ศาลปกครองกลางรับไต่สวนคำร้องระงับ ก่อสร้างโรงงานที่มาบตาพุต

ศาลปกครองกลางรับไต่สวนคำร้องระงับ ก่อสร้างโรงงานที่มาบตาพุต

ศาลปกครองกลางรับไต่สวนคำร้องระงับ ก่อสร้างโรงงานที่มาบตาพุต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลปกครองกลางรับไต่สวนมูลนิธิโลกร้อน-ชาวบ้านมาบตาพุด จ.ระยอง ร้องระงับการก่อสร้างโรงงาน 76 โครงการ เขตมาบตาพุด ก่อนจะมีคำสั่งในเร็วนี้

ที่ศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ วันที่ 23 ก.ย.52 เวลา 13.30 น. นายภานุพันธ์ ชัยรัต ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง เจ้าของสำนวนคดีฟ้องระงับการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม 76 โครงการในเขต อ.มาบตาพุด จ.ระยอง คดีหมายเลขดำที่ 908/2552 พร้อมองค์คณะ ไต่สวนคู่ความ ที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา กรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความแห่งประเทศไทย รับมอบอำนาจ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน สมาคมสมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ให้ศาลสั่งระงับโครงการ หรือกิจกรรมใด ทั้ง 76 โครงการที่ผ่านความเห็นชอบเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการแล้ว นับตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 50 เป็นต้นมา ซึ่งจะก่อสร้างในเขต อ.มาบตาพุด จ.ระยอง ไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาต่อไป

หลังจากเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายศรีสุวรรณ ยื่นฟ้อง คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ, นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.), นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (พม.) , นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม, นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.กระทรวงพลังงาน, นายโสภณ ซารัมย์ รมว.กระทรวงคมนาคม, นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.กระทรวงสาธารณสุข และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เป็นผู้ถกฟ้องที่ 1-8 เรื่อง เป็นหน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร จากการที่ร่วมกันเห็นชอบหรืออนุญาตให้เจ้าของโครงการหรือกิจกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ไปดำเนินการก่อสร้างหรือขยายโรงงานในพื้นที่มาบตาพุด บ้านฉางและใกล้เคียง ที่ผิดไปจากเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 67 และกฎหมายสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 หรือกระทำการโดยไม่ครบถ้วนตามที่กฎหมายบัญญัติ 3 ประการ คือไม่มีการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชน , กระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้มีส่วนได้เสีย ที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่ง คือ จ.ระยอง รวมทั้งต้องจัดให้มีองค์กรอิสระด้วยสิ่งแวดล้อมให้ความเห็นประกอบก่อนการดำเนินการ

การไต่สวนวันนี้ ฝ่ายผู้ฟ้องมีนายศรีสุวรรณ ทนายความ , นายสุทธิ อัชฌาศัย เครือข่ายน้ำภาคตะวันออก จ.ระยอง และชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ให้ถ้อยคำ ส่วนผู้ถูกฟ้องมีอัยการ และนิติกร รับมอบอำนาจจากหน่วยราชการ เข้าให้ถ้อยคำ ขณะที่มีผู้บริหารโรงงาน ร่วมให้ถ้อยคำเพิ่มเติมด้วย ซึ่งศาลใช้เวลาไต่สวนประมาณ 4 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

นายสุทธิ อัชฌาศัย เครือข่ายน้ำภาคตะวันออก จ.ระยอง เปิดเผยว่า ในการไต่สวนตนและชาวบ้าน ได้นำเสนอข้อมูลทั้งปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นมาแล้ว และปัญหาด้านสุขภาพที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยมีเด็กในพื้นที่เป็นโรคมะเร็ง ลูคีเมีย ซึ่งการตรวจสอบทางการแพทย์พบว่าเด็กได้รับสารปนเปื้อนของโลหะหนักในน้ำ ที่แม้ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าสารปนเปื้อนถูกปล่อยมาจากที่ใด แต่แสดงให้เห็นว่าหากยังจะให้การก่อสร้างโรงงานย่อมเป็นไปได้ที่จะเกิดผลกระทบต่อสุขภาพของคนในพื้นที่ยิ่งขึ้น ขณะที่ฝ่ายหน่วยงานราชการ และผู้บริหารโรงงาน ได้ยื่นเอกสารชี้แจงเกี่ยวกับความเห็นชอบการอนุญาตสร้างโรงงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งตนและผู้ฟ้องยังไม่เห็นรายละเอียดก็จะขออนุญาตศาลคัดถ่ายสำเนาต่อไป

นายสุทธิ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดีหลังไต่สวนคู่ความครบถ้วนแล้ว ศาลแจ้งให้ทั้งสองฝ่ายทราบว่า หลังจากนี้จะเรียกประชุมองค์คณะพิจารณาสำนวนโดยเร็วที่สุด และจะแจ้งคำสั่งให้ทราบต่อไปแต่ศาลไม่ได้แจ้งว่าจะมีคำสั่งภายในวันใด ซึ่งหากศาลมีคำสั่งไม่กำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ก็ยังสามารถใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุดได้อีก ส่วนการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการใช้สิทธิ์ยื่นฟ้องคดีนั้น ก่อนหน้านี้ในการพบกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็แจ้งไว้แล้วจะให้เวลา 1 เดือน พิจารณาทบทวน ซึ่งหากยังไม่มีความคืบหน้ากลุ่มตนก็จะร่วมกับกลุ่มในจังหวัดต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวพร้อมๆ กันทั่วประเทศ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook