พ่อสุดทน! แฉ รพ.เพิ่งเสนอช่วย หลังเรื่องถึงผู้ว่าฯ ปมลูกปวดท้องหาหมอ แต่จบที่ป่วยติดเตียง

พ่อสุดทน! แฉ รพ.เพิ่งเสนอช่วย หลังเรื่องถึงผู้ว่าฯ ปมลูกปวดท้องหาหมอ แต่จบที่ป่วยติดเตียง

พ่อสุดทน! แฉ รพ.เพิ่งเสนอช่วย หลังเรื่องถึงผู้ว่าฯ ปมลูกปวดท้องหาหมอ แต่จบที่ป่วยติดเตียง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ่อของน้องรุ้ง ผู้ป่วยติดเตียงอายุ 18 ปี เผยกับ sanook.com ว่า โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ลูกสาวเคยไปรักษาเพราะมีอาการปวดท้อง แต่สุดท้ายต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงนั้น เพิ่งติดต่อเสนอความช่วยเหลือมายังครอบครัว หลังจากคำร้องเรียนของตนที่ให้ตรวจสอบโรงพยาบาลแห่งดังกล่าวไปถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อไม่นานมานี้

อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอดังกล่าวไม่ใช่การช่วยเหลือทางการเงินแก่ครอบครัว

เริ่มจากปวดท้องแต่กลายเป็นติดเตียง

พ่อของน้องรุ้งเผยจุดเริ่มต้นของเรื่องว่า ลูกสาวของตน ที่กำลังจะเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย รู้สึกปวดท้อง จึงไปโรงพยาบาล แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านและรักษาตัว อาการกลับไม่ดีขึ้น หลังจากนั้นจึงกลับไปอีกครั้ง และฉีดตัวยาบางอย่างเข้าสู่ร่างกาย จนทำให้ลูกสาวช็อกและกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงในสภาพเจ้าหญิงนิทรา

คุณพ่อรายนี้เล่าอีกว่า ระหว่างรักษาที่โรงพยาบาลแห่งดังกล่าว เจ้าหน้าที่การแพทย์คนหนึ่งพูดกับตนด้วยถ้อยคำที่บั่นทอนจิตใจว่า "จะรับลูกสาวให้ไปเสียชีวิตที่บ้านหรือไม่" แต่หลังจากนั้นโรงพยาบาลก็ปฏิเสธว่า ตน (พ่อ) เข้าใจผิดหรือได้ยินขณะเจ้าหน้าที่คุยกับญาติผู้ป่วยคนอื่นหรือไม่ ซึ่งตนยืนยันว่าเจ้าหน้าที่พูดกับตนจริง และมีพยานในเหตุการณ์ด้วย

ฟื้นปาฏิหาริย์หลังย้ายโรงพยาบาล

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นว่าอาการไม่ดีขึ้น จึงตัดสินใจย้ายลูกสาวมารักษายังโรงพยาบาลอีกแห่ง ที่ให้ความสนใจเคสนี้มาก เพราะมองว่าเป็นกรณีที่หายาก ซึ่งหลังจากย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ไม่นาน ลูกสาวก็ฟื้นจากการเป็นเจ้าหญิงนิทราและลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แต่ยังขาดความรู้สึกของร่างกายช่วงล่าง

พ่อของน้องรุ้งเผยว่า ระหว่างนั้นโรงพยาบาลแห่งเก่าไม่ติดต่อและไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ เลย ที่ขณะนั้นรักษาลูกสาวของตนโดยที่ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าลูกสาวของตนป่วยด้วยโรคอะไร

แม้ภายหลังโรงพยาบาลแห่งแรกชี้แจงว่าลูกสาวของตนอาจมีอาการแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) แต่แพทย์จากโรงพยาบาลอีกแห่งกลับเห็นแย้ง และมองว่าลูกสาวของตนไม่มีอาการที่เข้าข่ายโรคดังกล่าว

จำนำทรัพย์สินหมดตัวเพื่อลูกสาว

คุณพ่อรายนี้ บอกอีกว่า ขณะนี้อาการของลูกสาวดีขึ้น และมีโอกาสที่ร่างกายท่อนล่างจะกลับมามีความรู้สึกอีกครั้ง แต่ก็ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หลังจากนี้จะต้องไปกายภาพบำบัด เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองเร็วขึ้น

ถึงอย่างนั้นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ก็ทำให้ตนต้องนำทรัพย์สินที่มีอยู่ไปจำนำเพื่อนำเงินมารักษาลูกสาว ทั้งที่ค่าใช้จ่ายตรงนี้ไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรก

ลูกสาวจิตใจย่ำแย่

นอกจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับร่างกายแล้ว คุณพ่อยังเผยอีกว่า ลูกสาวของตนยังเผชิญกับความเสียหายทางจิตใจด้วย เพราะเมื่อตื่นขึ้นมา กลับพบว่าร่างกายของตนขยับไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ความฝันที่อยากจะเรียนต่อในมหาวิทยาลัย และใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นคนอื่นๆ ต้องพังทลายลง จนหลายครั้งคิดเลือกจบชีวิตของตัวเอง

จุดนี้ทำให้ตนและคนอื่นๆ ในครอบครัว ต้องให้กำลังใจลูกสาวมากๆ ทั้งยังกล่าวให้เห็นว่ายังมีความหวังที่ร่างกายจะกลับมาดีขึ้น แม้อาจจะไม่ 100% ก็ตาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook