วัคซีนโควิดแอสตร้าเซนเนก้า ที่ไทยจะจอง เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถูกกังขาเรื่องประสิทธิผล

วัคซีนโควิดแอสตร้าเซนเนก้า ที่ไทยจะจอง เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถูกกังขาเรื่องประสิทธิผล

วัคซีนโควิดแอสตร้าเซนเนก้า ที่ไทยจะจอง เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถูกกังขาเรื่องประสิทธิผล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนทั้งโลกกำลังตั้งหน้าตั้งตารอวัคซีนที่จะช่วยป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หลังจากบริษัทยาหลายแห่งเปิดเผยผลการพัฒนาวัคซีนออกมา หนึ่งในนั้นคือแอสตร้าเซนเนก้า บริษัทยาจากสหราชอาณาจักร ที่จับมือกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ที่ผลิตวัคซีนมาจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง ทั้งยังอ้างเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (23 พ.ย.) ว่ามีประสิทธิผลสูงถึง 90%

เหตุนี้ทำให้รัฐบาลไทยลงนามในวันนี้ (27 พ.ย.) จองวัคซีนดังกล่าว 26 ล้านโดสสำหรับ 13 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด 69 ล้านคน ขณะที่สหราชอาณาจักรจองไปแล้ว 100 ล้านโดส สำหรับ 50 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด 66 ล้านคน

ความหวังดังกล่าวกลับเผชิญข้อกังขาในเวลาต่อมา หลังจากออกซ์ฟอร์ดและแอสตร้าเซนเนก้า เผยข้อมูลใหม่มาอีกว่า ประสิทธิผล 90% ดังกล่าวเกิดขึ้นกับกลุ่มตัวอย่าง 2,741 คน ในสหราชอาณาจักรและบราซิลที่รับวัคซีนครึ่งโดส แล้วค่อยรับเต็มโดส แต่ตัวเลขนี้กลับลดลงเหลือเพียง 62% ในผู้ที่รับวัคซีน 2 โดส จำนวน 8,895 คน

เหตุนี้ทำให้สำนักข่าวหลายสำนักในสหราชอาณาจักรและสหรัฐรายงานว่าผู้เชี่ยวชาญหลายรายเกิดคำถามขึ้นในใจว่าอาจมีบางอย่างผิดปกติกับข้อมูลที่เผยแพร่ออกมา และสรุปแล้ววัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าและออกซ์ฟอร์ดมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใดกันแน่

แอสตร้าเซนเนก้าแก้ต่าง "ไม่ใช่เรื่องใหญ่"

แอสตร้าเซนเนก้าเผยเมื่อวันจันทร์ (23 พ.ย.) ว่าวิธีการทดสอบแบบครึ่งโดสแล้วตามด้วยเต็มโดสเป็นผลจากความผิดพลาดด้านการผลิต ซึ่งทั้งแอสตร้าเซนเนก้าและออกซ์ฟอร์ดไม่ได้กล่าวถึงระหว่างการแถลงผลการทดสอบเลย

บริษัทยารายนี้เผยว่าทราบเรื่องความผิดพลาดดังกล่าวหลังจากผู้สอบสวนการทดลองคนหนึ่งสังเกตเห็นว่าอาสาสมัครหลายคนไม่มีอาการอักเสบต่อวัคซีน ทำให้นักวิจัยต้องกลับไปวิเคราะห์การให้วัคซีนและทบทวนว่าคำนวณผิดพลาดในขั้นตอนใดบ้าง

ภายหลัง แอสตร้าเซนเนกาและออกซ์ฟอร์ด แจ้งเจ้าหน้าที่ในสหราชอาณาจักร สหรัฐ และสหภาพยุโรป ว่ามีการแก้ผลการทดสอบโดยรวมเอากลุ่มคนที่ได้รับครึ่งโดส

นายเมเน พังกาลอส รองประธานผู้บริหารหน่วยวิจัยและพัฒนาชีวเวชภัณฑ์ของแอสตร้าเซนเนก้า กล่าวว่า ความผิดพลาดนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะแม้ว่าจะตัดกลุ่มคนที่ได้วัคซีนครึ่งโดสแล้วตามด้วยเต็มโดสออกไป ประสิทธิภาพของวัคซีนก็ได้เพียงพอที่จะผ่านการอนุมัติอยู่แล้ว

นักวิทยาศาสตร์กังขาความโปร่งใส

อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผลการทดสอบวัคซีน 2 กลุ่มนี้ได้ผลแตกต่างกันมากนั้น นายมอนเซฟ สลาวี หัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของโครงการริเริ่มด้านวัคซีนของรัฐบาลสหรัฐ ชื่อ Operation Warp Speed (ออเปอเรชัน วอร์ป สปีด) ชี้เมื่อวันอังคาร (24 พ.ย.) ว่า น่าจะเป็นเพราะกลุ่มที่ได้รับวัคซีนครึ่งโดสแล้วตามด้วยเต็มโดสมีอายุไม่เกิน 55 ปี ขณะที่อีกกลุ่มที่ได้วัคซีน 2 โดส มีผู้เข้ารับการทดสอบที่มีอายุมากกว่านั้นรวมอยู่ด้วย

เหตุนี้ นักวิทยาศาสตร์หลายคนจึงวิจารณ์แอสตร้าเซนเนก้าที่ไม่เปิดเผยข้อมูลสำคัญของผลการทดสอบ อย่างเช่น ตัวเลขการติดเชื้อที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยแต่กลุ่ม หรือไม่แจกแจงอายุและระดับความรุนแรงของโรคอย่างละเอียด แม้ว่าบริษัทจะเผยว่าไม่มีผู้ป่วยคนใดที่ได้รับวัคซีนแล้วป่วยอย่างรุนแรงถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลก็ตาม

นายเชน ครอตตี นักวิจัยด้านวัคซีนและโรคติดต่อจากสถาบันลา จอลลา ให้ความเห็นสอดคล้องกันว่า แอสตร้าเซนเนก้าให้ข้อมูลจริงน้อยมากต่อการประเมินการทดสอบวัคซีน ก็คงไม่แปลกที่ใครต่อใครจะกังขา

เตรียมทดสอบใหม่

อย่างไรก็ดี นายพังกาลอส กล่าวว่า นักวิจัยเพิ่งได้รับข้อมูลเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว และกำลังเตรียมการเผยแพร่ข้อมูลฉบับเต็มเร็วๆ นี้ 

ไม่ใช่แค่นั้น ออกซ์ฟอร์ดและแอสตร้าเซนเนก้าเผยวันนี้ (27 พ.ย.) ว่าจะทำการทดสอบวัคซีนใหม่อีกครั้งด้วย แต่เชื่อว่าการทดสอบใหม่นี้จะไม่ทำให้กำหนดการขออนุมัติและนำออกมาใช้จริงในสหราชอาณาจักรและยุโรปได้รับผลกระทบ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook