เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 27 ส.ค.ที่กองปราบปราม นายณัฐเดชา สนใจ อายุ 45 ปี ผู้สื่อ
ข่าวภูมิภาค สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์
ทีวี ประจำจังหวัดลพบุรี อยู่บ้านเลขที่ 25/9 หมู่ 3 ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป. เพื่อร้องทุกข์ขอให้ช่วยเหลือกรณีนางสุธาศินี หรือขวัญ สนใจ อายุ 31 ปี ภรรยาของนายณัฐเดชา ได้หายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองลพบุรี ไว้แล้ว แต่อยากจะให้ทางกองปราบปราม ช่วยเหลืออีกทางหนึ่งด้วย นายณัฐเดชา ให้การว่าตนกับภรรยาอยู่ด้วยกันมานานกว่า 14 ปี จนมีลูกชายด้วยกัน 1 คน และมีลูกติดจากภรรยาเก่า 1 คน โดยภรรยาทำงานเป็นลูกจ้างที่อุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกันมาก่อน จนเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา นางสุธาศินี ได้ออกจากบ้านตั้งแต่เช้า เพื่อไปเรียนภาคพิเศษ ระดับปริญญาตรี ที่มตนอยู่บ้านกับลูก ไม่ได้ออกไปด้วย แต่ก็โทรศัพท์ติดต่อกันตลอด มาผิดสังเกตเมื่อช่วงเย็น เพราะตามปกติแล้วนางสุธาศินี จะกลับถึงบ้านไม่เกิน 6 โมงเย็น โทรศัพท์ไปหาก็ไม่รับสาย จึงโทรศัพท์ไปที่กลุ่มเพื่อนๆของภรรยา ก็ไม่มีใครรู้ว่าไปไหน ออกตามหาไปหลายที่ แต่ก็ไม่พบ นายณัฐเดชา กล่าวอีกว่า ปกติแล้วภรรยาของตนไม่เคยหายไปไหนหลายวัน โดยที่ไม่บอกทางบ้าน แต่แม่ของตนเล่าให้ฟังว่าระยะหลังสังเกตเห็นมีสีหน้าเคร่งเครียดเหมือนวิตกกังวลอะไรอยู่ ต่อมาจึงได้ข้อมูลว่าเขาได้เปิดบัญชีธนาคารเอาไว้หลายเล่ม ทั้งที่ไม่ได้ทำ
ธุรกิจหรือมีรายได้อะไรเป็นพิเศษ นอกจากนี้ทางตำรวจก็ได้ช่วยตรวจสอบก็พบการโอนเงินและเบิกถอนเงินจากบัญชีดังกล่าวหลายครั้ง เป็นจำนวนหลักหมื่นถึงแสนบาท ก็เลยทำให้เชื่อว่าน่ามีอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ภรรยาของตนหายตัวไป ตำรวจได้ตามสืบจากเลขที่บัญมีการโอนเงินเข้าบัญชีของเขา ก็พบข้อมูลว่าน่าจะเป็นข้าราชการรายหนึ่ง แต่ยังไม่ทราบสังกัด นอกจากนี้ในการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาท่าม่วง จ.กาญจนบุรี และที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารเดียวกัน สาขาดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 17 และ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ก็พบภาพหญิงสาวสวมแว่นตาซึ่งน่าจะเป็นภรรยาผม มาพร้อมกับชาย 2 คน โดยเชื่อว่าทั้งสองคนน่าจะทำให้ภรรยาตน ต้องอยู่ในภาวะจำยอมที่ต้องทำอะไรบางอย่าง จึงขอให้ทางกองปราบปราม ช่วยติดตามหาภรรยาผมให้ด้วย เพราะเกรงว่าตอนนี้เขาอาจตกอยู่ในอันตรายก็ได้ นายณัฐเดชา กล่าว
