เชียงรายแถลงยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเป็น 4 คน เคสชายรายล่าสุดใกล้ชิดสาวพะเยา

เชียงรายแถลงยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเป็น 4 คน เคสชายรายล่าสุดใกล้ชิดสาวพะเยา

เชียงรายแถลงยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเป็น 4 คน เคสชายรายล่าสุดใกล้ชิดสาวพะเยา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จังหวัดเชียงรายแถลงยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 4 คน รวมระลอกล่าสุดพบเป็นรายที่ 7 แล้ว

วันนี้ (3 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมจอมกิตติ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.เชียงราย เพื่อสรุปผลและประเมินสถานการณ์การดำเนินการป้องกันและติดตามผลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายหลังก่อนหน้านี้มีหญิงสาวซึ่งข้ามไปทำงานยังสถานบันเทิงในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงข้ามชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย และลักลอบข้ามกลับมาตามช่องทางธรรมชาติ และกระจายเดินทางไปตามจังหวัดต่างๆ จนมีการตรวจพบว่ามีการติดเชื้อถึง 10 คน โดยมีการตรวจพบในพื้นที่จำนวน 3 คน

ซึ่งอยู่ระหว่างการกักพื้นที่และควบคุมพื้นที่ของกลุ่มบุคคลเสี่ยงมากและเสี่ยงน้อยตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค ตลอดจนมีการเปิดรับคนไทยที่ตกค้างใน จ.ท่าขี้เหล็ก กลับประเทศตามช่องทางปกติเพื่อลดความเสี่ยงในการนำเชื้อเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย

หลังการประชุม นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย และนายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ร่วมกันแถลงความคืบหน้าการติดตามและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยนายวรวิทย์ กล่าวว่า จากการติดตามและเฝ้าระวังสอบสวนโรคผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศเมียนมาและกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิดกับผู้ชิดเชื้อมีการนำตัวไปไว้ในพื้นที่ศูนย์กักดูอาการหรือ Local Quarantine จำนวน 84 ราย วันนี้พบมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 4 ราย รวมการติดเชื้อในรอบใหม่นี้เป็น 7 ราย หากนับรวมผู้ติดเชื้อสะสมใน จ.เชียงราย มีจำนวนทั้งหมด 16 ราย

ด้าน นายแพทย์ทศเทพ กล่าวว่า ผู้ป่วยที่พบใหม่ 4 คนนี้ 3 คนแรกเป็นเพศหญิงทั้งหมด อายุระหว่าง 20-25 ปี ซึ่งได้ติดต่อขอเดินทางกลับมาในประเทศตามช่องทางที่คณะกรรมการประสานงานชายแดนส่วนท้องถิ่นหรือ TBC ให้รับกลับประเทศเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา

โดยหลังข้ามประเทศก็พักอยู่ศูนย์กักดูอาการหรือ Local Quarantine ตลอด จึงทำให้ไม่มีไทม์ไลน์ของการเดินทางและไม่มีอะไรที่น่าห่วงว่าจะมีการแพร่เชื้อ ซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มที่ทำงานในโรงแรม 1G1  ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับที่ลักลอบข้ามมาและตรวจพบว่ามีการติดเชื้อ

นอกจากนี้ นายแพทย์ทศเทพ กล่าวว่า แต่คนที่น่าห่วงคือผู้ติดเชื้อรายล่าสุด เป็นเพศชายอายุ 28 ปี ซึ่งมีไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อคนนี้ เดือนพฤศจิกายน ทำงานร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย

- 28 พฤศจิกายน ช่วงบ่าย เพื่อนซึ่งเป็นผู้หญิงอายุ 28 ปี ที่ติดเชื้อโควิด-19 ใน จ.พะเยา เดินทางไปหาที่ห้องพักพร้อมขอพักค้างคืนด้วย
- 29 พฤศจิกายน ช่วงเช้า อยู่กับเพื่อนที่ห้องพัก ส่วนช่วงเย็นไปงานฟาร์มเฟสติวัลจนถึงดึก และสังสรรค์กับเพื่อนจนถึงเช้า
- 30 พฤศจิกายน เที่ยง เดินทางไป จ.เชียงใหม่ ด้วยรถยนต์ส่วนตัวกับเพื่อนและเดินทางไป จ.พะเยา
- 1 ธันวาคม ช่วงเช้า เดินทางกลับด้วยรถโดยสารประจำทางไป จ.เชียงราย เพื่อทำงานตามปกติ
- 2 ธันวาคม ทราบกลุ่มเพื่อนติดเชื้อโควิด-19 จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชน ผลพบว่าติดเชื้อ จึงเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์

อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ทศเทพ กล่าวว่า จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นพบว่าชายคนดังกล่าวมีความสนิทสนมกับเคสหญิงวัย 28 ปี ซึ่งพบติดเชื้อที่ จ.พะเยา โดยทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน ก่อนหน้านั้นก็มาพักอยู่ในห้องพักด้วยกันและไปเที่ยวงานฟาร์มเฟสติวัล และอีกวันก็เดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่ ด้วยกัน โดยไม่พบประวัติว่ามีการเดินทางไปต่างประเทศหรือพื้นที่ใด ซึ่งจะมีการสอบสวนโรคว่าเป็นการติดเชื้อจากหญิงสาวชาว จ.พะเยา หรือไปรับเชื้อจากพื้นใดมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเพิ่งมีการตรวจพบว่าติดเชื้อ โดยจะให้ชุดสืบสวนโรคเร่งหากลุ่มเสี่ยงมากเสี่ยงน้อยว่ามีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งคาดว่าอาจจะมีพอสมควรเพราะดูจากไทม์ไลน์มีการเดินทางไปหลายแห่งและทำงานในสถาบันบันเทิงที่ตัวเมืองเชียงรายด้วย ซึ่งในวันพรุ่งนี้ถึงจะทราบตัวเลขและกลุ่มเสี่ยงที่ชัดเจน

ขณะที่ นายแพทย์ไชยเวช กล่าวว่า ตอนนี้ผู้ติดเชื้อทั้ง 7 รายอยู่ในความดูแลของโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งทั้งหมดยังอยู่ในภาวะที่ปลอดภัยไม่พบการติดเชื้อในปอดหรือเชื้ออื่นๆ เพราะผู้ติดเชื้อทั้งหมดไม่มีอาการ โดยทางโรงพยาบาลยืนยันว่าจะสามารถรักษาให้หายได้และมีความพร้อมในการรับสถานการณ์ของผู้ติดเชื้อเพราะมีการซักซ้อมแผนรับมือมาตลอด รวมทั้งเครื่องไม้เครื่องมือและเตียงผู้ป่วยพร้อมเพียง และที่สำคัญพื้นที่รักษาแยกจากผู้ป่วยทั่วไป คนไข้คนอื่นจึงไม่ต้องกังวลอะไร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook