"อิน บูโดกัน" เปลี่ยนจากสาวเท่ กลายเป็นสาวเอวเอส อยากมีทายาท

"อิน บูโดกัน" เปลี่ยนจากสาวเท่ กลายเป็นสาวเอวเอส อยากมีทายาท

"อิน บูโดกัน" เปลี่ยนจากสาวเท่ กลายเป็นสาวเอวเอส อยากมีทายาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อิน บูโดกัน หรือ อินทิรา ยืนยง นักร้องดัง ที่ได้เปิดความในใจผ่านรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ที่ยกร้านออนไลน์ กูอินฟินทุกเมนู ของตัวเองมาให้ชิม พร้อมให้สัมภาษณ์ว่าที่ตั้งใจลดน้ำหนักเพราะอยากท้อง หลังน้ำหนักพุ่งไปถึง 74 กิโล จนต้องหันมาออกกำลังกายควบคู่กับการคุมอาหาร ผลลัพธ์ทำให้น้ำหนักลดลงไป 10 กิโล ภายในระยะเวลา 2 เดือน เปลี่ยนจากลุคเดิมที่เคยเป็นสาวเท่ แต่งตัวทะมัดทะแมง มาเป็นแนวเดรสรัดรูปโชว์สัดส่วนเอวเอสยั่วๆ และยังเผยเคยบอกสามีให้ไปซื้อกินได้แต่ห้ามเลี้ยงเป็นตัวเป็นตน …

ทำไมผอมลงเรื่อยๆ

อิน บูโดกัน : "ช่วงนี้น่าจะผอมที่สุดแล้ว เคยหนักสุดคือ 85 ตอนนี้ 60 - 65 ค่ะ แต่เคยผอมมากสุด 52 ค่ะ ทานให้ถูกหลัก ออกกำลังกาย แต่เราไม่ได้อยากให้ผอมมากแต่เพียงอยากให้มีซิกแพคมีกล้ามเนื้อค่ะ"

แล้วจะเปลี่ยนการแต่งตัวไหม กระโปรงสั้น ส้นเข็ม เปิดไหล่ เกาะอก

อิน บูโดกัน : "กระโปรงสั้นอาจจะมีบ้าง แต่ส้นเข็ม เปิดไหล่ ยอมค่ะ เพราะมันไม่ใช่ตัวเรา"

ทำไมก่อนหน้านี้ที่ปล่อยตัวเองน้ำหนักมากๆแล้วไม่คิดจะลด แล้วอะไรคือแรงบันดาลใจในการลด

อิน บูโดกัน : "เพราะก่อนหน้านี้เราไม่รู้ตัวเลยเวลาน้ำหนักเราขึ้น แล้วคือ พอเรากลับมาเห็นภาพเก่าตัวเองแล้วเรารู้สึกว่าเราไปถึงตรงนั้นได้ยังไง แต่ตอนนั้นเราชินตัวเองด้วยเพราะเราสะสมไขมันมาเรื่อยๆปีละนิดหน่อย จุดเปลี่ยนที่ทำให้เราลดน้ำหนักคือ อยากมีลูก ส่วนสามีเขาไม่เคยผลักดันให้เราลดน้ำหนักเลยเพราะเขารักเราที่เราเป็นเราแบบนี้ เพราะตอนที่เขาเจอเราเราก็น้ำหนักเยอะอยู่แล้ว ตอนนั้นประมาณ 80 ค่ะ แต่เขาก็ยังรักเรา"

เขาเคยขอให้เราเปลี่ยนอะไรบ้าง

อิน บูโดกัน : "สามีเราฉลาดเขาจะไม่เคยพูดอะไรให้เราเปลี่ยนหรืออะไร แต่ช่วงนี้ที่เราผอมลง เขาจะพาเราไปซื้อเสื้อผ้า แบบมีเปิดไหล่หน่อย เสื้อผ้าแบบรัดรูป เป็นกระโปรง เพื่อบังคับให้เราเดินเรียบร้อยขึ้นตามเสื้อผ้าที่เราใส่ ให้เรานั่งระวังมากขึ้นถ้าเราใส่กระโปรง เวลาเดิน หรือนั่งค่ะ"

แต่มีสิ่งหนึ่งที่หลายคนยังงงคือ อิน ชอบผู้ชาย แล้วอีกอย่างที่ทุกคนอยากรู้ยังชอบผู้หญิงอยู่ไหม

อิน บูโดกัน : "ชอบค่ะ ซึ่งสามีก็รู้ว่าเราชอบผู้หญิงอยู่ค่ะ เขาไม่ได้ว่าอะไรเขาก็จะมองๆ แต่ไม่รู้ว่าหึงบ้างไหม แต่เราคิดว่าน่าจะมีบ้าง"

แต่เมื่อแต่งงานแล้ว อิน ก็เปลี่ยนหลายอย่าง

อิน บูโดกัน : "เราก็เปลี่ยนเท่าที่เราเปลี่ยนให้คนที่เรารักได้ สิ่งที่เปลี่ยนมากที่สุดน่าจะเป็นนิสัยส่วนตัว เช่น ความเป็นตัวตนของเราเพราะเราเป็นคนปากร้าย ใจร้อนขี้โวยวาย พูดคำหยาบ แต่เขาไม่อยากให้ อิน พูดคำหยาบกับใครเลย แม้แต่เพื่อนสนิท อย่างเพื่อนสนิทเป็นผู้จัดการเราตอนนี้ จะพูดคำว่า เมิง หรืออะไรแบบนี้ จะพูดได้แค่กับผู้จัดการคนนี้ คนเดียว ส่วนคนอื่นห้ามพูด ต่อให้สนิทกันขนาดไหนก็ห้าม เขาขอเราเพราะเขารู้สึกว่ามันดูไม่ดีมากเลย ถามว่ามันยากสำหรับเราไหมที่จะห้ามพูดคำนี้ ยากมากเลยแต่เราก็ต้องทำ แบบบางทีเผลอพูดไปบ้าง แต่สามีเขาก็เข้าใจเรามันก็ต้องมีหลุดบ้างแต่ที่เขาเห็นคือความพยายามในการกระทำของเรา ส่วนคนรอบข้างเราเข้าก็เข้าใจในสิ่งที่เราทำ ตอนนี้ก็พูดเพราะขึ้นมาบ้าง" 

เวลาเราพูดกับแฟนพูดยังไง

อิน บูโดกัน : "เรียกแทนตัวเองว่า หนู ป๊ะป๋า ทานข้าวค่ะ"

แต่เห็นว่าที่มัดใจสามีได้เป็นวลีทองได้คือ ซื้อกินได้นะ แต่ห้ามเลี้ยงดู

อิน บูโดกัน : "ใช่ค่ะ ใครจะยอม คือ ผู้ชายเวลาแต่งงานแล้วเรารู้ว่าความต้องการของเขาไม่เหมือนกับผู้หญิง เพราะผู้หญิงพักๆก็หมดล่ะ"

ทำไมอยู่ดีๆถึงเริ่มต้นพูดประโยคนี้ออกมา

อิน บูโดกัน : "เหมือนเราอยู่ด้วยกันตอนนั้นแล้ว เราก็พูดกับเขาว่า ป๊า ถ้ามีความต้องการก็ไปซื้อกินเลยนะ ไปเที่ยวเลยนะ แต่ห้ามเลี้ยงดูเด็ดขาดถ้าเอาเงินที่เราทำมาหากินแล้วไปเลี้ยงดูนะมีเรื่อง เขาไม่ชอบเห็นหนูเป็นนางมาร ไม่ชอบเป็นนางยักษ์ เพราะเขาเคยเห็นแล้วเราไม่ฟังอะไรเลยแล้วเขาก็ทนไม่ได้ เลยเป็นข้อตกลงของเราทั้งคู่ แต่เขาก็ไม่เคยไปเที่ยวแบบนั้นนะคะ เพราะเขาเคยพูดกับเพื่อนว่าเราให้เขาไปเที่ยว แต่ห้ามเลี้ยงดู ใครจะไปเกรงใจเขา"

ที่บอกไว้ตอนแรกว่าอยากมีลูก ตั้งใจจะมีเมื่อไหร่

อิน บูโดกัน : "ตั้งใจไว้ว่าจะมีมา 4 ปีแล้วค่ะ แต่ตอนนี้คิดว่าไม่มีล่ะ พอพูดว่าไม่เอาเดี๋ยวเขาก็มา  เราก็ไปตรวจไปหาหมอมาเรียบร้อยแล้ว แต่ด้วยอายุของเราและเขาด้วย แต่ก็ถอนใจกันล่ะค่ะ แต่เราก็ยังปล่อยไปตามธรรมชาตินะคะ"

เคยทะเลาะกันไหม

อิน บูโดกัน : "2 ปี หลังมานี่ไม่เคยทะเลาะกันเลยสักวัน เพราะเขาพูดว่าเขาไม่ชอบมีเรื่องไม่ชอบทะเลาะ เพราะเขาพูดว่า เมื่อไหร่ที่เราสองคนเดินออกจากบ้านไปทำงานแล้วไม่รู้ว่าเราจะกลับมาเจอกันไหม อย่าทะเลาะกันเลยมันไม่มีอะไรดีเลย"

แล้วเรายังจะได้เห็น อิน ร้องเพลงอยู่หรือเปล่า

อิน บูโดกัน : "ยังทำอยู่เหมือนเดิมค่ะ ร้องเพลง สอนร้องเพลง เล่นคอนเสิร์ต ทำอาหารลงในเพจ ฝากผลงานและอาหารด้วยนะคะ"

สามารถรับชมรายการ ต้มยำอมรินทร์ ผลิตโดย CHANGE2561 ย้อนหลังได้ทาง ยูทูป

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ "อิน บูโดกัน" เปลี่ยนจากสาวเท่ กลายเป็นสาวเอวเอส อยากมีทายาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook