ได้เวลา "ซุเปอร์สตาร์" คนใหม่

ได้เวลา "ซุเปอร์สตาร์" คนใหม่

ได้เวลา "ซุเปอร์สตาร์" คนใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เหลืออีกไม่กี่อึดใจศึกฟุตบอลรายการสำคัญที่สร้างสรรค์บรรดาพ่อค้าแข้งนามกระเดื่องโลก ก็จะระเบิดขึ้นอีกครั้งกับศึก "ฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี" ที่ทางประเทศอียิปต์รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน - 16 ตุลาคมนี้  ซึ่งจะว่าไปฟุตบอลเยาวชนรายการสำคัญแบบนี้มักจะไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร โดยส่วนตัวผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบชมการแข่งขันแนวๆ นี้ถ้ามีโอกาส เพราะทัวร์นาเม้นต์ดังกล่าวคือเวทีที่เปิดโอกาสและสร้างนักเตะชื่อดังอย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า หรือ ซีเนอดีน ซีดาน มาแล้ว

ย้อนกลับไปช่วงที่ยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายคือครั้งแรกที่ติดตามการแข่งขันรายการนี้ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นปี 2001 ซึ่งช่วงนั้นกำลังเริ่มเล่นเกมคุมทีมฟุตบอลอย่าง Championship Manager พอดี ทำให้รู้จักนักเตะดาวรุ่งหลายคน โดยปีดังกล่าวทีม "ฟ้า-ขาว" อาร์เจนติน่า ผงาดครองแชมป์ด้วยการเอาชนะกาน่าในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเด็กภายใต้การคอนโทรลของ โฆเซ่ เปร์เกร์มัน ยุคนั้นจัดจ้านจริงและก็สร้างชื่อคุ้นหูแฟนบอลบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็น ฮาเวียร์ ซาบิโอล่า ที่คว้าทั้งนักเตะยอดเยี่ยมของการแข่งขันและดาวซัลโวสูงสุดของรายการ, อันเดรส ดาเลสซานโดร, ฟาบริซิโอ โกล็อชชินี่,เลอันโดร โรมันญอรี่ และ  ดิเอโก้ โคล็อตโต้

อย่างไรก็ตามใน 3 หนต่อมาคือปี 2003, 2005 และ 2007 ตัวเองไม่ได้ติดตามมากนัก แต่ก็พอได้รับทราบข่าวสารอยู่บ้างเมื่อทาง อาร์เจนติน่า ยังครองความร้ายกาจในเรื่องของฟุตบอลเยาวชนเมื่อคว้าแชมป์ได้ในปี 2005 และ 2007 ซึ่งซุเปอร์สตาร์ที่เกิดขึ้นมาจากรายการดังกล่าวก็คือ ลิโอเนล เมสซี่ และ เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่  นั่นเอง ดังนั้นก็อยากจะพาไปรู้จักบรรดาตัวเก็งของทีมที่จะคว้าแชมป์รายการนี้สักหน่อย แถมด้วยสตาร์เด่นของทีมเหล่านั้นว่ามีโอกาสที่จะสร้างชื่อกันในอนาคตมากน้อยแค่ไหน ...


 
 บราซิล

ชื่อนี้การันยี่ห้อฝีเท้านักเตะภายในทีมอยู่แล้ว ทุกๆปีดาวรุ่งฝีเท้าเจ๋งๆจะเดินทางมาค้าแข้งในทวีปยุโรปอย่างไม่ขาดสาย และที่อียิปต์ 2009 นี้เป็นโอกาสดีเหลือเกินที่พวกเขาจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ หลังตกภายใต้เงาของคู่อริสำคัญอย่าง "อาร์เจนติน่า เพราะทีม "ฟ้า-ขาว" ไม่ได้ผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายในปีนี้

โดย "แซมบ้า จูเนียร์ส" ของ โรเจริโอ ลูเซนโก้ อดีตปราการหลังถล่มประตูของทีมฟลาเมงโก้ เข้ามาคุมทีมเมื่อกลางปี 2008 นี้เอง แต่กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบคัดเลือกของโซนอเมริกาใต้

ดั๊กลาส คอสต้า เจ้าของฉายา "นิว โรนัลดินโญ่"
ในทีมชุดนี้มีนักเตะฝีเท้าดีแทบจะล้นทีม แต่ที่เด่นๆแบบชูโรงก็ต้องยกให้ ดั๊กลาส คอสต้า เพลย์เมกเกอร์ จากทีมเกรมิโอ ที่เกือบจะได้ย้ายไปอยู่กับ แมนฯยูไนเต็ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาแล้ว ส่วนสรรพคุณที่เขาบรรยายไว้ก็คือ สปีดอันจัดจ้าน การเลี้ยงบอลที่เชื่องเท้า จนได้รับการคาดหมายว่าจะเป็น "โรนัลดินโญ่" คนต่อไป หากแต่เป็นเวอร์ชั่นเท้าซ้ายเท่านั้น  นอกจากนี้ยังมี เอริค ฟลอเรส มิดฟิลด์ของทีมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรค์และลูกเล่นต่างๆ รวมถึง อัลลัน คาร์เด็ค กองหน้าจอมพลังที่ดุดันในเกมรุกและสุดอันตรายในกรอบ 18 หลา...

 
 
สเปน


ตัวแทนจากชาติยุโรปรายนี้มีพํฒนาการที่ดีขึ้นในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะระดับเยาวชนนั้นถือว่าทีม "กระทิงดุ" ไม่เป็นรองชาติใดในยุโรป เช่นกันกับทีมชุดนี้ภายใต้ หลุยส์ มิลญ่า อดีตนักเตะที่ผ่านการค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า, รีล มาดริด และ บาเลนเซีย มาแล้ว ซึ่งคาดหวังเอาไว้ว่าทีมชุดนี้น่าจะหลุดเข้าไปเล่นในรอบน็อกเอาต์ได้เป็นอย่างน้อย 

ฟราน เมริด้า ห้องเครื่องของสเปนชุดนี้
 น่าเสียดายพอสมควรเมื่อทีมต้องไร้ โบยาน เกร์กิซ กองหน้าดาวโรจน์จากทีมบาร์เซโลน่าต้องโบกมือลาด้วยอาการบาดเจ็บ ทำให้โอกาสที่จะแจ้งเกิดตกเป็นของ ฟราน เมริด้า เพลย์เมกเกอร์หนุ่มจากทีม "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ที่ได้รับการประเมินว่าจะเดินรอยตามรุ่นพี่อย่าง เชส ฟาเบรเกาส เพราะเส้นทางบนถนนลูกหนังนั้นแทบจะถอดแบบกันมาเลย

อย่างไรก็ตามทีมชุดยังมี เซร์คิโอ อเซนโฆ นายประตูจอมหนึบจาก แอต.มาดริด และเป็นทายาทของ อีเคร์ กาซิยาส ในทีมชาติชุดใหญ่, เซซาร์ อาซปิลิกูเอต้า ฟูลแบ็กจอมบุกจากโอซาซูน่า และ โฆเซลู กองหน้าดาวรุ่งจาก เซลต้า บีโก้ ที่ทาง รีล มาดริด เซ็นสัญญาคว้าไปร่วมทีมในซีซั่นหน้าเรียบร้อยแล้ว...

อิตาลี

ตามประวัติของฟุตบอลรายนี้ ทีม "อัซซูรินี่" ยังไม่เคยพบกับคำว่าแชมป์ ซึ่งพวกเขาก็หมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องตามความฝันนั้นให้ได้ ด้วยการทำทีมของ ฟรานเชสโก้ ร็อคคา อดีตนักเตะที่ลาวงการก่อนกำหนดด้วยวัยเพียง 26 จากอาการบาดเจ็บ ซึ่งทาง ร็อคคา นั้นมีประสบการณ์และคลุกคลีกับนักเตะเยาวชนค่อนข้างสูงเพราะเริ่มคุมตั้งแต่ชุดอายุไม่เกิน 18 ปี ตามด้วย 19 ปี ก่อนจะก้าวมาคุมทีมไม่เกิน 20 ปีเมื่อปลายปี 2008 นี่เอง

ฟาบิโอ แซคก้า ดาวเด่นของทีม "อัซซูรินี่"
โดยทีมชุดนี้อาจจะมีนักเตะที่ไม่คุ้นหูเท่าใดนัก เพราะส่วนใหญ่จะถูกเลื่อนไปเล่นทีมชาติชุดอายุไม่เกิน 21 ปี และทีมชาติชุดใหญ่ ทำให้ทีมชุดนี้เป็นสายเลือดใหม่ก็คงไม่ผิดนักแต่ที่น่าจับตาก็คือ ฟาบิโอ แซคก้า มิดฟิลด์เชิงรุกจากทีมคาตาเนีย หลังถูกส่งลงเล่นในศึก เซเรีย อา ครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และเวลานี้ก็เริ่มจะได้รับโอกาสในทีมชุดใหญ่อของคาตาเนียมากขึ้น

ส่วนอีกหนึ่งรายก็คือ ไมเคิลแองเจโล่ อัลแบร์ตาซซี่ ปราการหลังจากทีม เอซี มิลาน ที่เกือบจะย้ายไปอยู่กับอาร์เซน่อลตั้งแต่อายุ 16 ปี แล้ว แต่สุดท้ายตัดสินใจที่จะอยู่ในถิ่น ซาน ซิโร่ ต่อไป ซึ่งทาง ฟรังโก้ บาเรซี่ อดีตตำนานกองหลังของ เอซี มิลาน และ ทีมชาติอิตาลี ที่ปัจจุบันเป็นทีมงานให้กับทีม "ปิศาจแดง-ดำ" หมายมั่นปั้นมือให้หมอนี่ก้าวมาเป็นทายาทของ อเลสซานโดร เนสต้า ให้ได้..

เยอรมัน

ทีม "อินทรีเหล็กชุดเล็ก"ช่วงนี้น่าจับตามองเป็นพิเศษ หลังเพิ่งคว้าแชมป์ของทวีปยุโรปเมื่อกลางปีที่ผ่านมาที่ประเทศสวีเดน แต่กำลังหลักเหล่านั้นก็พาเหรดขึ้นชั้นไปเลนทีมชาติชุดใหญ่กันหลายราย ซึ่งทาง ฮอร์ท ฮูร์เบสช์ เทรนเนอร์ของทีมีประสบการณ์เหลือเฟือ เลือกที่จะเน้นทีมเวิร์กมากกว่าการเพิ่งพาซุเปอร์สตาร์หรือว่าดาาวเด่นของทีมเพียงแค่คนเดียว และหวังที่จะเห็นทีมทำผลงานได้ดีไม่แพ้กับทีมที่คว้าแชมป์ยุโรปที่สวีเดน

สองพี่น้อง "เบนเดอร์" ของทีมอินทรีเหล็ก
ทีมชุดนี้อย่างที่กล่าวว่าไม่ค่อยมีดาวรุ่งที่คุ้นหูมากนัก แต่ที่อยากให้จับตาก็คือ "คู่แฝด เบนเดอร์" ที่ติดอยู่ในทีมชุดนี้ โดยทั้ง ลาร์ส เบนเดอร์ และ สเวน เบนเดอร์ คือกำลังหลักในแผลมิดฟิลด์ของทีมชาติเยอรมันชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ชุดแชมป์เมื่อปี 2008 ส่วนอีกรายก็คือ ริชาร์ด ซูกูต้า-ปาซู กองหน้าดาวรุ่งจากทีมเลเวอร์คูเซ่นที่ลงรับใช้ทีมชาติทุกชุดไล่ตั้งแต่ 16 ปี,17ปี,18ปี และ 19 ปีมาแล้ว ...

 
อังกฤษ

ฟุตบอลอังกฤษเวลานี้กระแสค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นทีมชาติชุดใหญ่หรือว่าชุดเล็ก โดยทีมชุดนี้ก็หวังจะทำผลงานให้ดีไม่น้อยไปกว่ากัน โดยทาง ไบรอัน เอสทิค กุนซือของทีมที่ผ่านประสบการณ์การทำทีมทั้งชุดอายุไม่เกิน 18 ปี, 19 ปี และล่าสุดขึ้นชั้นมาทำทีมชุด 20 ปีเรียกว่ามีทรัพยากรให้ใช้งานค่อนข้างเยอะทีเดียว รวมถึงงประสบการณ์ในการเป็นโค้ชถือว่ามีชั่วโมงบินสูงไม่น้อยด้วยการเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติไอร์แลนด์เหนือเมื่อปี 1998 ตามด้วยการอยู่ที่ศูนย์ฝึกเยาวนของ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทำให้ทีม "สิงโตชุดเล็ดทีมนี้" มีสิทธิ์ที่จะลุ้นแชมป์ได้เหมือนกัน

มาร์ติน เคลลี่ กองหลังตัวแกร่งของทีมชาติอังกฤษ

ทีมชุดนี้เขาให้จับตามอง มาร์ติน เคลลี่ กองหลังจากทีม "หงส์แดง" ลิวเวอร์พูล ที่เป็นกำลังหลักของทีมชุดนี้ เช่นเดียวกับ เบนจามิน มี กองหลังกัปตันทีม แมนฯซิตี้ชุดเยาวชน ก็น่าจะเป็นกำแพงเหล็กชั้นดีให้กับทีมสิงโต จูเนียร์ส

แผงกองกลางจับตา ไมเคิล วู้ด เด็กจากเชลซี ที่เคยโชว์ผลงานในทัวร์นาเม้นต์นี้ที่เกาหลีใต้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งหวังว่าน่าจะมีลูกเก๋าและประสบการณ์มากกว่าเดิม  และในแดนหน้ามีตัวความหวังก็คือ ฟาเบียน แบรนดี้ กองหน้าดาวรุ่งจากค่าย "ปิศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด ที่ประเดิมสนามเกมแรกด้วยการซัด 2 ประตูในแมตช์พบ มอนเตเนโกร เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา...

 
ไนจีเรีย

          ยอดแชมป์เยาวชนจากกาฬทวีปยังสามารถผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายได้อีกหนึ่งครั้ง หลังจากปี 2005 เคยเข้าชิงแต่แพ้ให้กับ อาร์เจนติน่า ของ ลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งปีนี้ แซมซั่น เซียเซีย เทรนเนอร์คนเดิมหวังที่จะลบฝันร้ายดังกล่าวออกไปให้ได้ ซึ่งทีเด็ดของทีมจากแอฟริกาที่เหนือกว่าทวีปอื่นๆก็คือความแข็งแกร่งของนักเตะ และที่สำคัญทัวร์นาเม้นต์นี้จัดที่ทวีปแอฟริกาด้วย ก็ได้ในเรื่องความคุ้นเคยในสภาพแวดล้อมไปในตัว

ราบุย อิบราฮิม ความหวังสูงสุดของไนจีเรียอยู่ที่เขาคนนี้
ดาวเด่นของทีมชุดนี้ก็คือ ราบุย อิบราฮิม ที่ได้รับการยกย่องว่านี่แหล่ะคือ "เจย์ เจย์ โอโคชา คนใหม่" หลังแจ้งเกิดในศึกฟุตบอลโลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี จนถูกเลื่อนชั้นมาเล่นในทีมชุด 20 ปี แบบก้าวกระโดด ทำให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน สโมสรต้นสังกัดในโปรตุเกสจับต่อสัญญายาวเป็นที่เรียบร้อย เพราะกลัวจะถูกทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรปตะครุบตัวไปร่วมทีม นอกจากนี้ยังมี ลุคแมน อารูน่า กัปตันทีมชุดนี้ที่เล่นในบทบาทคนที่ "ปิดทองหลังพระ" ให้กับทีม...


จี๊ด-จ๊าด
 
 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook