กระทรวงดิจิทัลฯ ย้ำไร้ขัดแย้งทีมพัฒนา หมอชนะ มีแค่กรมควบคุมโรคอัปเดตสถานะสีได้

กระทรวงดิจิทัลฯ ย้ำไร้ขัดแย้งทีมพัฒนา หมอชนะ มีแค่กรมควบคุมโรคอัปเดตสถานะสีได้

กระทรวงดิจิทัลฯ ย้ำไร้ขัดแย้งทีมพัฒนา หมอชนะ มีแค่กรมควบคุมโรคอัปเดตสถานะสีได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รมว.ดีอีเอส ชี้ ทีมอาสาพัฒนาแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ไม่ได้ถอนตัว แต่ส่งมอบให้รัฐดูแลทั้งระบบเพื่อพัฒนาให้รองรับประชาชนที่ใช้งานทั่วประเทศ ย้ำต้องทำให้ดีกว่าเดิม ขณะกรมควบคุมโรคเป็นเพียงหน่วยงานเดียวที่สามารถอัปเดตสถานะสี ยืนยันไม่มีขัดแย้งกับทีมอาสา ขอทุกคนร่วมมือกันต่อสู้กับโควิด-19 ให้ชนะ

วันนี้ (18 ม.ค.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) ดร.นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ดร.อนุชิต อนุชิตานุกูล และนายสมโภชน์ อาหุนัย ทีมผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับประเด็นที่สังคมมีคำถามเรื่องแอปพลิเคชัน “หมอชนะ”

โดย รมว.ดีอีเอส ยืนยันว่า ได้ทำงานพัฒนาแอปพลิเคชัน "หมอชนะ" ร่วมกันกับทีมอาสากว่า 100 ชีวิต ตลอดเวลาเกือบ 1 ปี และทุกวันนี้ยังหารือการทำงานกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มีความขัดแย้งกัน ก็ยังทำงานกันด้วยดีมาโดยตลอด ซึ่งการส่งมอบการดูแลระบบแอปพลิเคชันนั้น เนื่องด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชัน หมอชนะ ได้ส่งมาทาง สพร. ที่เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการใช้งาน 30-40 ล้านคน และยังพัฒนาต่อเนื่องเพื่อรองรับการใช้งานที่มากขึ้น ใช้กับประชาชนทั้งประเทศได้

เมื่อถึงวันนี้รัฐบาลรับช่วงต่อมา เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเก็บข้อมูลต้องใช้บุคลากรจำนวนมากและต้องทำให้เกิดคุณภาพ ทางทีมพัฒนาและ สพร. ที่ส่งมอบมาให้ทำต่อนั้น เนื่องจากขนาดการใช้งานใหญ่ขึ้นให้ประชาชนทั้งประเทศได้ใช้ และต้องทำในระยะยาว จึงต้องโอนถ่ายมาให้รัฐบาลรับผิดชอบทำให้เป็นระบบ รัดกุมทางกฎหมาย และบริหารทั้งงบประมาณและบุคลากรทั้งหมดให้สมบูรณ์ มีประสิทธิภาพ

buddhibong-quote-18012021

นายพุทธิพงษ์ ให้ความเชื่อมั่นถึงการใช้งานแอปพลิเคชัน หมอชนะ ว่า การทำงานของแอปพลิเคชัน ฟังก์ชัน สีสถานะเพื่อการติดตามสอบสวนโรค ซึ่งหลังจากนี้ต้องใช้เจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นในการทำงานให้สามารถรองรับการใช้งานที่ขยายมากขึ้น ยังคงรณรงค์ให้ประชาชนใช้งานแอปฯ มากขึ้น เพราะเป็นประโยชน์มากเมื่อใช้แอปฯ และเมื่อมีคนติดเชื้อ การสอบสวนโรคจะรวดเร็วมากและควบคุมสถานการณ์ได้ดียิ่งขึ้น

ด้าน ดร.อนุชิต และนายสมโภชน์ กล่าวขอบคุณประชาชนที่แสดงความห่วงใยทีมงานผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน หมอชนะ และขอบคุณที่ประชาชนให้ความร่วมมือในการดาวน์โหลดและใช้งานแอปพลิเคชัน ในการต่อสู้กับสงครามโควิด ซึ่งทีมอาสาสมัครหมอชนะได้พัฒนาแอปพลิเคชันมาระยะหนึ่ง และจำเป็นต้องส่งต่อให้รัฐบาลในการใช้งานและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยทีมอาสาสมัครผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน หมอชนะ ขอบคุณทั้ง รมว.ดิจิทัลฯ ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ และ สพร. รวมถึงกรมควบคุมโรค ซึ่งทำงานกันมาตั้งแต่กุมภาพันธ์ ปี 63 จนเมื่อถึงระดับการใช้งานที่ขยายมากขึ้นจึงส่งต่อให้ทางรัฐบาลดูแลและใช้งานอย่างเป็นทางการ และสิ่งสำคัญคือต้องมีกระบวนการการสื่อสารที่ชัดเจนและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ทำให้เกิดความสับสน พร้อมกันนี้ขอให้คนไทยร่วมมือกันใช้แอปพลิเคชัน หมอชนะ ในการช่วยต่อสู้กับโควิดอย่างจริงจัง ให้เราชนะให้ได้

ขณะเดียวกัน รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันว่า ได้ทำงานร่วมกันกับคณะทำงานผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน กับทาง สพร. มาตั้งแต่ต้น ซึ่งเรื่องการเปลี่ยนสีสถานะของแต่ละบุคคล ต้องผ่านคนกลางที่เป็นเจ้าหน้าที่ของกรมควบคุมโรคในแต่ละพื้นที่ ส่งข้อมูลไปยังกระทรวงดิจิทัลฯ หากมีการเปลี่ยนสี และส่งต่อไปให้ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน อัปเดตข้อมูลสถานะสีให้ และจะเปลี่ยนสีก็ต่อเมื่อโรงพยาบาลได้ยืนยันการติดเชื้อแล้วเท่านั้น ขอให้ประชาชนดาวน์โหลดและลงทะเบียนใช้งานกันให้มากที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์และช่วยบุคลากรทางการแพทย์ในการทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น ล่าสุดมีผู้ดาวน์โหลดใช้งานแล้วกว่า 7 ล้านครั้ง ซึ่งมีแนวโน้มคนใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนี้ รมว.ดีอีเอส ยังระบุว่า ระบบการแจ้งเตือนสถานะสีของแอปพลิเคชันไม่มีปัญหา ไม่มีการล็อกสีไว้ให้เป็นสีเขียวอย่างเดียว ซึ่งทางกรมควบคุมโรคจะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลและยืนยันสีสถานะข้อมูลของผู้ใช้งานหน่วยงานเดียวเท่านั้น ยืนยันว่าระบบไม่มีปัญหา แต่อาจจะต้องใช้เวลาให้เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคได้ตรวจสอบอย่างถูกต้องชัดเจน และการส่งมอบแอปพลิเคชัน หมอชนะ จะไม่ทำให้เกิดปัญหา แต่เนื่องจากการใช้งานมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เปิดให้ประชาชนใช้งานทั่วประเทศจำนวนผู้ใช้จึงมากขึ้น รวมทั้งรัฐบาลควรมีงบประมาณในการดูแลทีมผู้พัฒนาแอปพลิเคชันในการทำงาน ในการเพิ่มบุคลากรในการรองรับให้มากขึ้น ซึ่งทีมผู้พัฒนาแอปพลิเคชันเองก็ยังคงคอยเป็นที่ปรึกษาและช่วยการทำงานของรัฐบาลต่อไป ทุกอย่างจะยังทำงานเหมือนเดิมและระบบจะดีขึ้นกว่าเดิม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook