ไฟเขียว ถอด "ใบกัญชา-กัญชง" ออกจากบัญชียาเสพติด ใช้ในทางการแพทย์ได้

ไฟเขียว ถอด "ใบกัญชา-กัญชง" ออกจากบัญชียาเสพติด ใช้ในทางการแพทย์ได้

ไฟเขียว ถอด "ใบกัญชา-กัญชง" ออกจากบัญชียาเสพติด ใช้ในทางการแพทย์ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มติคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ อนุญาตให้ประชาชนใช้ประโยชน์จากใบกัญชา ใบกัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพตามวิถีพื้นบ้านได้ โดยไม่ถือเป็นยาเสพติด ต้องเป็นใบที่ไม่มียอดหรือช่อดอกติดอยู่ และมาจากต้นที่ถูกต้องตามกฎหมาย

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และเภสัชกรหญิง ดร. สุภาภรณ์ ปิติพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ร่วมกันแถลงข่าว โดย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ขับเคลื่อนนโยบายกัญชาทางการแพทย์และส่งเสริมให้กัญชาและกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของประเทศตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งวานนี้ (24 พฤศจิกายน 2563) มีการประชุมคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ และมีมติเห็นว่า วิถีภูมิปัญญาด้านสุขภาพของไทยมีการนำส่วนของใบ กิ่ง ก้าน ลำต้น รากมาใช้ จึงปลดส่วนนี้ออกจากการเป็นยาเสพติดให้โทษเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้น โดย (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. ... ที่ปรับปรุงขึ้นใหม่ยังคงสอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ ในขั้นตอนต่อไป อย. จะเสนอ (ร่าง) ประกาศฯ ดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนาม และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลใช้บังคับต่อไป

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สาระสำคัญของ (ร่าง) ประกาศฯ ฉบับนี้กำหนดให้ส่วนต่างๆ ของพืชกัญชาและกัญชง เฉพาะที่ได้รับอนุญาตให้ปลูก ผลิต หรือสกัดในประเทศไทย ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ได้แก่ 1.เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน และราก 2.ใบ ซึ่งไม่มียอดหรือช่อดอกติดมาด้วย 3.สารสกัดที่มีสารแคนนาบิไดออล (CBD) เป็นส่วนประกอบ และมีสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (THC) ไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก 4.เมล็ดกัญชง น้ำมันจากเมล็ดกัญชง หรือสารสกัดจากเมล็ดกัญชง

นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า หลังจากออกประกาศฯ สามารถนำแต่ละส่วนที่พ้นจากยาเสพติดไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เพื่อดูแลสุขภาพตนเอง เช่น ใบ ราก ก้าน ใช้ในตำรับยาแผนไทย ผลิตภัณฑ์สมุนไพร, เปลือก แกนลำต้น เส้นใยใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ, สารสกัดใช้ในอุตสาหกรรมยา ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และเครื่องสำอาง, เมล็ด หรือน้ำมันจากเมล็ดกัญชง ใช้ในอาหารและเครื่องสำอาง ทั้งนี้ ประชาชนที่จะครอบครองและใช้ได้อย่างถูกต้องจะต้องเป็นผลผลิตที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายและยังไม่อนุญาตให้นำไปใช้ในทางสันทนาการ โดยสามารถตรวจสอบผู้ได้รับอนุญาตจากเว็บไซต์ อย. http://cannabis.fda.moph.go.th ซึ่งเมื่อประกาศกระทรวงฯ ฉบับนี้ มีผลใช้บังคับแล้ว จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้กัญชาและกัญชงก้าวสู่พืชเศรษฐกิจทางสุขภาพ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร และสร้างความมั่นคงทางสุขภาพของประชาชนไทยต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook