สกัดชายแดนเข้ม! ผู้จัดการโรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก เผยมีหญิงไทยทำงานอยู่ 180 คน

สกัดชายแดนเข้ม! ผู้จัดการโรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก เผยมีหญิงไทยทำงานอยู่ 180 คน

สกัดชายแดนเข้ม! ผู้จัดการโรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก เผยมีหญิงไทยทำงานอยู่ 180 คน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้จัดการโรงแรม 1G1 ท่าขี้เหล็ก เผยมีหญิงไทยข้ามไปทำงาน 180 คน สธ.เชียงรายขอให้กลับมาทางช่องทางปกติ

(2 ธ.ค.63) พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เดินทางไปประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสกัดกั้นไวรัสโควิด-19 ที่ด่านพรมแดนไทย-เมียนมา ตรงด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยทางผู้บัญชาการกองกำลังผาเมืองได้แจ้งว่าปัจจุบันได้มีการเพิ่มเติมกำลังพลเข้าไปสกัดกั้นการลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดนอีกจำนวน 80 นาย และจะประสานกับทุกภาคส่วนเพื่อใช้มาตรการคุมเข้มตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะให้คนไทยที่ตกค้างอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามได้กลับเข้ามารับการตรวจหาเชื้อตามมาตรฐานสาธารณสุขด้วยช่องปกติที่ด่านพรมแดนดังกล่าว ขณะที่มีรายงานว่าในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก พบการติดเชื้อเพิ่มเติมอีก 15 ราย รวมผู้ติดเชื้อวันก่อนทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อแล้วจำนวน 64 ราย

พล.ต.นฤทธิ์ กล่าวว่าได้มีการประสานระหว่างคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น หรือ ทีบีซี ในการให้คนไทยข้ามเข้ามาตามช่องทางปกติทำให้ทยอยเดินทางเข้ามา ส่วนแนวที่มีการลักลอบก็ได้เพิ่มเติมกำลังเพื่อกันให้มีการเดินทางเข้าตามช่องทางที่กำหนดต่อไป

ด้าน นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าวว่าปัจจุบันทางคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย ที่มีประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธานได้มีประกาศให้ผู้ที่ตกค้างอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ได้กลับเข้ามาตามช่องทางปกติซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะอำนวยความสะดวกในการเข้าเมือง ตรวจหาเชื้อ ดูแลสุขภาพให้อย่างดีซึ่งพบว่าได้ผล เพราะในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ ได้มีผู้แสดงตนขอกลับเข้ามาผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 แล้ว จำนวน 31 ราย กระนั้นจากการประสานงานก็ได้รับแจ้งจากผู้จัดการโรงแรม 1G1 จ.ท่าขี้เหล็ก ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของหญิงสาวที่ติดเชื้อ แล้วลอบข้ามมายังฝั่งไทยทั้งที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย และพะเยา ว่า มีคนไทยทำงานอยู่ในโรงแรมจำนวน 180 คน

นายแพทย์ทศเทพ กล่าวอีกว่าปัจจุบันทั้งหมดมีผู้แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับมาอีกจำนวน 17 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) จะเตรียมรับกลุ่มคนดังกล่าวเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าเมืองต่อไป โดยเราจะยังไม่พูดถึงเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมายใดๆ เพราะภารกิจหลักคือการให้กลับเข้ามาเพื่อรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติเหมือนรายก่อนหน้านี้

สำหรับพื้นที่ภายในจังหวัดนั้นก็ได้มีประกาศให้ผู้ที่เคยลักลอบเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านภายใน 1 เดือนนี้ให้ไปพบกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ฯลฯ เพื่อรับการตรวจ ดังนั้นกรณีผู้ที่เกี่ยวข้องขอให้แสดงตัวเพื่อให้ได้รับการอำนวยความสะดวกและป้องกันการแพร่ระบาดไปสู่สังคมด้วย

ด้าน นายณรงค์ ลือชา หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าวว่าปัจจุบันได้มีรถโมบายพระราชทานออกตรวจโควิด-19 เข้าไปบริการตรวจโรคที่ จ.เชียงราย จำนวน 2 คันโดยประจำอยู่ที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 จำนวน 1 คันและอยู่ที่บ้านป่าเหมือด ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งโรงแรมที่หญิงสาวที่ลักลอบข้ามเข้ามามักไปพักก่อนจะเดินทางเข้าสู่ชั้นในของประเทศ ซึงจะรองรับการตรวจได้วันละ 200-300 คน สามารถสนับสนุนกรณีกลุ่มเสี่ยงต่างๆ ทั้งคนขับรถไปส่งหญิงสาว พนักงานโรงแรม ชาวบ้านในชุมชน ฯลฯ และจะขยายงานไปเรื่อยๆ จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook