"ซีพี" ดันรายได้เทียบชั้นธุรกิจโลก ตระกูลเจียรวนนท์ ขึ้นอันดับ 21 พร้อมชูเป้าองค์กรยั่งยืน

"ซีพี" ดันรายได้เทียบชั้นธุรกิจโลก ตระกูลเจียรวนนท์ ขึ้นอันดับ 21 พร้อมชูเป้าองค์กรยั่งยืน

"ซีพี" ดันรายได้เทียบชั้นธุรกิจโลก ตระกูลเจียรวนนท์ ขึ้นอันดับ 21 พร้อมชูเป้าองค์กรยั่งยืน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปี 2020 ถือเป็นปีที่มีความท้าทายในภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในสถาณการณ์การแพร่ระบาดของโรคไว้รัสโควิด-19 ที่กระทบต่อหลายธุรกิจทั่วโลก อย่างไรก็ดีหลายตระกูลมหาเศรษฐีทั่วโลก ต้องมีการปรับตัวกับสถานการณ์ ที่กระทบการลงทุนใหม่ กระทบต่อธุรกิจในปัจจุบัน และที่สำคัญกระทบต่อพนักงานในองค์กร

ทั้งนี้ สำหรับประเทศไทย บริษัทที่ติดอันดับดีที่สุดจากการจัดอันดับโดย บลูมเบิร์ก ซึ่งเปิดเผยผลจัดอันดับคนรวย โดยในปีนี้ "วอร์ตัน" เจ้าของกิจการวอร์มาร์ท(Walmart) ยังครองแชมป์มหาเศรษฐีโลกมีทรัพย์สิน 215 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6,880,000 ล้านบาท ซึ่งถือได้ว่า เป็นตระกูลที่บริหารธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดที่มีสาขากว่า 11,000 สาขาทั่วโลก

ซึ่งในปีนี้ ตระกูลเจียรวนนท์ ที่ประกอบธุรกิจในกว่า 22 ประเทศทั่วโลก มีมูลค่าทรัพย์สินอยู่ที่อันดับ 21 ซึ่ง แซงหน้า ตระกูลลี ของกลุ่มบริษัทซัมซุง ซึ่งถูกจัดอันดับไว้ที่อันดับที่ 25 ทำให้บริษัทของประเทศไทย ที่ถือได้ว่า บริษัทอินเตอร์สัญชาติไทย ได้เข้าทำเนียบ TOP 25 ของโลก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานการจัดอันดับมหาเศรษฐีโลก เดือนสิงหาคม ปี 2020 โดยบลูมเบิร์ก ระบุว่า อันดับที่ 21 เป็นของตระกูลเจียรวนนท์ มีทรัพย์สินมูลค่ารวม 30.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 982,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นธุรกิจที่เริ่มต้นในประเทศไทยและได้ขยายการลงทุนไปกว่า 22 ประเทศทั่วโลก

โดยล่าสุด ได้ขยายธุรกิจฟาร์มกุ้งไปในประเทศสหรัฐอเมริกา และมีธุรกิจด้านอาหารทั้งในอเมริกาและยุโรป ทำให้รักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เครือซีพี ได้มีธุรกิจที่หลากหลาย อาทิเช่น เกษตร อาหาร ค้าปลีก สื่อสาร และ ธุรกิจอื่นๆ ในหลายประเทศ โดยมีการนำธงชาติไทยไปติดในทุกสำนักงานที่ไปลงทุน

นอกจากนี้ ในปี 2020 เครือซีพีได้ประกาศนโยบายความยั่งยืนสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ และ การบริหารจัดการของเสียเป็นศูนย์ ซึ่งถือว่า เป็นสิ่งที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ

ทั้งนี้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้บริจาคเงินช่วยเหลือสังคมในประเทศไทย รวมยอดกว่า 700 ล้านบาท เงินลงทุนดังกล่าว แบ่งเป็น สร้างโรงงานหน้ากากอนามัยฟรี 100 ล้านบาท

พร้อมเพิ่มงบผลิตหน้ากากอีก 75 ล้านบาท บริจาค อุปกรณ์การแพทย์ 30 ล้านบาท ,โครงการมอบอาหารต้านภัยโควิด-19 ให้บุคลากรการแพทย์และผู้ถูกกักตัว 200 ล้านบาท ,มอบ 77 ล้าน ให้กับ 77โรงพยาบาลและโครงการอื่นๆ 176.60 ล้านบาท ,แจกอุปกรณ์สื่อสรให้กับโณงพยาบาลทั้งดาต้า หุ่นยนต์ ซิมและอินเตอร์เน็ต 12 ล้านบาท

รวมถึงมีการประกาศนโยบายไม่เลิกจ้างพนักงาน ซึ่งปัจจุบันเครือซีพีมีพนักงานกว่า 400,000 คนทั่วโลก ซึ่งได้ทำการส่งออกสินค้าไปยังกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook