แม่ทันตแพทย์หนุ่ม สะเทือนใจ เห็นลูกแอบร้องไห้เช้าเย็น สูญเสียเมียพร้อมลูกในท้อง

แม่ทันตแพทย์หนุ่ม สะเทือนใจ เห็นลูกแอบร้องไห้เช้าเย็น สูญเสียเมียพร้อมลูกในท้อง

แม่ทันตแพทย์หนุ่ม สะเทือนใจ เห็นลูกแอบร้องไห้เช้าเย็น สูญเสียเมียพร้อมลูกในท้อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ่อแม่ทันตแพทย์หนุ่มที่สูญเสียภรรยาและลูกในท้อง เชื่อหากตรวจก่อนและพบว่ามีการตั้งครรภ์ก่อน CT สแกน จะไม่เกิดเรื่องสลดใดๆ เกิดขึ้นกับครอบครัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 ก.ย.) คุณพ่อและคุณแม่ของทันตแพทย์ ธีระวุฑฒ์ ที่สูญเสียภรรยา เภสัชกรหญิงปวีร์ธิดา หรือ กุ๊ฟกิ๊ฟ ขณะเข้าทำการรักษาอาการปวดท้องที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ก่อนที่จะเกิดอาการแพ้ยาจากสารที่อยู่ในส่วนประกอบของสารทึบแสง ที่ใช้ฉีดสีเพื่อทำซีทีสแกนในช่วงท้องอย่างรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตในเวลาต่อมาตามที่เป็นข่าว

ส่วนคุณพ่อของทันตแพทย์ ธีระวุฑฒ์ บอกว่า ตามอาการแล้วทางครอบครัวเชื่อว่าน่าจะมาจากอาการแพ้ท้อง ซึ่งคนที่เคยมีประสบการณ์ก็จะทราบทันที แต่ไม่เข้าใจว่าขั้นตอนทางการแพทย์ทำไมไม่มีการตรวจภาวะการตั้งก่อนสำหรับหญิงสาวที่มีครอบครัว หากมีการตรวจครรภ์และทราบว่ามีภาวะตั้งท้องแล้วเรื่องต่างก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ขณะที่ คุณแม่ของทันตแพทย์ ธีระวุฑฒ์ เล่าว่า ช่วงที่ทราบข่าวว่าน้องกุ๊ฟกิ๊ฟ จะเข้าไปรับการตรวจรักษาก็ยังได้โทรไปคุยกับลูกสะใภ้ น้ำเสียงยังร่าเริงแจ่มใสดีตามปกติ แต่พอผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงถึงกับต้องสูญเสียทั้งลูกสะใภ้และหลานในท้อง

โดยเฉพาะตอนที่ตนเองมาดูอาการในช่วงที่ย้ายขึ้นมาอยู่ในห้องไอซียู ก็ยังพบว่ามีแพทย์พยาบาลยังคุยเล่นด้วยกันเองอยู่หน้าห้องทั้งๆ ที่ช่วงนั้นเป็นช่วงวิกฤติของคนไข้ที่กำลังอยู่ในช่วงที่ต้องทำซีพีอาร์ ยื้อชีวิต แต่กลับมีการยืนพูดเล่นหยอกล้อพูดคุยกันต่อหน้าญาติผู้ป่วย

และตอนนี้ลูกชายตนเองเหมือนคนตายทั้งเป็น คุณแม่ยังแอบเห็นลูกชายแอบร้องให้ทั้งเช้าทั้งเย็น แม้แต่เวลาทำงานเมื่อคิดถึงภรรยาก็ถึงกับต้องหยุดงานไปแบร้องให้ตัวสั่น ครอบครัวทั้งสองยังวางแผนที่จะเริ่มสร้างหลักปักฐาน และกำลังไปด้วยดีรวมทั้งยังวางแผนที่จะมีลูกด้วย แต่ก็ต้องมาสูญเสียไปทั้งภรรยาและลูก ทำให้ต้องดูแลลูกชายที่ตอนนี้ถือว่าเป็นคนที่เจ็บปวดหัวใจมากที่สุด

ซึ่งกุ๊ฟกิ๊ฟเป็นลูกสะใภ้ที่ดี กำลังอยู่ในช่วงก่อร่างสร้างตัว และอยากจะมีบุตร ซึ่งลูกสะใภ้คนนี้เป็นคนดีมาก มีความกตัญญูทั้งเป็นเสาหลักดูแลพ่อแม่ตัวเอง และยังดูแลทางครอบครัวของสามีได้เป็นอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง

ที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมครั้งนี้ ก็อยากให้โรงพยาบาลเองแสดงความรับผิดชอบสิ่งที่ทำผิดพลาดไป แม้แต่คำขอโทษยังไม่มีมาจากทางฝั่งของโรงพยาบาล ส่วนคนที่เหลืออย่างพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต ที่ลูกสะใภ้เป็นเสาหลักเลี้ยงดูอยู่ใครจะรับผิดชอบต่อไป สุดท้ายก็รู้สึกเสียใจไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องชุ่ยๆ จากโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียง ที่ครอบครัวตนเองไว้วางใจ แต่สุดท้ายก็ไม่มีความรับผิดชอบเช่นนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook