ย้อนดู 3 ประธานาธิบดี ที่ถูก “ยื่นถอดถอน” ในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ

ย้อนดู 3 ประธานาธิบดี ที่ถูก “ยื่นถอดถอน” ในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ

ย้อนดู 3 ประธานาธิบดี ที่ถูก “ยื่นถอดถอน” ในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวันพุธ (13 ม.ค.) ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์สหรัฐที่ถูกยื่นถอดถอนโดยสภาคองเกรส หลังจากเหตุการณ์ที่ผู้สนับสนุนเขาบุกเข้าไปในรัฐสภา ขณะกำลังทำการรับรองผู้ชนะการเลือกตั้ง โดยสภาคองเกรสมีมติถอดถอนทรัมป์ ด้วยคะแนน 232 - 197 ในข้อกล่าวหา “ก่ออาชญากรรมและมีพฤติกรรมผิดขั้นสูง” 

การถูกยื่นถอดถอนจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อประธานาธิบดีได้กระทำการร้ายแรง ตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ คือ “ก่อกบฏ, ติดสินบน หรือก่ออาชญากรรมและมีพฤติกรรมผิดขั้นสูง” อย่างไรก็ดี การถอดถอนประธานาธิบดีในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มักมี “ปัจจัยทางการเมือง” เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกร่วมพรรคต้องการต่อต้านประธานาธิบดี หรือสมาชิกสภาคองเกรสเชื่อว่า การถอดถอนประธานาธิบดีจะคุ้มค่ากับความเสี่ยงที่จะเสียการสนับสนุน

ทั้งนี้ การยื่นถอดถอนเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถทำให้ประธานาธิบดีพ้นจากตำแหน่งได้ แต่เป็นเพียงขั้นแรกของกระบวนการ 2 ขั้นตอน โดยสภาผู้แทนราษฎรต้องลงมติถอดถอนประธานาธิบดี เมื่อมติข้างมากเห็นควรให้ถอดถอน วุฒิสภาจะเข้ามาทำการสอบสวน เพื่อตัดสินว่าประธานาธิบดีควรพ้นจากตำแหน่งหรือไม่ 

“การถอดถอนประธานาธิบดี” เกิดขึ้นน้อยมากในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ ที่ยาวนานกว่า 250 ปี ทว่า ประธานาธิบดีบิล คลินตัน, ประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ต้องเผชิญกับการถูกยื่นถอดถอน แล้วเหตุผลที่พวกเขาเหล่านี้ถูกยื่นถอดถอนคืออะไร Sanook สรุปมาให้อ่านกันแล้ว 

แอนดรูว์ จอห์นสัน 

หลังจากเหตุการณ์สงครามกลางเมืองและการเสียชีวิตของประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอร์น รองประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน ก็ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแทน จอห์นสันเป็นฝ่ายสหภาพเดโมแครต ที่ปฏิเสธจะแยกสหภาพออกจากรัฐเทนเนสซี พร้อมกันนั้น เขายังเป็นพวกเหยียดเชื้อชาติ ที่ชื่นชอบแนวทางผ่อนปรนการสร้างใหม่ หรือขั้นตอนในการนำสมาพันธรัฐอเมริกากลับมา จอห์นสันปะทะกับสภาคองเกรสหลายครั้งในสมัยของเขา พร้อมกับยับยั้งกฎหมายหลายตัวที่เขารู้สึกว่าเป็นผลเสียต่อรัฐทางภาคใต้ รวมถึงกฎหมายเสรีชน (Freemen’s Bureau Acts) ที่ให้ประชาชนรัฐทางใต้ที่พลัดถิ่น โดยเฉพาะชาวแอฟริกันอเมริกัน สามารถเข้าถึงอาหาร ที่หลบภัย ยารักษาโรค และที่ดิน 

นอกจากนี้ จอห์นสันยังทำการปลดเอ็ดวิน สแตนตัน รัฐมนตรีกระทรวงสงคราม ซึ่งการกระทำนี้ของเขาทำให้สภาคองเกรสไม่พอใจและยื่นถอดถอนเขา โดยกล่าวหาว่าจอห์นสันได้ทำการละเมิดกฎหมาย Tenure of Office Act หรือกฎหมายที่จำกัดอำนาจประธานาธิบดีในการปลดผู้ได้รับการแต่งตั้งของรัฐบาลกลางออกจากตำแหน่ง 

สภามีมมติ 2 ใน 3 ยื่นถอดถอนจอห์นสัน จากนั้นจึงยื่นหนังสือให้วุฒิสภาทำการสอบสวน ต่อมา ศาลสูงจึงได้ตัดสินว่าการกระทำของจอห์นสันผิดรัฐธรรมนูญ

บิล คลินตัน 

ประธานาธิบดีบิล คลินตันสร้างความขุ่นเคืองให้กับสภาคองเกรส เช่นเดียวกับประธานาธิบดีจอห์นสัน หลังจากเรื่องอื้อฉาวกับโมนิก้า เลวินสกี้ นักศึกษาฝึกงานประจำทำเนียบขาวกลายเป็นข่าวโด่งดังในปี 1998 คลินตันปฏิเสธเจ้าหน้าที่สอบสวนของรัฐบาลกลาง และสาธารณชน โดยระบุว่า เขาไม่ได้มีความสัมพันธุ์เชิงชู้สาวกับเธอ 

การยื่นถอดถอนเกิดขึ้น โดยกล่าวหาว่าคลินตันได้โกหกเจ้าหน้าที่สอบสวนเรื่องความสัมพันธ์กับเลวินสกี้ และยังขัดขวางการตัดสินด้วยการยุงยงให้พนักงานของทำเนียบขาวปฏิเสธเรื่องอื้อฉาวดังกล่าว 

อย่างไรก็ตาม แม้วุฒิสภาหลายท่านจะลงความเห็นว่า พฤติกรรมของคลินตันเป็นสิ่งที่เลวร้าย แต่คำตัดสินก็ระบุว่า ยังไม่ใช่การกระทำที่ก่ออาชญากรรมและมีพฤติกรรมผิดขั้นสูง ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เชี่ยวชาญยังชี้ว่า ความพยายามถอดถอนคลินตันสิ้นสุดลง เนื่องจากประชาชนในประเทศไม่เห็นด้วย และผลโพลสำรวจความพึงพอใจต่อคลินตันในช่วงสัปดาห์การถอดถอนก็พุ่งสูงเช่นเดียวกัน 

โดนัลด์ ทรัมป์ 

โดนัลด์ ทรัมป์ถูกยื่นถอดถอนครั้งแรกในวันที่ 18 ธันวาคม 2019 ใน 2 ข้อกล่าวหา คือ ใช้อำนาจในทางที่ผิด และขัดขวางการทำงานสภาครองเกรส ซึ่งเริ่มจากเหตุการณ์คลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ของทรัมป์กับโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี้ ประธานาธิบดียูเครน ซึ่งทรัมป์ได้กดดันให้ยูเครนทำการสอบสวนบริษัทพลังงานของลูกชายโจ ไบเดน  เป็นคณะกรรมการบริหาร พร้อมกันนั้น ทรัมป์ยังได้ระงับความช่วยเหลือจากทางการทหารจากยูเครนอีกด้วย 

นอกจากนี้ สภานิติบัญญัติยังชี้ว่า พฤติกรรมมิชอบของทรัมป์ยังเกิดขึ้นในช่วงการยื่นถอดถอน โดยทรัมป์พยายามเข้ามาแทรกแซงกับการสอบสวน ด้วยการสั่งการให้เจ้าหน้าบริหารไม่ให้ความร่วมมือกับหมายศาลรัฐสภาที่ร้องขอคำให้การและเอกสารต่าง ๆ 

จากเอกสารการถอดถอนที่ได้รับการอนุมัติโดยสภาคองเกรส ข้อกล่าวหาทั้งหมดถือเป็นการกระทำที่ก่ออาชญากรรมและมีพฤติกรรมผิดขั้นสูง อย่างไรก็ตาม ทรัมป์รอดพ้นจากการถูกถอดถอนครั้งแรกมาได้ หลังจากที่วุฒิสภาลงมติว่า เขาไม่มีความผิดทั้ง 2 ข้อกล่าวหา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook