ผู้ต้องหาหนีศาลหายไป 2 วัน ไม่มีข้าวกิน-หิวทนไม่ไหว ล่าสุดขอมอบตัวแล้ว

ผู้ต้องหาควิ่งหนีออกจากศาลหนองคาย หลบหนีไป 2 วัน ไม่มีข้าวกิน น้องสาวกล่อมให้กลับมามอบตัว โดนข้อหาเพิ่ม

จากกรณีที่ นายศรชัย อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์วิ่งหลบหนีออกจากศาลขณะดำเนินการฝากขังที่ศาลจังหวัดหนองคาย เหตุเกิดเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 26 ต.ค.63 หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ออกติดตาม โดยมุ่งไปที่ชุมชนดอนมน ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ซึ่งเป็นบ้านของผู้ต้องหา คาดว่าจะหลบหนีอยู่ในละแวกนั้นแต่ก็ยังไม่พบตัว

ความคืบหน้าในคดีนี้ เมื่อเวลา 11.30 น. (28 ต.ค. 63) พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย ขณะกำลังประชุมวางแผนติดตามตัวนายศรชัย กับตำรวจชุดสืบสวนอยู่ ได้มี นางวงศ์วิไล อายุ 26 ปี น้องสาวของนายศรชัย ผู้ต้องหา โทรศัพท์แจ้งตำรวจว่าให้มารับตัวนายศรชัยซึ่งขณะนี้อยู่ที่บ้านพักในชุมชนดอนมน เขตเทศบาลเมืองหนองคาย กลับไปดำเนินคดี จากนั้นตำรวจจึงไปควบคุมตัวมา โดยพบว่านายศรชัย มีท่าทีอิดโรย เหนื่อยล้า

พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย และ พ.ต.ท.ธรณินทร์ ศรีทอง รองผกก.(ป.) ได้ร่วมกันสอบสวน นายศรชัย ทราบว่า หลังถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์แล้วตำรวจคุมตัวไปยังศาลจังหวัดหนองคาย ขณะนั้นคิดเพียงอย่างเดียวว่าต้องหนี ไม่อยากติดคุก จึงวิ่งออกจากศาลเข้าไปในซอยข้างเรือนจำจังหวัดหนองคาย ระหว่างนั้นมีคนรู้จักขี่รถผ่านมา จึงขอให้เขาไปส่งใกล้บ้าน ก่อนจะเดินเข้าไปหยิบเอาเสื้อผ้าและรองเท้า จังหวะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไล่ติดตามไป

ตนเห็นท่าไม่ดี จึงรีบหนีโดยกระโดดข้ามรั้วหลังบ้านเข้าไปในป่า  หลบซ่อนตัวในพงหญ้ารก และซ่อนตัวเงียบ จนกลางดึก พอตำรวจกลับจึงออกจากพงหญ้า เดินเข้ามาในบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะเดินออกไปตามถนน หาที่หลบนอนในป่าของอีกหมู่บ้านหนึ่ง จนวันรุ่งขึ้น ตนได้ขอขึ้นรถตู้โดยสาร เดินทางไปยัง จ.อุดรธานี พอไปถึงก็ไม่มีข้าวกิน ไม่มีที่นอน ต้องไปนอนข้างป้อมยามตำรวจแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี ผ่านไปอีกวันตนหิวข้าวทนไม่ไหว จึงเดินไปเรื่อยๆ ขอเงินแม่ค้า ได้มา 100 บาท ตัดสินใจขึ้นรถตู้กลับมาบ้าน และได้พบกับน้องสาว ที่รออยู่ที่บ้านโดยน้องสาวได้เกลี้ยกล่อมให้มอบตัว จึงยอมให้ตำรวจมารับตัว

เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหา นายศรชัย 3 ข้อหา ลักทรัพย์, บุกรุกเคหสถาน และหลบหนีจากการควบคุมของเจ้าหน้าที่ศาล จากนั้นคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป