ร่างทรง เปิดใจ หลังเจอขุดภาพแฉ ลั่นหยุดทรงมาประมาณ 4-5 ปีแล้ว

"อาเดียว" ร่างทรง เปิดใจ หลังโซเชียลขุดภาพแฉ รับเคยทรงแต่ตอนนี้เลิกแล้ว เตรียมแจ้งความเพจปล่อยข่าว

เป็นกระแสไปทั่วโลกโซเชียล เมื่อเพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่งได้นำเสนอเรื่องราวของร่างทรงรายหนึ่ง อ้างว่าสามารถอัญเชิญเทพเจ้าจีนมาประทับทรงได้ และยังจัดทำพิธีต่างๆ แต่งตัวด้วยชุดคล้ายกับการแต่งกายเลียนแบบกษัตริย์ แต่งชุดเทพเจ้าจีน พร้อมทั้งใส่เครื่องประดับที่เป็นทองจนเต็มร่างกาย

และที่ตำหนักหลังใหญ่ยังมีการประดับตกแต่งด้วยข้าวของที่ดูมีมูลค่า ทั้งรูปปั้นต่างๆ เช่น สมเด็จพระนเรศวร พระสุพรรณกัลยา พระเกจิชื่อดัง พร้อมทั้งตั้งคำถามว่า เป็น ร่างทรง ทำไมรวยขนาดนี้? ทำไม ร่างทรง รายนี้ได้ค่าครูหลักแสนหลักล้านขนาดนี้? พร้อมทั้งมีการขอให้สรรพากร เข้ามาตรวจสอบกรณีดังกล่าวด้วย

หลังจากที่เป็นกระแสในโลกโซเชียลเพียงข้ามวัน ทำให้ร่างทรงรายดังกล่าว หรือ นายอาเดียว เมืองช้าง อายุ 41 ปี ชาว ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เปิดบ้านที่ถูกอ้างว่าเป็นตำหนักให้กับทีมข่าวอีจันได้เข้าไปดูภายในบ้าน พร้อมทั้งเปิดใจกับทีมข่าวอีจันว่า เรื่องราวที่ถูกโซเชียลนำเสนอไปนั้น ยอมรับว่าตนเป็นร่างทรงจริง แต่ก็หยุดทรงมาประมาณ 4-5 ปีแล้ว

ปัจจุบันทำธุรกิจค้าขายและมีหุ้นส่วนในการทำธุรกิจส่วนตัวจากครอบครัว ไม่ได้ไปหลอกเอาเงินค่าครูครั้งละเป็นล้านบาทแต่อย่างใด ส่วนของสะสมต่างๆ รวมทั้งกระเป๋าแบรนด์เนม ตนมองว่าเป็นเรื่องของความชอบส่วนตัว ซึ่งใครๆ ก็ซื้อมาครอบครองได้ เพราะเป็นสิ่งของที่ราคาไม่ได้สูงมากมายอะไรนัก

นายอาเดียว เมืองช้าง อดีตร่างทรง

นายอาเดียว ยังบอกอีกว่า โดยส่วนตัวตนเองกับผู้ใช้เฟซบุ๊กที่มาโจมตีตนนั้นไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ไม่รู้ว่าต้องการอะไรที่เอารูปของตนไปลงแบบนั้น ซึ่งข้อมูลที่เอาไปลงไม่เป็นความจริงแม้แต่นิดเดียว ในเรื่องราวบ้านพัก ห้องนอน ของตกแต่ง ตนมองว่าเป็นรสนิยมหรือความชอบส่วนตัว ซึ่งหาซื้อได้ทั่วไป

ข้อมูลที่กล่าวหาว่าตนแต่งกายเลียนแบบพระมหากษัตริย์ ตนขอบอกว่าไม่ได้มีพฤติกรรมอะไรแบบนั้นเลย

ส่วนเรื่องการเป็น ร่างทรง นั้นถึงแม้จะเลิกทรงไปแล้ว แต่ในทุกๆ ปีตนจะจัดงานไหว้ครู ก็จะมีแต่งกายตามรสนิยมที่ชอบ ตามที่เคยทรง ไม่เคยบอกว่าเป็นร่างทรงกษัตริย์พระองค์ใดเลย เพียงแต่แต่งชุดไทยใส่โจงกระเบนเท่านั้น

เรื่องค่าครูหลักแสนถึงหลักล้าน นายอาเดียว บอกว่า การเรียกค่าครูในการเข้าพบ 1 ล้านบาท ตนมองว่าไม่มีใครไปเรียกขนาดนั้นและไม่มีใครโง่เอาเงินมาจ่าย หลังจากนี้จะขอแจ้งความดำเนินคดีถึงที่สุด กับทุกคนที่กล่าวหาตนไปในทางเสื่อมเสีย

ล่าสุด อีจันได้ค้นหาเพจเฟซบุ๊กที่นำเรื่องราวของนายอาเดียว มาโพสต์ลงโซเชียล ก็พบว่าเพจดังกล่าว ได้ปิดไปเรียบร้อยแล้ว