ผู้กองใจเด็ด! พลีชีพจับขบวนการค้ายา ปูนบำเหน็จยศ พล.ต.ต. บรรจุลูกสาวเป็นตำรวจแทนพ่อ

ผู้กองใจเด็ด! พลีชีพจับขบวนการค้ายา ปูนบำเหน็จยศ พล.ต.ต. บรรจุลูกสาวเป็นตำรวจแทนพ่อ

ผู้กองใจเด็ด! พลีชีพจับขบวนการค้ายา ปูนบำเหน็จยศ พล.ต.ต. บรรจุลูกสาวเป็นตำรวจแทนพ่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผบ.ตร.ปูนบำเหน็จ 5 ขั้น 4 ชั้น ผู้กองปราบรามยาเสพติดพลีชีพจับยาเสพติด บรรจุลูกสาวเป็น ร.ต.ต. รับราชการแทนพ่อ

กรณี ร.ต.อ.วิรัตน์ชัย น้อมระวี รอง สว.กก.3 บก.ปส.2 ออกสืบสวนติดตามขบวนการขนยาเสพติดจาก อ.บ้านแพง จ.นครพนม ผ่าน จ.กาฬสินธุ์ ไป จ.ขอนแก่น พบรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ หมายเลขทะเบียน กน 5772 สกลนคร และรถอิซูซุ สีดำ ทะเบียน บท 101 นครพนม ตามที่ได้รับแจ้ง ขับเข้าเส้นทางลูกรัง ต.บ้านหว้า อ.เมืองขอนแก่น จึงขับรถเข้าสกัดจับ แต่โดนขบวนการขนยาเสพติด ขับรถแหกวงล้อม ชนเสียชีวิต

โดยตำรวจได้ติดตามจับ นายวุฒิชัย อายุ 20 ปี และนายสุภาพ อายุ 55 ปี ชาว อ.บ้านแพง จ.นครพนม ผู้ก่อเหตุซึ่งขับขี่รถคันดังกล่าวโดยนำไปจอดทิ้งไว้ที่ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม เหตุเกิดบ่ายวันที่ 16 มกราคม 2564 ซึ่งญาติได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 21 มกราคม 2564

โดยบ่ายวันที่ 19 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 9 ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่ง ซึ่งเป็นสถานสวดอภิธรรม บำเพ็ญกุศลศพ ร.ต.อ.วิรัตน์ชัย น้อมระวี อายุ 51 ปี รอง สว.กก.3บก.ปส.2 โดยมีญาติ พี่น้อง และเพื่อนตำรวจมาร่วมงานจำนวนมาก โดยมีพวงหรีดแสดงความอาลัยและเสียใจจากผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมรุ่นตำรวจ ญาติพี่น้อง 

นางคำกอง น้อมระวี อายุ 78 ปี แม่ผู้กองมือปราบ เล่าว่า ผู้ตายเป็นลูกคนสุดท้องในจำนวน 4 คน หย่าร้างได้ 8 ปี เลี้ยงดูลูก 3 คนและแม่ ถือว่าเป็นเสาหลักของครอบครัว ก่อนเกิดเหตุ เช้าวันที่ 16 มกราคม ผู้ขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียน จากนั้นก็ไปทำงาน โดยไม่ทราบว่าไปไหน กระทั่งค่ำวันที่ 17 มกราคม ได้รับโทรศัพท์จากญาติบอกว่าผู้ตายถูกรถชนสาหัส นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลขอนแก่นราม จ.ขอนแก่น ไปเยี่ยมลูกไม่รู้สึกตัวเลย แต่หมอให้ตนทำใจ และเสียชีวิต รู้สึกเสียใจ แต่ก็ภูมิใจ สิ่งที่ผู้บังคับบัญชาทำให้ ส่วนคนร้ายตำรวจตามจับได้แล้ว

ลูกสาว ร.ต.อ.วิรัตน์ชัย น้อมระวี

น.ส.เกวลี น้อมระวี อายุ 24 ปี ลูกสาวคนโตผู้ตาย เล่าว่า ตนเรียนจบปริญญาตรี นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กำลังเรียนที่สถาบันเนติบัณฑิตยสภา ในพระบรมราชูถัมภ์ กรุงเทพฯ คืนก่อนผู้เสียชีวิต ได้คุยโทรศัพท์กับพ่อ ซึ่งพ่อบอกว่าทำงานอยู่ที่หน่วย ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน จะกลับบ้านประมาณ 3 ทุ่ม ตอนนี้กินข้าวกับทีมงานอยู่ จากนั้นก็แยกย้ายกันเข้านอน วันต่อมาพ่อก็ไปทำงานตามปกติ โดยพ่อได้ปักหมดว่าไปทำงานที่ขอนแก่น ตนถามพ่อว่าจะกลับมารับน้องที่โรงเรียนรึเปล่า พ่อไม่ได้ตอบกลับมา จึงโทรหาพ่อ แต่พ่อไม่รับสาย ซึ่งปกติพ่อจะติดต่อกลับมา รู้สึกใจหาย คิดว่าคงจะไม่มีอะไร

กระทั่งค่ำได้รับข่าวพ่อเกิดอุบัติเหตุ จึงไปหาพ่อที่โรงพยาบาล ตนจะทำหน้าที่แทนพ่อให้ดีที่สุด แม้ว่าจะไม่เท่าที่พ่อทำ บอกน้องว่าหากมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ ให้มาปรึกษาพี่ได้เลย พ่ออยากให้ตั้งใจอ่านหนังสือ ความฝันของพ่ออยากให้ประสบผลสำเร็จทางอาชีพ พ่ออยากให้เป็นนักกฎหมาย ซึ่งก็เดินตามรอยพ่อมาตลอด เด็กๆ พ่อสอนให้อ่านสำนวน  และความฝันอยากเป็นพนักงานอัยการ ณ ตอนนี้การเริ่มต้นของขบวนการยุติธรรม มันเป็นสิ่งสำคัญ ตนจึงตั้งมั่นอยากเป็นตำรวจตามรอยพ่อ

ส่วน ด.ช.ภิวัฒน์ชัย อายุ 14 ปี ลูกชายคนเล็ก เล่าว่า ตนเรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนอุดรพิชัยรักษ์พิทยา ห้องเรียนพิเศษเตรียมทหาร ก่อนเกิดเหตุ พ่อขับรถไปส่งที่โรงเรียนตามปกติ โดยพ่อไม่ได้พูดอะไร ตอนเย็นพี่สาวโทรไปบอกว่าพ่อประสบอุบัติเหตุ จึงไปหาพ่อที่โรงพยาบาล รู้สึกเสียใจมาก แต่ภาคภูมิใจในตัวต่อ ตนฝันอยากเป็นตำรวจ เพราะตนมีพ่อเป็นแรงบันดาลใจ พ่อสอนเสมอว่าหากจะทำอะไรให้ทำเต็มที่ ให้ตั้งใจเรียน และดูแลย่าและพี่น้อง

ต่อมาเวลา 18.00 น. พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เดินทางมาเป็นประธานร่วมสวดอภิธรรม ร.ต.อ.วิรัตน์ชัย โดยมีข้าราการตำรวจ ทหาร เพื่อนตำรวจร่วมรุ่น แม่ ลูก และญาติพี่น้อง  เพื่อนบ้านในชุมชน มาร่วมพิธี ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เนื่องจากต้องเสียตำรวจน้ำดี เพราะ ร.ต.อ.วิรัตน์ชัย เป็นคนดี มีน้ำใจ เป็นที่รักใคร่ของทุกคน หลังจากสวดอภิธรรม ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจปราบรามยาเสพติดต้นสังกัด และแม่บ้านตำรวจ

พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ได้เดินทางมาแสดงความเสียใจและไว้อาลัยกับครอบครัว ร.ต.อ.วิรัตน์ชัย พร้อมที่จะช่วยเหลือครอบครัวทุกอย่าง ถือว่าเป็นการเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ สิทธิที่จะต้องได้ จะรีบดำเนินการให้ทันที

พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า จากการสืบสวนติดตามคนร้ายขนยาเสพติด ทั้งยาบ้าและไอซ์ กับกำลังทหาร อย่างกระชั้นชิด คนร้ายไหวตัวทัน และต่อสู้ขัดขืนการจับกุม ทำให้ตำรวจเสียชีวิต ถือว่าเป็นสูญเสียที่ยิ่งใหญ่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีการลำเลียงยาเสพติดมาทางภาคอีสานมากกว่าปกติ ระดมกำลังที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจและทหารในการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการในการทำงานให้มีการป้องกันตัวอย่างดี อย่าประมาท ครั้งนี้เป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ ครั้งนี้ถือเป็นคราวเคราะห์ของผู้เสียชีวิต ครั้งต่อจะทำให้ถูกระเบียบและระวังมากกว่านี้ 

จะมีการปูนบำเหน็จให้ ร.ต.อ.วิรัตน์ชัย อย่างน้อยต้องได้ 5 ขั้น 4 ชั้นยศเป็นพลตำรวจตรี หลังติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ ซึ่ง ผบช.ภ.4 ได้เร่งติดตามขยายผลขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มนี้จนถึงตัวผู้บงการ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตาย ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการหนึ่งในลูกผู้เสียชีวิต คือลูกสาวคนโต ให้เข้ารับราชการตำรวจ ยศร้อยตำรวจตรี ”

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook