ส่งฝากขังศาลทหาร "ลูกสาวนายพล" ไล่ฟันเพื่อนบ้านรุ่นปู่ อ้างแค้นมานานแล้ว

ส่งฝากขังศาลทหาร "ลูกสาวนายพล" ไล่ฟันเพื่อนบ้านรุ่นปู่ อ้างแค้นมานานแล้ว

ส่งฝากขังศาลทหาร "ลูกสาวนายพล" ไล่ฟันเพื่อนบ้านรุ่นปู่ อ้างแค้นมานานแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 ญาติเหยื่อ "ลูกสาวนายพล" ไล่ฟันเจ็บสาหัส เผยไม่เคยมีใครติดต่อเยียวยา หวั่นได้ประกันตัวออกมา

(10 ส.ค.63) เวลา 10.00 น. พ.ต.ต.สมศักดิ์ ปวงสุข สารวัตรสอบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กรณีทหารยศร้อยเอกหญิง ก่อเหตุใช้อาวุธมีดไล่ฟันเพื่อนบ้านซึ่งเป็นชายวัยชราและเป็นปราชญ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการเพาะเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชัง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่งตามร่างกาย ทั้งท่อนแขนซ้าย หลังมือซ้าย โคนข้อมือขวา นิ้วชี้มือขวา ริมฝีปากซ้ายยาวจรดปลายคาง จนแพทย์ต้องเย็บบาดแผลมากถึงกว่า 60 เข็ม

เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.46 ของวันที่ 8 ส.ค.63 ที่ผ่านมา ได้นำตัวร้อยเอกหญิงพรรษมนตร์ อายุ 44 ปี เดินทางไปขออำนาจศาลทหารฝากขังยังที่มณฑลทหารบกที่ 12 ค่ายจักรพงษ์ ใน อ.เมือง จ.ปราจีนบุรีแล้ว หลังจากถูกทางฝ่ายของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการควบคุมตัวไว้ได้ในวันเกิดเหตุจนครบ 48 ชม. ตามกฎหมายแล้ว

โดย พ.ต.ต.สมศักดิ์ กล่าวเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ได้ประสานงานไปยังทางฝ่ายทหารแล้วตั้งแต่ในวันเกิดเหตุ เพื่อให้ส่งนายทหารพระธรรมนูญมาร่วมสอบปากคำผู้ต้องหา แต่ปรากฏว่ายังไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารเดินทางมาร่วมในการสอบปากคำแต่อย่างใด จึงได้ทำการสอบสวนปากคำไปตามอำนาจหน้าที่เพียงฝ่ายเดียวก่อนจนแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในวันนี้จึงได้เตรียมนำตัวผู้ต้องหาไปส่งฝากขังยังที่ศาลทหารใน จ.ปราจีนบุรี โดยที่ไม่มีฝ่ายของทางเจ้าหน้าที่ทหารเดินทางมารับตัวแต่อย่างใด

หลังการสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหาต่อร้อยเอกหญิงพรรษมนตร์ ทรัพย์สุขศานต์ ว่า "ทำร้ายร่างกายผู้อื่นด้วยอาวุธ จนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส" รวม 1 ข้อหา พ.ต.ต.สมศักดิ์ กล่าว

ด้าน นายเกรียงไกร อายุ 46 ปี บุตรเขยของนายสุทิน อายุ 83 ปี ผู้ที่ถูกร้อยเอกหญิงพรรษมนตร์ ทำร้าย ซึ่งเดินทางมาติดตามสังเกตการณ์อยู่ภายในบริเวณโรงพัก สภ.บางปะกง กล่าวว่า ขณะนี้ทางญาติยังคงหวั่นเกรงว่าผู้ต้องหาจะได้รับการประกันตัวในชั้นศาลทหาร และอาจถูกปล่อยตัวให้ออกมาก่อเหตุซ้ำ หรืออาละวาดทำร้ายผู้คนและเพื่อนใกล้เคียงได้อีก จึงยังไม่สบายใจต่อความปลอดภัยในชีวิตและความเป็นอยู่

ขณะเดียวกันทางญาติของผู้ก่อเหตุนั้น ยังไม่เคยมีการประสานมาเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือช่วยเหลือทางด้านค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และยังไม่เคยเดินทางไปเยี่ยมนายสุทิน ผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ทั้งยังทราบอีกด้วยว่า เมื่อวานนี้ 9 ส.ค.63 เวลาประมาณ 11.00 น. ทางญาติของผู้ก่อเหตุได้เข้ามาติดต่อกับทางพนักงานสอบสวน เพื่อที่จะยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว ขอให้ปล่อยตัวชั่วคราวมาครั้งหนึ่งแล้ว

แต่ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกหลักประกัน ที่มีมูลค่าสูงกว่า 8 แสนบาท จึงทำให้หลักทรัพย์ที่ทางญาติเตรียมมามีมูลค่าไม่เพียงพอ ก่อนที่จะพากันกลับไป ส่วนอาการของ นายสุทิน ขณะนี้ยังทรงตัว และอยู่ในความดูแลของแพทย์

ที่ผ่านมายังไม่เคยพบว่าพ่อตาของตนไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทอะไรกับทางฝ่ายของผู้ก่อเหตุมาก่อนเลย และในยามที่เขาไม่มีเงินใช้ยังได้เคยมาขอเงิน หรือมาหยิบยืมจากคุณพ่อไป นายสุทิน ซึ่งปกติเป็นผู้ที่มีจิตใจดีก็ยังให้เงินแก่เขาไปอีกด้วย เพราะมองเห็นว่าอย่างไรก็ยังเป็นหลาน จึงไม่ทราบว่ามีมูลเหตุอะไรที่แน่ชัด หรือเกิดจากความเครียดอะไรของผู้ก่อเหตุหรือไม่

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวยังได้รับการเปิดเผยเพิ่มเติมจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะกง บางนายอีกด้วยว่า ทางร้อยเอกหญิงรายนี้สามารถให้การต่อทางพนักงานสอบสวนได้ตามปกติ เหมือนคนปกติโดยทั่วไป และพูดจารู้เรื่องดี ในขณะที่ถูกนำตัวออกมาสอบปากคำครั้งล่าสุด และยินยอมปริปากให้ปากคำต่อหน้าพนักงานสอบสวน โดยระบุว่า สาเหตุที่ได้กระทำลงไปนั้น เนื่องจากเกิดจากความแค้นที่สะสมมานานหลายปี เหตุจากเคยมีเรื่องทะเลาะกันกับทางฝ่ายของคู่กรณีมาก่อน ตามการให้ปากคำของผู้ก่อเหตุ

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook