พ่อขอ4ปีรับไปอยู่ญี่ปุ่น เคอิโงะ พาทำบุญให้แม่

เคอิโงะ พา คัตซูมิ พ่อบังเกิดเกล้าเดินสาย ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แม่ที่ล่วงลับ พร้อมซื้อนก ปลาปล่อยที่ท่าน้ำหน้าวัดท่าหลวง พิจิตร คัตซูมิ ร่ำไห้คิดถึงเมีย ดีใจที่กลับมาพิจิตรอีกครั้ง รับปากปีหน้าจะกลับมาเยี่ยมลูกอีก พร้อมวางแผนภายใน 4 ปีนำน้องเคโงะไปอยู่ด้วยกันที่ญี่ปุ่น ก่อนที่สองพ่อลูกจะเดินทางไปกราบไหว้พระพุทธชินราช ที่พิษณุโลก ท่ามกลางนักท่องเที่ยวขอถ่ายรูป จำนวนมาก

หลังจากความฝันของด.ช.เคอิโงะ ซาโต หรือน้องเคโงะ ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นกลายเป็นจริง เมื่อนายคัตซูมิ ซาโต พ่อบังเกิดเกล้าชาวญี่ปุ่น เดินทางจากแดนอาทิตย์อุทัยมาหาถึงเมืองไทย เมื่อวันที่ 2 ต.ค. โดยสองพ่อลูกไปเที่ยวเล่นสไลเดอร์ที่สวนสยามด้วยกันอย่างมีความสุข ตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากไปเที่ยวสวนสยามแล้ว ด.ช.เคอิโงะพร้อมนายคัตซูมิเดินทางกลับมาถึงจ.พิจิตร เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 3 ต.ค. โดยทั้งสองไปนอนที่บ้านของนายชัยชนะ ศรีอุชา ล่ามภาษาญี่ปุ่นในเขตตัวเมืองพิจิตร

ต่อมาเวลา 07.30 น. ด.ช.เคอิโงะพร้อมพ่อชาวญี่ปุ่น และนางปัทมา จตุพิศ ป้าของเคอิโงะเดินทางไปทำบุญและกราบสักการะหลวงพ่อเพชร ที่วัดท่าหลวง พระอารามหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร โดยด.ช.เคอิโงะถือรูปถ่ายนางทิพย์มณฑา จันทร์ประทุม มารดาที่ล่วงลับมาด้วย โดยสองพ่อลูกร่วมกันถวายสังฆทานและอาหารหวานคาวเนื่องในวันออกพรรษาและทำบุญ ให้กับนางทิพย์มณฑาด้วย

ระหว่างการถวายสังฆทานทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ภรรยา นายคัตซูมิร้องไห้ตลอดเวลา โดยบอกว่าตื้นตันใจที่ได้มาทำบุญกับลูกและอุทิศส่วนกุศลไปให้กับนางทิพย์ มณฑา และนึกถึงอดีตเก่าๆ ที่เคยสาบานรักกันที่พระอุโบสถหลวงพ่อเพชรแห่งนี้

นอกจากนี้ ด.ช.เคอิโงะและนายคัตซูมิซื้อนก ปลา เพื่อปล่อยร่วมกันที่ริมแม่น้ำน่าน หน้าวัดท่าหลวง โดยมีชาวพิจิตรจำนวนมากห้อมล้อมเข้ามาขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ก่อนที่นายคัตซูมิพร้อมลูกชายจะแวะไปเยี่ยมนายปรีชา จันทร์ประทุม พ่อตาที่ป่วยเป็นโรคอัมพาตซึ่งพักอยู่ที่บ้านนางปัทมา ในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร ซึ่งบ้านดังกล่าวนางทิพย์มณฑาและนายคัตซูมิเคยมาอยู่ด้วยกันกระทั่งมีลูก จากนั้นสองพ่อลูกไปรับประทานอาหารที่ร้านพลอยโภชนา หน้าธนาคารกรุงไทย ในตลาดสดเทศบาล 1

นายคัตซูมิให้สัมภาษณ์ว่า ดีใจที่กลับมาพิจิตรอีกครั้ง วันนี้ตนพร้อมลูกชายมาทำบุญให้กับนางทิพย์มณฑา ภรรยาที่ล่วงลับ ตนอธิษฐานขอให้ดวงวิญญาณของนางทิพย์มณฑาไปสู่สุคติ อย่าได้ห่วง ตนจะดูแลลูก มาพบลูกครั้งนี้ ตนยังไม่เคยลืมอดีตที่มาอยู่ร่วมกับภรรยา ยังนึกถึงเสมอ และพร้อมจะดูแลลูก

นายคัตซูมิกล่าวอีกว่า อยากจะใช้ชีวิตอยู่กับด.ช.เคอิโงะ ลูกชาย ซึ่งต้องขอเวลาคุยกับลูกให้มากกว่านี้ นอกจากนี้ ตนยังชวนลูกชายไปอยู่ด้วย แต่ขอเวลา 3-4 ปี เพื่อตั้งตัวและจะมารับด.ช.เคอิโงะไปญี่ปุ่นด้วยกัน ครอบครัวของตนที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นรู้แล้วว่าตนมีลูกที่ประเทศไทย ทุกคนรับได้ ไม่มีปัญหา จึงชักชวนลูกไปอยู่ด้วย ซึ่งต้องคุยกันให้มากกว่านี้ สัญญาไว้กับลูกแล้วว่าปีหน้าจะเดินทางมาหาลูกอีกครั้ง

ด้านด.ช.เคอิโงะ กล่าวหลังจากพาพ่อไปทำบุญว่า ดีใจที่มาร่วมทำบุญกับพ่อ เพื่อทำบุญให้แม่ ตนอุทิศกุศลทั้งหมดให้แม่ และจุดธูปไหว้แม่ บอกแม่ว่าพ่อมาถึงพิจิตรแล้ว มีความสุขมากที่มีโอกาสอยู่กับพ่อ แม้จะมีเวลาไม่มากนัก ภูมิใจมากที่ได้นอนกอดพ่อทุกคืน วันนี้ตนพาพ่อไปเที่ยวหลายแห่ง

ต่อมาเวลา 10.00 น. ด.ช.เคอิโงะ นายคัตซูมิ และนางปัทมาเดินทางมาเที่ยวบึงสีไฟ ในเขตเทศบาลเมืองพิจิตรจนรอบ จากนั้นไปดูพญาชาละวันที่ใหญ่ที่สุดในบึงสีไฟซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจ.พิจิตร นอกจากนี้ ด.ช.เคอิโงะยังชวนพ่อเล่นจักรยานน้ำปั่น ถ่ายภาพ รูปภาพ 3 มิติ ที่หอชมนก บริเวณบึงสีไฟ ท่ามกลางสายตาของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ายินดีที่พ่อลูกได้พบกัน พร้อมกับขอถ่ายภาพ จับมือ และขอลายเซ็น หลังจากเที่ยวบึงสีไฟเสร็จ เดินทางไปเที่ยวกราบไหว้พระพุทธชินราช ที่จ.พิษณุโลก ส่วนในวันที่ 5 ต.ค. นายคัตซูมิจะเดินทางไปโรง เรียนวัดท่าหลวงสงเคราะห์ ที่เคอิโงะเรียนอยู่ เพื่อให้กำลังใจลูกชายที่จะสอบวันแรก

เมื่อเวลา 14.00 น. น้องเคโงะพร้อมนายคัตซูมิ รวมทั้งนางปัทมา ป้าและญาติเดินทางโดยรถตู้มายังวิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตน มหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อมาถึง สองพ่อลูกซื้อดอกไม้ธูปเทียน พร้อมไหว้และปิดทององค์พระพุทธชินราชจำลองที่หน้าวิหาร ก่อนเข้าไปกราบไหว้องค์พระพุทธชินราชภายในวิหาร พร้อมเสี่ยง ทายใบเซียมซี ปรากฏว่าน้องเคโงะได้เบอร์ 5 ส่วนนายคัตซูมิได้เบอร์ 7 สองพ่อลูกร่วมกันทำบุญในตู้บริจาคช่วยเหลือเด็กพิการ โดยเขียนชื่อแม่ของเคอิโงะ และอธิษฐานจิตอุทิศส่วนกุศลให้แม่ และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

จากนั้นน้องเคโงะพร้อมนายคัตซูมิเดินทางไปที่วัดราชบูรณะ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งอยู่คนละฟากถนนกับวิหารพระพุทธชินราช เพื่อ ร่วมทำบุญซื้อกระเบื้องหลังคามณฑป เมื่อเดินทางมาถึงวัด เคอิโงะพร้อมพ่อและคณะขึ้นไปบนศาลาการเปรียญ เพื่อกราบนมัสการพระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาส จากนั้นกราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุที่ทางวัดตั้งประดิษฐานไว้บนศาลาการเปรียญ ซึ่งทางวัดอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุลงมาจากมณฑปชั่วคราวเพื่อให้เคอิโงะและ พ่อกราบไหว้อย่างใกล้ชิด และเป็นสิริมงคลแก่ทั้งสอง พร้อมกันนี้พระครูสิทธิธรรมวิภัชมอบพระนางพญารุ่นมิตรภาพ 49 ให้เคอิโงะและพ่อด้วย ก่อนที่สองพ่อลูกจะเดินลอดเรือรับเสด็จสมัยรัชกาลที่ 5 คนละ 3 รอบ เพื่อความเป็นสิริมงคลรอดปลอดภัยในชีวิต และเพื่อเอาเคล็ดในการใช้ชีวิตด้วยกัน อย่าพลัดพรากกันอีก จากนั้นทั้งหมดเดินทางกลับบ้านที่จ.พิจิตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้องเคโงะพร้อมพ่อเดินทางมาที่จ.พิษณุโลกครั้งนี้ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมากให้ความสนใจสองพ่อลูกคู่นี้ เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ ที่สำคัญยังตรงกับวันพระและวันออกพรรษาพอดี บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น หลายคนเข้ามาขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกด้วย ขณะที่น้องเคโงะมีใบหน้าสดชื่นยิ้มแย้มตลอดเวลา

น้องเคโงะ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า พาพ่อมากราบพระพุทธชินราช ตอนไหว้ตั้งนะโมสามจบ เมื่อเข้าไปกราบไหว้พระพุทธชินราชอธิษฐานจิตขอให้พ่ออยู่ด้วยนานๆ และอธิษฐานบุญกุศลไปให้กับแม่ที่ล่วงลับไปแล้ว