ไฟไหม้บ้านเรือนซอยตากสิน 23 เสียหายวอด 76 หลังคาเรือน เหตุการณ์ซ้ำรอยปี 61

ไฟไหม้บ้านเรือนซอยตากสิน 23 เสียหายวอด 76 หลังคาเรือน เหตุการณ์ซ้ำรอยปี 61

ไฟไหม้บ้านเรือนซอยตากสิน 23 เสียหายวอด 76 หลังคาเรือน เหตุการณ์ซ้ำรอยปี 61
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กทม.ตั้งโต๊ะเยียวยา ไฟไหม้บ้านซอยตากสิน 23 ได้รับความเสียหายกว่า 76 หลังคาเรือน ซ้ำรอยปี 61

คืนวานนี้ (12 ส.ค.63) เมื่อเวลา 19.52 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 23 มีการระดมกำลัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยจากพื้นที่ต่างๆ ไปที่เกิดเหตุ โดยที่เกิดเหตุเป็นลักษณะตึกแถว 2 ชั้น เป็นชุมชนในซอยย่อยห่างจากปากซอยประมาณ 200 เมตร ในชุมชนดังกล่าว แบ่งออกเป็น 4 ย่อย มีประชาชนอาศัยประมาณ 80 หลังคาเรือน มีบ้านเรือนถูกไฟไหม้ 76 หลังคาเรือน และหลายหลังมีการทรุดตัว

โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาควบคุมเพลิงไว้ได้เกือบ 2 ชั่วโมง จนเพลิงสงบเมื่อเวลา ประมาณ 22.00 น. เนื่องจากพื้นที่เป็นซอยแคบรถเข้าได้ทางเดียว ขณะเกิดเหตุประชาชนในซอย ต่างหอบข้าวหอบของออกจากพื้นที่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย รวมทั้งมีการเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุผู้ป่วยติดเตียงออกจากพื้นที่อย่างโกลาหล มีการจัดที่พักชั่วคราวและตั้งกองอำนวยการดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่วัดสันติธรรมาราม เบื้องต้นพบว่าบ้านต้นเพลิง เป็นบ้านในซอยที่ 2

นางวาสนา อุตภิระ วัย 50 ปี อาชีพรับจ้าง เจ้าของบ้านต้นเพลิง เล่าว่า ขณะเกิดเหตุอยู่กับลูกสาวชั้นล่าง และได้ยินเสียงดังเหมือนของหล่นชั้นบน จึงขึ้นไปดูเห็นเพลิงลุกไหม้บริเวณฝาผนัง ห้องนอนและฝ้าเพดาน ซึ่งบ้านเป็นหลังคาสังกะสี และมีเสียงคล้ายระเบิดตามมา จึงตะโกนให้คนมาช่วยและรีบ หิ้วน้ำมาสาดดับไฟ 2-3 ถังและตามพี่ชายมาช่วย แต่เพลิงลุกลามไวมาก เอาไม่อยู่เพราะไฟลามกินฟูกที่นอน และลามลงมาถึงชั้นล่าง

จนต้องตัดใจออกมาช่วยขนของบ้านพี่ชายที่อยู่ข้างๆ โดนที่ไม่ได้หยิบอะไรติดตัวออกมาเลยเพราะไม่สามารถเข้ากลับไปได้ และขณะเกิดเหตุได้รับบาดเจ็บไฟไหม้แขนพองทั้ง 2 ข้าง และลื่นตกบันได ยืนยันว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากความประมาท แต่ยอมรับว่าบนบ้านมีตู้เย็น และถ้าไหม้จากเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่บ้านก็มีเครื่องเซฟตี้คัต ตัดไฟอยู่แล้ว จึงไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด สำหรับ บ้านหลังนี้อาศัยด้วยกัน 5 คน ได้แก่ ตัวเอง สามี และลูก 2 คน และหลานสาว

ขณะที่ น.ส.เอมอร มั่นคงพูลทวี ผู้ประสบเหตุ เล่าทั้งน้ำตาว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากเคยไหม้มาแล้วเมื่อปี 2561 ซึ่งบ้านตนก็โดนไฟไหม้ และครั้งนี้ย้ายออกมา ถัดจากซอยต้นเพลิงอีก 1 ซอย แต่หลังบ้านติดกัน ก็ยังมาโดนเพลิงไหม้อีกซ้ำ 2 และเพิ่งจะฟื้นตัวได้ ขณะเกิดเหตุมีการตะโกนในชุมนุมว่าไฟไหม้ จึงวิ่งออกมาดูเห็นไฟกำลังลุกไหม้บ้านประชาชนที่อยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งไฟโหมลามมาอย่างหนัก ทำให้ลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงรีบขนของออกมาได้ไม่กี่ชิ้น แต่สุดท้ายของก็หายไปหมดมีคนมาเอาของไป ซึ่งภายในบ้านอยู่ด้วยกัน 7 คน ขณะนี้ทุกคนปลอดภัย

ขณะที่ที่ศาลาปฏิบัติธรรมของวัดสันติธรรมาราม ซึ่งเปิดศูนย์อพยพชั่วคราว เป็นคืนแรก เพื่อรอหน่วยงานภาครัฐเข้าช่วยเหลือในเช้าวันนี้ โดยทางวัดยินดีที่จะเปิดศูนย์พักพิงให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน จนกว่าทุกคนจะมีที่พักอาศัยใหม่

ทางด้าน ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เช้านี้ เขตธนบุรีจะตั้งโต๊ะรับแจ้งความเสียหายของผู้ประสบภัย และได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำเหร่ มารับแจ้งความด้วย พร้อมทั้ง กทม. โดยสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะให้เงินช่วยเหลือเบื้องต้นครอบครัวละ 5,000 บาท พร้อมถุงยังชีพ และต่อไป กทม. จะประเมินความเสียหายในแต่ละหลังเพื่อมอบเงินช่วยเหลือตามความเป็นจริง โดยไหม้ทั้งหลังจะได้รับเงินช่วยเหลือ 33,000 บาท  ผู้ประสบภัยฯ หากไม่มีทะเบียนบ้าน หรือบัตรประชาชน เอกสารใดๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะแจ้งรับเงินช่วยเหลือไม่ได้ เขต ณ จุดรับแจ้ง จะมีเจ้าหน้าอำนวยความสะดวกให้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook