ด่วน! เชียงรายพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 2 ราย อายุ 25 ทำงานที่ 1G1

ด่วน! เชียงรายพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 2 ราย อายุ 25 ทำงานที่ 1G1

ด่วน! เชียงรายพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 2 ราย อายุ 25 ทำงานที่ 1G1
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ธ.ค.) ที่ห้องพญาพิภักดิ์ ศาลากลาง จ.เชียงราย นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เขียงราย และนายแพทย์สมศักดิ์ อุทัยพิลย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ แถลงข่าวสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ของ จ.เชียงราย ว่าได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 2 ราย ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ติดกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา

โดยเป็นหญิงอายุ 25 ปีเท่ากัน คนแรกมีอาการไอ มีเสมหะ มีน้ำมูกและจมูกไม่ได้กลิ่น ส่วนอีกคนมีไข้และปวดเมื่อยตามตัว ปัจจุบันทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนและรวบรวมกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงทั้งสูงและต่ำตามขั้นตอน

ทำให้มีผู้ติดเชื้อใน จ.เชียงราย รวมกันในขณะนี้จำนวน 11 ราย โดยเป็นการติดเชื้อภายนอกศูนย์ตรวจกักดูอาการหรือ State local Quarantine จากผู้ที่เดินทางมาจาก จ.ท่าขี้เหล็ก จำนวน 6 ราย และในศูนย์ฯ จำนวน 5 ราย

สำหรับทั้ง 2 รายล่าสุดนั้น พบว่าเกิดจากกรณีมีหญิงที่ทำงานในโรงแรม 1G1 จ.ท่าขี้เหล็ก คนหนึ่งได้หลบหนีเข้าทางช่องทางธรรมชาติสู่ อ.แม่สาย แล้วไปพักบ้านแฟน จากนั้นได้มีเพื่อนที่ทำงานที่เดียวกันข้ามตามไปพักด้วยอีก 4 คน เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา และต่อมา 3 ใน 4 คนดังกล่าวคือผู้ติดเชื้อที่อยู่ที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.พะเยา

ทั้งนี้ หลังจากเพื่อนๆ ได้ไปพักด้วยกันแล้วได้พากันไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน อ.แม่สาย และวันที่ 28 พ.ย. เพื่อนทั้ง 4 คนเดินทางเข้าไปทาง อ.เมืองเชียงราย ก่อนที่ช่วงค่ำจะมีเพื่อนจากโรงแรม 1G1 เหมือนกันเข้าไปพักด้วยทดแทนกลุ่มเดิมอีก 2 คน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีข่าวการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน จ.ท่าขี้เหล็ก หญิงสาวคนแรกที่พักกับแฟนจึงได้ไปตรวจหาเชื้อที่คลินิกเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.แม่สาย แต่ไม่พบเชื้อจึงได้โทรศัพท์ชวนเพื่อนอีก 2 คนดังกล่าวไปร่วมกันตรวจด้วยซึ่งก็ไม่พบเชื้อเช่นกัน ดังนั้นช่วงเย็นจึงออกไปซื้อของที่ตลาดและกลับที่พักโดยไม่ได้ออกไปไหนอีกเลย

กระทั่งเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.มีคนในกลุ่มมีไข้จึงโทรแจ้งโรงพยาบาลแม่สายเพื่อให้ไปรับ เมื่อโรงพยาบาลตรวจพบว่าหญิงสาวที่ตามไปพักด้วย 2 คนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เจ้าหน้าที่จึงตามหญิงสาวคนที่พักกับแฟนไปตรวจปรากฎว่าได้ผลเป็นลบ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างเพื่อนำส่งซ้ำเพื่อยืนยันแล้ว

นายวรวิทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีคนไทยที่ตกค้างอยู่ใน จ.ท่าขี้เหล็ก คาดว่ามีประมาณ 400 คน และล่าสุดในวันนี้ได้แจ้งผ่านคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่นขอข้ามมาเพิ่มเติมจำนวน 40 คน ส่วนคนที่ข้ามมาแล้วมีจำนวน 67 คน ทั้งหมดอยู่ใน State local Quarantine

สำหรับสถานบันเทิงที่ผู้ป่วยรายที่ 7 ที่พบเชื้อใน อ.เมืองเชียงราย ทำงานอยู่คือร้าน 8080 ได้ให้ปิด 14 วัน และร้านที่ผู้ป่วยและเพื่อนพากันไปดื่มกินอีก 3 แห่งได้ปิด 7 วันโดยช่วงนี้ได้เข้าสู่กระบวนการฆ่าเชื้อและทำความสะอาด ซึ่งจากการรายต่างๆ พบว่าสามารถควบคุมได้ดังนั้นหากวันที่ 20 ธ.ค.นี้เป็นต้นไปไม่พบเพิ่มเติมก็จะเข้าสู่ภาวะปลอดภัยได้

นายแพทย์ทศเทพ กล่าวว่า รายที่ 10 และ 11 พบว่าได้ไปตรวจที่คลินิกเอกชนซึ่งใช้วิธีการตรวจหาแอนติบอดี้หรือภูมิคุ้มกัน ซึ่งทางสาธารณสุขไม่แนะนำให้ใช้แล้ว และเมื่อไปตรวจกับราชการซึ่งใช้วิธีการแอนติเจนของเชื้อไวรัสโควิด-19 ปรากฎว่าพบการติดเชื้อดังกล่าว

นอกจากนี้ กรณีนี้ทางคลินิกจะต้องแจ้งให้ทางสาธารณสุขได้รับทราบแต่กลับไม่มีการแจ้ง ดังนั้นจึงจะทำความเข้าใจกับคลินิกรายนี้ และเร่งประชาสัมพันธ์ทั่วไปให้มีการใช้วิธีการที่ถูกต้อง รวมทั้งให้แจ้งทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อความมั่นใจ

นายแพทย์ทศเทพ กล่าวถึงกรณีผู้ติดเชื้อชาว จ.สิงห์บุรี ด้วยว่าดูจากไทม์ไลน์พบว่าหญิงวัย 51 ปี ที่ติดเชื้อไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อใน จ.เชียงราย หรือผู้ติดเชื้ออื่นๆ ในภาคเหนือ แม้จะมีการเดินทางมาดูงานที่องเวียงป่าเป้าและไปที่สิงห์ปาร์ค แต่ก็ไปดูงานเท่านั้นไม่ได้ไปเที่ยวงานฟาร์มเฟสที่ผู้ติดเชื้อไปเที่ยว และเป็นคนละเวลากัน คือเดินทางมาในวันที่ 26 พ.ย. แต่ผู้ติดเชื้อจะมาในวันที่ 29 พ.ย.

มีเพียงช่วงเวลาขึ้นเครื่องที่สายการบินเดียวกับผู้ติดเชื้อหญิงวัย 21 ปี ที่กรุงเทหมหานคร แต่ก็นั่งห่างกันถึง 8 ที่นั่ง และระบบการป้องกันภายในเครื่องบินก็มีการป้องกันอย่างดีจึงไม่น่าจะติดต่อกันได้ ซึ่งกรณีดังกล่าวต้องดูทางสิงห์บุรีจะมีการสอบสวนโรคออกมาเป้นเช่นไร

ด้าน นายแพทย์สมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยทั้งหมดที่อยู่ในการดูแลที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พบว่าไม่มีอาการเลย 3 ราย และมีอาการ 8 ราย ซึ่งแนวทางการรักษาคือให้ยาต้านไวรัสกับผู้ที่มีอาการเป็นเวลา 5 วัน และดูอาการอีก 10 วัน ปัจจุบันผู้ป่วยรายแรกจะครบกำหนดการรักษาและสามรถออกจากโรงพยาบาลได้แล้วในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการให้ออกจากโรงพยาบาลต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันรถชีวนิรภัยพระราชทานได้ให้บริการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 แก่ประชาชนภายในสิงห์ปาร์ค อ.เมืองเชียงราย และที่ว่าการ อ.เมืองเชียงราย และประจำอยู่ที่ชายแดน อ.แม่สาย รวมทั้งหมด 3 คัน พบว่ามีประชาชนพากันไปตรวจเป็นจำนวนมากซึ่งรถแต่ละคันสามารถรับตรวจได้วันละ 200 ราย  นอกจากนี้ โรงพยาบาลเกษมราษำร์ศรีบุรินทร์ อ.เมืองเชียงราย ยังได้รับตรวจอีกวันละ 200 รายด้วย

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 2-4 ธ.ค.นี้ ได้มีผู้ไปตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วจำนวน 2,121 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่กังวลเนื่องจากเกี่ยวข้องกับกิจกรรมของผู้ติดเชื้อ เช่น เที่ยวงานเทศกาล สถานบันเทิง ฯลฯ ผลล่าสุดพบผลเป็นลบจำนวน 1,474 ราย และรอผลตรวจจำนวน 647 ราย กระนั้นทาง จ.เชียงราย ยังขอให้รถชีวนิรภัยพระราชทานยังคงประจำอยู่ในพื้นที่ต่อไปอย่างไม่มีกำหนดด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook