ชาวเน็ตวิจารณ์แรง ริวโฮจอง ส.ส.หญิงวัย 28 ปี สวมเดรสแดงเขย่าสภาเกาหลีใต้

ชาวเน็ตวิจารณ์แรง ริวโฮจอง ส.ส.หญิงวัย 28 ปี สวมเดรสแดงเขย่าสภาเกาหลีใต้

ชาวเน็ตวิจารณ์แรง ริวโฮจอง ส.ส.หญิงวัย 28 ปี สวมเดรสแดงเขย่าสภาเกาหลีใต้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ส.ส.หญิงอายุน้อยสุดในเกาหลีใต้ ถูกชาวเน็ตวิจารณ์แรง หลังสวมเดรสสีแดงเข้าประชุมสภา แต่ ส.ส.หญิงร่วมพรรค-ต่างพรรค ช่วยแย้งว่า "ไม่มีกฎห้าม" ย้ำ เป็นสิทธิ-สะท้อนความหลากหลายของผู้แทน พร้อมระบุ ต้องฟังเสียงคนรุ่นใหม่

ริวโฮจอง ส.ส.หญิง วัย 28 ปี สังกัดพรรค Justice Party (JP) ฝ่ายค้านเกาหลีใต้ และเป็น ส.ส.อายุน้อยที่สุดในสภา ถูกผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในเกาหลีใต้วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากกรณีที่เธอใส่ชุดกระโปรงสั้นสีแดงเข้าร่วมการประชุมสภาเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมา

สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า ชุดสั้นสีแดงของริวโฮจองเป็นชนวนให้เกิดการถกเถียงเรื่องกฎระเบียบด้านการแต่งกายของ ส.ส.ในสภา สืบเนื่องจากกลุ่มผู้สนับสนุนพรรค Democratic Party (DP) พรรครัฐบาลในปัจจุบัน นำภาพของริวโฮจองไปเผยแพร่ในเฟซบุ๊กเพจของกลุ่ม และวิพากษ์วิจารณ์ว่าการสวมชุดดังกล่าวเป็นเรื่องไม่เหมาะสม

สำนักข่าวยอนฮัป รายงานข่าวชุดแดงจุดชนวนถกเถียงเรื่องกฎระเบียบในสภา

ภาพของริวโฮจองถูกนำไปเผยแพร่ต่อในสื่อสังคมออนไลน์อีกเป็นจำนวนมาก และผู้กล่าวโจมตีบางรายใช้ถ้อยคำที่เหยียดเพศ โดยระบุว่า ริวโฮจองแต่งกายเหมือนผู้หญิงที่ทำงานในร้านเหล้าและบางรายกล่าวหาว่าเธอต้องการเรียกร้องความสนใจ

ขณะที่ผู้วิพากษ์วิจารณ์บางรายเผยแพร่ภาพ ส.ส.หญิงของพรรครัฐบาลและพรรคอื่นๆ ที่มักสวมสูทกับกางเกงสแล็กไปลงพื้นที่และประชุมในสภา โดยแนะนำว่าริวโฮจองควรเรียนรู้จากผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์เหล่านี้

อย่างไรก็ตาม ส.ส.หญิงจำนวนมาก ทั้งที่สังกัดพรรคเดียวกับริวโฮจองและสังกัดพรรคอื่นๆ ต่างพร้อมใจกันออกมาปกป้องการสวมชุดแดงในครั้งนี้ โดยย้ำว่า ไม่มีกฎใดๆ ห้ามการสวมชุดกระโปรงในสภา ทั้งยังตอบโต้กระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องชุดแดงว่า สะท้อนความคิดยุคเก่าที่ยึดแนวคิดเรื่องชายเป็นใหญ่ในสังคม ซึ่งถึงเวลาที่ควรจะเปลี่ยนแปลง

"ขอย้ำว่านี่คือปี 2020 แล้ว"

สื่อต่างประเทศ The Guardian และ CNN รายงานประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับชุดแดงของริวโฮจอง โดยระบุว่า เป็นภาพสะท้อนว่าสังคมเกาหลีใต้ถูกแทรกซึมด้วยแนวคิดอำนาจนิยมที่ให้ความสำคัญกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ ส.ส.เกาหลีใต้ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย และ ส.ส.หญิงมีเพียง 57 คนซึ่งคิดเป็น 19% จากจำนวน ส.ส.ทั้งหมด 300 คนในสภาปัจจุบัน

ส่วนริวโฮจองเป็น ส.ส.ที่ได้รับตำแหน่งมาจากระบบสัดส่วน และมีอายุเพียง 28 ปี ทำให้เธอกลายเป็นเป้าโจมตีของประชากรข้างมากในสภาที่เต็มไปด้วยผู้ชาย

อย่างไรก็ตาม พรรคฝ่ายค้าน 'เจพี' ซึ่งริวโฮจองเป็นสมาชิก ออกแถลงการณ์ปกป้องเธอจากการโจมตีของผู้คนในโลกออนไลน์และ ส.ส.ฝ่ายอนุรักษนิยมในสภา โดยย้ำว่า ทางพรรคขอคัดค้านเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ตัดสินนักการเมืองหญิงว่าย่อหย่อนคุณสมบัติด้วยการประเมินจากภาพลักษณ์ภายนอกโดยไม่คำนึงถึงการปฏิบัติหน้าที่ในสภา และควรรับฟังเสียงของคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น

เนื้อหาในแถลงการณ์ระบุด้วยว่า ส.ส.หญิงจำนวนมากยังตกเป็นเป้าถกเถียงเพียงเพราะเรื่องสวมกางเกงหรือสวมเสื้อผ้าสีสันสดใส

"ทางพรรครู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่การตะโกนกล่าวหาผู้อื่นยังเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสภาระดับชาติแห่งนี้ และการสวมชุดกระโปรงกลายเป็นประเด็นที่นำไปสู่การถกเถียงใหญ่ จึงอยากจะขอย้ำอีกครั้งว่า ปีนี้เป็นปี 2020 แล้ว"

"ตัดสินกันที่การทำงาน ไม่ใช่เครื่องแต่งกาย"

ขณะเดียวกัน ริวโฮจอง ให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้ โดยระบุว่า ที่ผ่านมา ส.ส.ในสภาส่วนใหญ่ คือ ผู้ชายวัยกลางคนที่สวมชุดสูทสีเข้ม เธอจึงต้องการจะสลายภาพเดิมๆ เหล่านั้น เพราะ "อำนาจหน้าที่ของสภาไม่ได้สร้างขึ้นมาจากชุดสูท"

ทางด้าน Korea Joongang Daily รายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของริวโฮจองเพิ่มเติม ซึ่งระบุว่า เธอไม่เข้าใจว่าชุดของเธอกลายเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมได้อย่างไร และไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องอธิบายว่าเพราะเหตุใดถึงเลือกสวมชุดดังกล่าว

ริวโฮจองย้ำว่า เธอจะเลือกชุดอะไรก็ได้ที่ใส่แล้วทำงานได้ดี และสมาชิกสภาควรจะพุ่งเป้าไปที่การทำงานให้ลุล่วงแทนที่จะยึดติดกับเรื่องความเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ

ส่วน ส.ส.หญิง 2 คนของพรรคดีพี แกนนำรัฐบาล ได้แก่ โกมินจอง  และ ยูจองจู โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กสนับสนุนริวโฮจอง โดยรายหนึ่งบอกว่า ขอบคุณริวที่ทำลายความเคร่งขรึมของสภาที่เต็มไปด้วย ส.ส.ชายวัยกลางคน และอีกรายหนึ่งระบุว่า ริวรักษาคำมั่นสัญญากับกลุ่มเยาวชนที่เธอร่วมรับฟังความคิดเห็นในการประชุมก่อนหน้านี้ เพราะเธอบอกว่าจะใส่ชุดเดิมเข้าสภา เพื่อยืนยันว่าเธอเป็นตัวแทนและเป็นเสียงสะท้อนของคนรุ่นใหม่

ทั้งนี้ ริวโฮจองเคยถูกโจมตีมาแล้วครั้งหนึ่งจากผู้อยู่ในแวดวงเกมและกีฬาอีสปอร์ตเกาหลีใต้ โดยเฟซบุ๊กเพจ eSportsCircles รายงานเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ริวโฮจองถูกเปิดโปงว่าเคยใช้วิธีบูสต์แรงก์ ในเกม League of Legends เมื่อ 6 ปีที่แล้ว จนสามารถไต่จากระดับ Gold 5 ไปที่ระดับ Diamond 1

ทางเพจอธิบายด้วยว่า การบูสต์แรงก์ คือ การจ้างวานให้ผู้อื่นที่มีฝีมือเหนือกว่าช่วยเล่นเกมจนระดับยศในเกมสูงขึ้น ซึ่งถือว่าผิดกฎกติกาในเกม ทำให้มีผู้เรียกร้องให้ไต่สวนและระงับการเล่นเกมของริวโฮจอง เธอจึงได้ออกมาแถลงขอโทษอย่างเป็นทางการ โดยระบุว่าเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เคยทำผิดกฎและทำให้ภาพลักษณ์ของเกมเมอร์หญิงโดยรวมเสียหาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook