สปสช.ย้ำ คลินิกบัตรทองถูกยกเลิก ไม่ต้องย้ายสิทธิ รักษาได้ทุกที่

สปสช.ย้ำ คลินิกบัตรทองถูกยกเลิก ไม่ต้องย้ายสิทธิ รักษาได้ทุกที่

สปสช.ย้ำ คลินิกบัตรทองถูกยกเลิก ไม่ต้องย้ายสิทธิ รักษาได้ทุกที่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สปสช.ย้ำประชาชนที่คลินิกถูกยกเลิกสัญญาบัตรทอง ไม่ต้องมาย้ายสิทธิที่สนง.เขต เพราะเข้ารักษาได้ทุกที่ของหน่วยบริการในเครือข่าย

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่าประชาชน อย่าเพิ่งตื่นตระหนกกรณีการยกเลิกสัญญาคลินิกชุมชนอบอุ่นใน กทม. สิทธิของประชาชนไม่ได้ถูกยกเลิกตามไปด้วยและ สปสช. ได้เตรียมมาตรการรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องรีบไปที่สำนักงานเขตเพื่อทำเรื่องขอย้ายหน่วยบริการประจำแต่อย่างใด

การยกเลิกสัญญากับหน่วยบริการที่ทุจริตเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพนั้น ทำให้มีประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 1 ล้านคน ในส่วนของ 18 คลินิกที่ถูกยกเลิกสัญญาในล็อตแรก มีผู้ได้รับผลกระทบ 2 แสนคน ในส่วนนี้ สปสช.ได้จัดระบบรองรับเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เพิ่งยกเลิกสัญญาในล็อตที่ 2 จำนวน 64 แห่งมีผู้ได้รับผลกระทบประมาณ 8 แสนคน

อย่างไรก็ดี ในจำนวนนี้ มีผู้ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลและผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องได้รับการดูแลและรับยาต่อเนื่องประมาณ 30% ส่วนอีก 70% คือผู้มีร่างกายแข็งแรง ไม่มีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในตอนนี้

ในส่วนของผู้ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล เช่น ผู้ป่วยนัดผ่าตัด ผู้ป่วยล้างไต/ฟอกไต หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยกลุ่มนี้ สปสช.มีฐานข้อมูลที่ชัดเจนและได้มีการประสานไปยังผู้ป่วยโดยตรงแล้ว เพื่อให้เข้ารับการรักษาต่อเนื่อง แต่หากเกิดปัญหาขัดข้อง ไม่ได้รับการติดต่อจาก สปสช. ก็สามารถส่งข้อความผ่าน Facebook สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ Facebook รู้จริงสิทธิบัตรทอง สปสช. กทม. เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้ติดต่อกลับโดยเร็ว

ส่วนกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องรับการดูแลต่อเนื่อง อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง สปสช.ร่วมมือกับสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ในระยะสั้นก่อนระหว่างรอหน่วยบริการใหม่ เบื้องต้นผู้ป่วยเรื้อรังที่ได้รับผลกระทบสามารถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 69 แห่งโดยไม่จำเป็นต้องขอใบส่งตัวหรือกลับไปขอประวัติการรักษาจากหน่วยบริการเดิม เพราะบุคลากรทางการแพทย์ของศูนย์บริการสาธารณสุขสามารถเรียกดูข้อมูลประวัติการรักษาจากฐานข้อมูลของ สปสช. ได้อยู่แล้ว

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของกลุ่มที่เหลืออีก 70% ที่สุขภาพยังแข็งแรงดี เมื่อหน่วยบริการประจำเดิมถูกยกเลิกสัญญาไปแล้ว สถานะของคนกลุ่มนี้จะกลายเป็นสิทธิว่าง คำว่าสิทธิว่างนี้ ไม่ได้มีความหมายในเชิงลบ แต่หมายถึงเป็นสถานะพิเศษ หรือสิทธิพิเศษที่เป็นเหมือนวีซ่าที่สามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการในเครือข่าย สปสช. ที่ใดก็ได้ ไม่จำกัดจำนวนครั้งและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาแต่อย่างใด ส่วนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหน่วยบริการจะเรียกเก็บค่าบริการมาที่ สปสช. เอง

"จะเห็นได้ว่าในกลุ่มผู้ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาหรือดูแลต่อเนื่อง เราได้จัดมาตรการรองรับไว้แล้ว ส่วนคนที่ร่างกายยังแข็งแรง แต่อาจกังวลว่าถ้าเจ็บป่วยขึ้นมาหรือป่วยทั่วๆไป เช่น เป็นไข้ หวัด ปวดหัวตัวร้อนจะไปรักษาตัวที่ไหน ขอย้ำว่าท่านสามารถไปรับบริการที่หน่วยบริการในเครือข่าย สปสช.ได้ทุกที่ ดังนั้นไม่มีความจำเป็นต้องรีบมาที่สำนักงานเขตเพื่อลงทะเบียนขอย้ายหน่วยบริการประจำในช่วงนี้แต่อย่างใด จนกว่า สปสช.จะประกาศอย่างเป็นทางการ" นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นสิทธิว่างที่ไม่แน่ใจว่าหน่วยบริการที่ต้องการเข้าไปรับบริการอยู่ในเครือข่ายของ สปสช. หรือไม่ ค้นหาข้อมูลสถานพยาบาลจาก Link https://reghosp.nhso.go.th/hospital_search/ โดยพิมพ์ชื่อสถานพยาบาลได้เลย หรือติดต่อสอบถามผ่านช่องทางสายด่วน สปสช. 1330 หรือไลน์ @ucbkkและ @nhso

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook