้องเข้าไปตรวจสอบการถือหุ้นของส.ส.ในครั้งนี้มีมากถึงกว่า 700บริษัท ดังนั้นเพื่อความถูกต้องชัดเจน จึงต้องให้ขยายระยะเวลาออกไป และนัดลงมติใน วันที่ 2 กันยายนนี้

ส่วนกรณีกลุ่มส.ว.ที่กกต.มีมติให้พ้นสภาพเพราะถือหุ้นต้องห้ามและร้องขอให้ศาลปกครองเพิกถอนคำวินิจฉัยของกกต.นั้น ส่วนตัวไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ เพราะต่างฝ่ายต่างทำงาน แต่เรื่องขอบเขตอำนาจนั้นขอให้กลับไปอ่านรัฐธรรมนูญมาตรา 223 ที่บัญญัติถึงขอบเขตอำนาจหน้าที่ของศาลปกครองในการรับเรื่องร้องเรียนและวินิจฉัย ยืนยันว่าไม่ว่าศาลปกครองจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาดกรณีของส.ว.ออกมาเป็นอย่างไร จะไม่มีผลต่อการใช้ดุลยพินิจชี้ขาด44ส.ส.ที่เหลือ เพราะเราต้องมั่นคงเป็นกลางและสุจริต นายวิสุทธิ์ กล่าว