งานเด่นประกวดนวัตกรรมแห่งประเทศไทย

ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโน โลยีแห่งชาติ ประจำปี 2552 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งเพิ่งผ่านพ้นไป มีกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ การประกวดผลงานนวัตกรรม รอบภูมิภาค ประจำภาคกลางในโครงการรางวัลนวัตกรรมแห่งประเทศไทย (นวท.) ครั้งที่ 9 ประจำปี 2552 ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

ซึ่งเป็นความร่วมมือของ สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ โดยการประกวดแบ่งเป็นสองสาขา คือ สาขาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี และสาขานวัตกรรมกีฬา และออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ

การประกวดรอบภูมิภาคในเขตภาคกลาง มีหลาย ๆ ผลงานที่น่าสนใจคอลัมน์ฉลาดสุด ๆ นำผลงานบางส่วนมาเสนอ เริ่มจากผลงาน เย็นฤดี ของ น.ส.เขมิกา มีใจรัก น.ส.จิตฤทัย บุญยะประสพ และ น.ส.กิตติมา แก้วมีนา จากโรงเรียนวัดทรงธรรม จ.สมุทรปราการ ที่ส่งประกวดในสาขา นวัตกรรมกีฬา และออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

น้องเขมิกา กล่าวว่า แนวคิดของผลงานมาจากการที่ต้องการให้การออกกำลังกายนอกจากเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพแล้วยังสามารถทำให้เกิดประโยชน์อย่างอื่นด้วย จึงได้คิดออกแบบและสร้างอุปกรณ์ออกกำลังกายที่เปลี่ยนพลังงานกลของมนุษย์เป็นพลังงานลม โดยอุปกรณ์หลัก ๆ จะประกอบไปด้วยที่สูบลม ถังเก็บลม มือจับ ล้อเลื่อนพร้อมตัวบังคับให้อยู่กับที่ หัวฉีดน้

ขั้นตอนการใช้งานเมื่อเราขึ้นไปยืนบนอุปกรณ์ในลักษณะเดินหรือวิ่ง สูบลม 2 อันจะทำงานดันลมไปเก็บไว้ในถังพีวีซี 2 ถัง ซึ่งหากลมในถังพีวีซีเต็มก็จะทำให้แป้นเหยียบแข็ง ไม่สามารถเหยียบลงได้ ลมที่อยู่ในถัง เราจะใช้เป็นแรงลมในการดันน้ำออกมาตามสายใช้พ่นรดน้ำต้นไม้ จากการทดลอง อุปกรณ์สามารถพ่นน้ำได้สูงถึงชั้น 2 ของบ้าน หรือจะใช้แรงดันลมอีกถังในการ เติมลมยางมอเตอร์ไซค์และจักรยานก็ได้

ด้านนายธนู แสงอินทร์ ครูที่ปรึกษา กล่าวว่า ผลงานชิ้นนี้นักเรียนใช้เวลาคิดและออกแบบประมาณ 3 เดือน ใช้งบจำนวน 6,500 บาท สิ่งที่แพงคือตัวปั๊มลม ถังพีวีซี ต้องจ้าง ช่างในการเชื่อมเหล็ก อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ของอุปกรณ์ชิ้นนี้เมื่อใช้เป็นประจำในการออกกำลังกายจะทำให้ช่วยลดไขมันบริเวณ น่อง ต้นขา จนถึงหน้าท้อง และยังได้พลังงานเพื่อใช้ในการรดน้ำต้นไม้และเติมลมโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าในการปั๊ม

ส่วนอีกหนึ่งผลงานชื่อว่า เก้าอี้งาน บริหารร่างกาย จากวิทยาลัยเทคนิคกาญจนบุรี เจ้าของผลงานคือ นายสุวัฒน์ กิจแก้ว นาย สุพจน์ ทิพย์พานทอง นายจักรกฤษณ์ หนูช่วย และนายสรรชัย เลิศศิล นักศึกษาชั้น ปวส. แผนกช่างยนต์ ผลงานชิ้นนี้ส่งประกวดในสาขา นวัตกรรมกีฬา และออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า

น้องสุวัฒน์ กล่าวว่า ผลงานชิ้นนี้มีแนวคิดจากสภาพสังคมไทยในปัจจุบันคนวัยทำงานมีเวลาออกกำลังกายน้อยลง จึงคิดที่จะออกแบบเก้าอี้ทำงานที่สามารถใช้ออกกำลังกายในระหว่างทำงานได้ โดยเก้าอี้ตัวนี้ใช้เวลาในการหาข้อมูลและประดิษฐ์จนเสร็จประมาณ 1 เดือน ด้วยงบประมาณ 5,000 บาท โดยเก้าอี้ที่ใช้เป็นเก้าอี้สำหรับนั่งทำงานทั่วไปเชื่อมต่อเข้ากับเหล็กที่มีลักษณะคล้ายแขนกลที่มีข้อต่อใช้กางและงอเข้า-ออกได้ เมื่อเรานั่งทำงานอยู่หากอยากพักออกกำลังกายก็สามารถทำได้ โดยใช้งานคล้ายกับเครื่องออกกำลังกายตามฟิตเนสทั่วไป นอกจากนี้ลูกกลิ้งที่อยู่ปลายเท้ายังสามารถใช้เพื่อนวดฝ่าเท้าให้ผ่อนคลายเมื่อนั่งทำงานเป็นเวลานานได้

เก้าอี้สามารถใช้ออกกำลังกายได้ 5 ท่า ช่วยกระชับกล้ามเนื้อแขน ไหล่ และหน้าอก โดยใช้หลักความฝืดในการเพิ่มแรงในการกางแขนกลเข้า-ออก และสามารถตั้งความฝืดได้ตามต้องการของผู้ออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังช่วยทำให้เราประหยัดไม่ต้องซื้ออุปกรณ์แพง ๆ หรือต้องเดินทางไปออกกำลังกายนอกบ้านจนทำให้เสียเวลาและเสียค่าน้ำมันรถด้วย

ทั้งหมดเป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ส่วนผลงานชิ้นไหนจะคว้ารางวัลระดับประเทศ คงต้องรอการประกวดรอบชิงชนะเลิศ ที่จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้.

จิราวัฒน์ จารุพันธ์

JirawatJ@dailynews.co.th