เศรษฐกิจฟื้นกนง.ตรึงอาร์พี1.25%

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเห็นชอบให้คงอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน หรือ อาร์พีไว้ที่ 1.25% ต่อปี เนื่องจากพิจารณาเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินระหว่างประเทศปรับตัวดีขึ้น โดยเห็นได้จากตัวเลขการขยายตัวเศรษฐกิจในไตรมาส 2/52 ของกลุ่มประเทศจี 3 คือสหรัฐอเมริกา ยุโรปและญี่ปุ่น รวมทั้งกลุ่มประเทศเอเชียดีกว่าไตรมาส 1/52 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของไทยเริ่มเป็นบวกเช่นกันเห็นได้จากเครื่องชี้เศรษฐกิจทั้งในเรื่องการผลิตในภาคอุตสาหกรรม ส่งออก การจ้างงาน และการใช้จ่ายของภาคเอกชนเพิ่มขึ้น แต่ปัจจัยเสี่ยงยังเป็นเรื่องความไม่แน่นอนของฐกิจโลก และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยจะติดตามอย่างใกล้ชิด และพร้อมใช้นโยบายการเงินที่เหมาะสมเพื่อดูแลเศรษฐกิจ

ตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวดีขึ้น และเงินเฟ้อไม่ได้เป็นแรงกดดันต่อนโยบายการเงิน แต่การที่เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวต่อเนื่องหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับกลุ่มประเทศจี 3 และไทยจะหวังพึ่งพาจีนเพื่อทดแทนการส่งออกที่หายไปไม่ได้ เพราะสินค้าที่ส่งออกไปจีนบางส่วนส่งต่อไปยังจี 3 สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการคลังยังเป็นตัวหนุนให้เศรษฐกิจในประเทศ ยกเว้นว่าการเบิกจ่ายล่าช้าไม่เป็นไปตามเป้าหมายจะมีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และยืนยันว่าการคงดอกเบี้ยอาร์พีไม่ได้ส่งสัญญาณว่าดอกเบี้ยในตลาดจะอยู่ในช่วงขาขึ้น ส่วนสภาพคล่องปัจจุบันเพพอต่อการกู้ยืมของรัฐบาลถ้ามีปัญหาพร้อมดูแล

นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช กรรมการ กนง. กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้วและกำลังปรับตัวดีขึ้นเป็นรูปตัววี คาดว่าเศรษฐกิจปลายปีฟื้นตัวแน่นอน และในปี 53 จีดีพีเป็นบวก 4.5-5% ซึ่งเชื่อว่าจีดีพีไตรมาส 4/53 จะอยู่ระดับเดียวกับจีดีพีไตรมาส 1/51 ก่อนเกิดวิกฤติสถาบันการเงิน

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า กนง.จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.25% ต่อเนื่องไปจนถึงกลางปีหน้า ส่วนอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ขณะนี้มีบางส่วนที่ได้ปรับขึ้นบ้าง.