วางบึ้มทหารพรานชุดคุ้มครองครูปัตตานีสาหัส 1 ร.ร.ยะลา-นราฯงดสอนชั่วคราวหลังโจรใต้ป่วนหนัก ตำรวจรู้ตั

วางบึ้มทหารพรานชุดคุ้มครองครูปัตตานีสาหัส 1 ร.ร.ยะลา-นราฯงดสอนชั่วคราวหลังโจรใต้ป่วนหนัก ตำรวจรู้ตั

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
คนร้ายวางบึ้มทหารพรานชุดคุ้มครองครูปัตตานีขณะลาดตระเวณสาหัส 1 ราย โจรใต้ป่วนหนัก ฝังระเบิดแสวงเครื่องใต้ถนน รถชุมคุ้มครองครูยะลาขับผ่านระเบิดพังยับ แถมใช้อาวุธสงครามยิงถล่มซ้ำ จนท.เจ็บเล้กน้อย ระเบิดทหารพรานชุดรปภ.ครูที่ปัตตานี บาดเจ็บ 1 นาย

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 26 สิงหาคม พ.ต.ท.นริศ กะเจ สารวัตรเวร สภ.บ้านโสร่ง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้รับบาดเจ็บ บนถนนสายบ้านโสร่ง-ยะลา บ้านต้นตำเสา ม.5 ต.เข้าตูม จึงรายงานให้ พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผบก.ปัตตานี พ.ต.ท.อาคม บัวทอง สวญ.สภ.บ้านโสร่ง นำกำลังไปที่เกิดเหตุ ไปถึงพบเพียงรอยเลือดและหลุมระเบิดข้างทาง มีสะเก็ดและชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ ส่วนคนเจ็บถูกนำส่ง รพ.ศูนย์ยะลา ทราบชื่อว่า อาสาสมัครทหารพรานสุทีป ธาโว สังกัด กรมทหารพรานที่ 4316 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าลำตัวหลายแห่งบาดเจ็บสาหัส

สอบสวนก่อนเกิดเหตุทราบว่า ขณะที่กำลังทหารพรานจำนวน 6 นายกำลังเดินลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับคณะครูที่กำลังเดินทางกลับบ้าน ปรากฏว่าช่วงที่ อาสาสมัครทหารพรานสุทีปเดินตรวจเส้นทาง ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัมที่วางไว้ริมถนนด้วยรีโมทคอนโทรล จนเกิดเสียงดังสนั่น แรงระเบิดทำให้สะเก็ดกระเด็นถูกลำตัวอาสาสมัครทหารพรานสุทีปจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือของแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่

คนร้ายป่วนถี่ โรงเรียนยะลา-นราฯ งดการสอนชั่วคราว

นายสุรเดช ศุภอักษร รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต2 (ฝ่ายความมั่นคง) กล่าวว่า จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดบนถนนสายยะลา-บันนังสตา หวังทำร้ายทหาร ฉก.ยะลา 15 ภารกิจดูแลรักษาความปลอดภัยครู เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่งผลให้โรงเรียนซึ่งมีที่ตั้งอยู่บริเวณเส้นทางดังกล่าวจำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วยโรงเรียนนิคมพัฒนาวิทย์ โรงเรียนนิคมบ้านกือลอง โรงเรียนบ้านคีรีราชพัฒนา และโรงเรียนนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ 1 งดการเรียนการสอนชั่วคราวทันทีอย่างน้อย 1 วัน เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ความปลอดภัย หลังคนร้ายสร้างสถานการณ์ถี่ต่อเนื่องระยะนี้ และเพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติภารกิจติดตามกลุ่มคนร้ายที่ลงมือสร้างสถานการณ์ครั้งนี้ได้สะดวก

ด้านนายประสิทธิ์ หนูกุ้ง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาส เขต1 เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ไฟไหม้อาคารเรียน โรงเรียนบ้านตันหยง ซึ่งตั้งอยู่ ม.4 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 52 ที่ผ่านมาส่งผลให้อาคารเรียนของนักเรียนชั้นอนุบาล และเด็กเล็ก ไม่สามารถใช้การจะใช้เวลาประมาณ1สัปดาห์จึงจะสามารถกลับมาทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ โดยจะนำเต็นท์มาตั้งเพื่อใช้เป็นห้องเรียนชั่วคราวรองรับการเรียนการสอนไปก่อน

สำหรับโรงเรียนแห่งนี้มีอาคารเรียนขนาดใหญ่จำนวน 2 หลัง แต่ในปี 2551ที่ผ่านมา ถูกวางเพลิงเสียหายไป 1 หลัง และกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโดยปัจจุบันนักเรียนอาศัยอาคารเรียนชั่วคราวทำการเรียนการสอน โดยเหลืออาคารอีก1หลังก่อนจะมาเกิดเพลิงไหม้ในวันที่25 ส.ค. 52 ที่ผ่านมา เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ยังรอการสรุปข้อมูลหลักฐาน จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองวิทยาการ ว่าจะเป็นเหตุลอบวางเพลิงจากกลุ่มก่อความไม่สงบหรือไม่ เพราะยังมีปัจจัยอื่นที่น่าสงสัยนั่นคือสภาพอาคารเรียนที่เก่าแก่อาจมีความเป็นไปได้ที่เกิดไฟฟ้าลัดวงจร แต่อย่างไรก็ตามยังต้องรอผลการพิสูจน์หลักฐานจากผู้เกี่ยวข้องอีกครั้ง ฝังระเบิด10กก.บึ้มรถทหารชุดคุ้มครองครู แล้วยิงถล่มซ้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.45 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนดักซุ่มอยู่ในป่าทึบ ริมถนนในหมู่ 13 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา จนกระทั่งรถยนต์วีว่า สีเขียวของเจ้าหน้าที่ทหารชุดร้อย ร.251 ฉก.ยะลา 15 ชุดคุ้มครองครูเดินทางกลับจากส่งคณะครูผ่านมา คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม ที่ฝังไว้ใต้ผิวถนนจนเกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้ช่วงล่างรถยนต์พังเสียหาย รถกระดอนไปตกอยู่ข้างทางห่างไป 10 เมตร ส่งผลเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

หลังจากนั้นกลุ่มคนร้าย ได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงซ้ำ จนเกิดการปะทะกันขึ้นราว 5 นาที แล้วหลบหนีไปเจ้าหน้าที่ทหารปลอดภัย ต่อมา พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา สนธิกำลังกับฝ่ายทหารเดินทางไปตรวจสอบวางแผนออกสืบสวน และไล่ล่าคนร้ายชุดนี้ต่อไปแล้ว ส่วนความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุวางระเบิดหน้าร้านอาหาร ที่จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพจากกล้องวงจรปิด 4 ตัว บริเวณโดยรอบร้านอาหารสวนกล้วย จุดเกิดเหตุที่คนร้ายลอบวางระเบิด ในซอยรัตนวานิชย์ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส สามารถจับภาพคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น อายุประมาณ 25 - 30 ปี ผอม สูงประมาณ 168 เซนติเมตร ผิวดำ-แดง สวมหมวกปิดบังใบหน้า โดยนำรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุมาจอดไว้ข้างกำแพงร้านอาหารเมื่อเวลา 12.15 น. เกือบ 2 นาทีต่อจากนั้น ได้ทำทีเดินไปซื้อของในร้าน โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที เมื่อเดือนออกมาได้ส่งสัญญาณให้เพื่อนขับรถจักรยานยนต์มารับออกไป

เบื้องต้นตำรวจได้นำภาพคนร้ายที่ได้แจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย เพื่อสนธิกำลังติดตามแล้ว พร้อมตรวจสอบภาพ้องวงจรปิดเพิ่มเติม เพื่อหาเส้นทางการหลบหนี ล่าสุด รู้ตัวแล้วว่าคนร้ายเป็นใคร มาจากไหน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อขออนุมัติออกหมายจับ ศูนย์สื่อสาร ภ.จ.ยะลา ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผบก.ภ.จ.ยะลา เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 26 ส.ค. ว่า ให้มีการวิทยุแจ้งเตือนทุกสถานีในเครือข่ายให้เพิ่มความถี่ในการรักษาความปลอดภัย พระภิกษุบิณฑบาต ครู สถานียุทธศาสตร์ จุดตรวจจุดสกัด และด่านตรวจลอย ให้ใช้ความสังเกตตรวจสอบอย่างละเอียดยานพาหนะที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหรือมีลักษณะดัดแปลง หลังเจ้าหน้าที่การข่าว ของ ศปก.ตร.ศชต.รับทราบกระแสข่าวที่กลุ่มก่อความไม่สงบพยายามจะใช้ระเบิดซุกซ่อนในรถยนต์ หรือ คาร์บอมบ์ นำเข้าไปก่อเหตุในพื้นที่ 2 แห่ง คือ ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา และเทศบาลตำบลยะหา อ.ยะหา ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนสิงหาคม ซึ่งคนร้ายเคยก่อเหตุ และได้ผลมาแล้วในเขตเทศบาลตำบลยะหา เมื่อเที่ยงวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ พ.ต.พันธ์ศักดิ์ ทองสุข รอง ผบ.ฉก.ยะลา 14 พร้อมลูกน้องเสียชีวิต 2 นาย และบาดเจ็บอีก 6 ราย

ขณะที่ พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการกองกำลังผสมพลเรือนตำรวจทหาร เปิดเผยถึงเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุวางระเบิดหน้าร้านอาหาร ที่จ.นราธิวาส ว่า ยังเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 13 ราย ซึ่งจากการสอบสวนพบรถกระบะที่ใช้ถังแก๊สบรรจุระเบิดจอดไว้หน้าร้านอาหาร ขณะที่ ทหารและตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด โดยจะมีการประชุมสรุปผลอีกครั้ง ทั้งนี้ การก่อเหตุของคนร้ายที่ทำในช่วงถือศีลอด หรือ เดือนรอมฏอนนั้น เชื่อว่า มีข้อมูลว่าหากก่อเหตุในช่วงนี้ เป็นช่วงที่มีคนรวมตัวกันมาก การก่อเหตุจะได้บุญมาก พล.ท.กสิกร กล่าวอีกว่า สำหรับในช่วงนี้ได้กำชับให้ทุกหน่วยระมัดระวัง ผู้ทำมาหากินกว่า 2 ล้านคน หลังเกิดเหตุการณ์ได้กำชับด่านตรวจต่างๆ ให้เฝ้าระวังมากขึ้น สำหรับร้านที่เกิดเหตุเป็นร้านที่ทางข้าราชการในพื้นที่ทานอาหารกันมากในช่วงกลางวัน ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่เฝ้าดูอยู่ แต่ก็เกิดเหตุขึ้นจนได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook