โรงเรียนหรือเรือนจำ? นักเรียนแฉถูกลงโทษแรง บังคับให้ใส่ชุดคล้ายผู้ต้องขังทั้งวัน

โรงเรียนหรือเรือนจำ? นักเรียนแฉถูกลงโทษแรง บังคับให้ใส่ชุดคล้ายผู้ต้องขังทั้งวัน

โรงเรียนหรือเรือนจำ? นักเรียนแฉถูกลงโทษแรง บังคับให้ใส่ชุดคล้ายผู้ต้องขังทั้งวัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โรงเรียนดังเชียงใหม่ลงโทษนักเรียน บังคับใส่ชุดคล้ายผู้ต้องขังทั้งวัน แถมต้องจ่ายค่าซักผ้าด้วย

(3 ธ.ค.63) การออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของนักเรียนหลายกลุ่มยังคงเกิดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีประเด็นการลงโทษนักเรียนที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ โดยเพจ “นักเรียนล้านนา” ซึ่งเป็นช่องทางสื่อสารและแสดงออกทางการเมืองของกลุ่มนักเรียนมัธยมในจังหวัดเชียงใหม่ โพสต์ภาพนักเรียนหญิงคนหนึ่งชุดสีน้ำตาลอ่อนคล้ายกับชุดผู้ต้องขังในเรือนจำ ด้านหลังสกรีนตัวหนังสือสีขาวว่า “ปรับพฤติกรรม” พร้อมระบุว่าเป็นการลงโทษนักเรียนของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งภาพดังกล่าวได้มีคนมาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่มองว่าเป็นการลงโทษที่เกินกว่าเหตุ และ เป็นการประจานทำให้เด็กอับอายและเข้าข่ายละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล

แม้จะไม่มีการระบุชื่อโรงเรียนแห่งนี้ แต่คนที่มาแสดงความเห็นต่างทราบกันว่าเป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดังบนถนนแก้วนวรัฐ ต.วัดเกต อ.เมืองเชียงใหม่ โดยบอกว่าเป็นวิธีการลงโทษนักเรียนที่ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ที่ทางโรงเรียนกำหนดไว้  ขณะที่นักเรียนบางคนที่เคยถูกลงโทษนำภาพตัวเองในชุดปรับพฤติกรรมมาโพสต์เพื่อยืนยัน และ บอกสาเหตุว่าเพียงเพราะสวมชุดนักเรียนไปเรียนในวันศุกร์แทนชุดพื้นเมือง ทำให้ถูกลงโทษใส่ชุดคล้ายนักโทษตลอดทั้งวันจนได้รับความอับอาย เรื่องที่เกิดขึ้นผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้ แต่ไม่สามารถติดต่อได้

ด้านนางยุพิน บัวคอม ศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กฎระเบียบ ข้อบังคับ และ บทลงโทษของโรงเรียนเอกชน เป็นเรื่องของแต่ละโรงเรียนที่จะร่างขึ้น หากผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการโรงเรียน ก็สามารถใช้บังคับได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตกระทรวงศึกษาธิการ ส่วนศึกษาธิการจังหวัดมีหน้าที่กำกับดูแลในเรื่องของมาตรฐานการศึกษาและประเมินคุณภาพให้เป็นไปตามที่กระทรวงกำหนด

สำหรับประเด็นที่เกิดขึ้น ทราบเบื้องต้นว่าเป็นกฎการลงโทษที่มีมาก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว เพียงแต่ช่วงเวลานี้กลุ่มนักเรียนพากันออกมาใช้สิทธิเสรีภาพของตัวเองกันมากขึ้นและทำให้มีการออกมาเรียกร้องในประเด็นต่าง ๆ โดยหลังจากนี้ได้มอบหมายให้กลุ่มส่งเสริมการศึกษาเอกชน ตรวจสอบข้อเท็จจริงและทางโรงเรียนทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงมายังสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำเสนอรายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ตามลำดับ

อย่างไรก็ตามเห็นว่าบางโรงเรียนใช้กฎระเบียบมานานนับสิบปี แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนก็ควรต้องเปลี่ยนตามเพื่อให้เกิดความเหมาะสม หากเคร่งครัดก็จะต้องอยู่ภายใต้สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่นักเรียนทุกคนต้องได้รับความคุ้มครอง

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook