สภาฯ ไฟเขียว อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ "ทำแท้งเองได้" ไม่ผิดกฎหมาย

สภาฯ ไฟเขียว อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ "ทำแท้งเองได้" ไม่ผิดกฎหมาย

สภาฯ ไฟเขียว อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ "ทำแท้งเองได้" ไม่ผิดกฎหมาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(20 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีระเบียบวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งมี นายสันติ กีระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน กมธ.วิสามัญฯ ร่างกฎหมายดังกล่าว มีทั้งหมด 4 มาตรา

คณะ กมธ.แก้ไขมีสาระสำคัญอยู่ที่ มาตรา 3 ว่าด้วยกำหนดโทษสตรีที่ทำแท้ง หรือยอมให้ผู้อื่นทำแท้ง ขณะมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 4 กมธ.แก้ไขว่า ถ้าเป็นการกระทำของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภา ถือว่าไม่ผิด ดังนี้

  • หญิงตั้งครรภ์ต่อไป จะเสี่ยงต่อการได้รับอันตราย ต่อสุขภาพทางกายหรือจิตใจของหญิงนั้น
  • เนื่องจากมีความเสี่ยงอย่างมาก หรือมีเหตุผลทางการแพทย์ อันควรเชื่อได้ว่า หากทารกคลอดออกมาจะมีความผิดปกติ ถึงขนาดทุพพลภาพอย่างร้ายแรง
  • หญิงยืนยันต่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมว่าตนมีครรภ์ เนื่องจากมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศ
  • หญิงซึ่งมีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์
  • หญิงซึ่งมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์ ภายหลังการตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด โดยคำแนะนำของแพทยสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น

อย่างไรก็ตาม ในมาตรา 3 เสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมลงมติไม่เห็นด้วย กับการกำหนดโทษที่ กมธ.แก้ไข แต่เห็นด้วยกับร่างเดิมของรัฐบาลที่เสนอ ให้ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ต่อมาได้มีการอภิปรายในมาตรา 4 โดย น.ส.นริศรา ไผ่แดง ในฐานะ กมธ.ฝ่ายรัฐบาล ระบุว่า ข้อยกเว้นที่ 3 ที่กำหนดให้อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ ยุติการตั้งครรภ์ได้นั้น บัญญัติไว้สำหรับรองรับผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม

จากนั้น ที่ประชุมได้เปิดให้ ส.ส.อภิปราย โดย นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การแก้ไขครั้งนี้ อนุญาตให้สตรีมีครรภ์สามารถซื้อยามากิน เพื่อทำแท้งตัวเองได้ หากอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์

นายประสิทธิ์ มะหะหมัด ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นมุสลิม ตามหลักการของศาสนาอิสลาม ภายหลังจากมีปฏิสนธิ และทารกอยู่ในครรภ์ 120 วันแล้ว ถือว่าเด็กมีชีวิตแล้ว หากทำแท้งถือว่าบาปมหันต์ ยกเว้นจะต้องมีเหตุจำเป็น เช่น แพทย์วินิจฉัยแล้วว่า มีอันตรายถึงชีวิตของมารดา เป็นต้น แต่ถ้าเด็กได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์ ว่าเกิดมาไม่สมประกอบหรือพิการ ตามหลักของอิสลามห้ามทำแท้ง เพราะเชื่อว่าเกิดมาแล้ว สังคมจะไม่ทอดทิ้งและช่วยเหลือกัน

ด้าน นายสันติ ชี้แจงว่า มาตรา 4 ข้อยกเว้นที่ 5 ทาง กมธ.บัญญัติขึ้น เพื่อให้ทางออกกับสตรีที่ประสบปัญหาในชีวิต เช่น พ่อของลูกเกิดเสียชีวิต หรือปฏิเสธการเป็นพ่อ ยืนยันว่า กมธ.มีเจตนาให้หญิงมีทางออก เมื่อประสบปัญหาในชีวิต และให้ได้รับคำแนะนำ จากนั้นจึงค่อยตัดสินใจด้วยตนเองว่า จะตั้งครรภ์ต่อไป หรือจะยุติการตั้งครรภ์ ส่วนที่กำหนดไว้ ไม่เกิน 20 สัปดาห์ เพราะถ้าเกิน 20 สัปดาห์ เด็กดิ้นแล้ว มีชีวิตแล้ว

นายจรัญ ภักดีธนากุล ในฐานะ กมธ.ชี้แจงว่า ขณะที่ทำกฎหมายนั้น ตนได้รับโจทย์มาว่า จะมีทางเลือกอย่างไรให้กับผู้หญิงที่ประสบปัญหาชีวิต ที่ยากลำบากแสนสาหัสอย่างที่หาทางออกไม่ได้

วัตถุประสงค์ในการทำกฎหมายนี้ ไม่ได้ต้องการผลักให้ผู้หญิงไปสู่การทำแท้ง แต่ต้องการหาทางออกที่เหมาะสม ที่พอรับได้กับสังคมไทย ซึ่งมีความคิดเห็นอย่างแตกต่าง ทั้งนี้ กมธ.คำนึงถึงการมีชีวิตรอดของเด็กด้วย

จากนั้น ที่ประชุมได้ลงมติในมาตรา 4 เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับที่คณะ กมธ.แก้ไข ด้วยคะแนน 273 ต่อ 47 งดออกเสียง 19 เสียง และต่อมาเวลา 15.55 น.ที่ประชุมลงมติในวาระสาม ส่วนใหญ่เห็นด้วยผ่านร่างกฎหมายทั้งฉบับ ด้วยคะแนน 276 ต่อ 8 งดออกเสียง 54 เสียง

อย่าไรก็ตาม น.ส.ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธาน กมธ.ให้สัมภาษณ์ภายหลังสภาฯ ผ่านร่างกฎหมาย ว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว จะเปิดโอกาสให้ผู้หญิงที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งถ้าจะไปซื้อยารับประทานเองเพื่อทำแท้งสามารถทำได้ และไม่ต้องทำโดยแพทย์

แต่ถ้าเป็นกรณีที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 ถึง 20 สัปดาห์ ถ้าต้องการยุติการตั้งครรภ์ต้องเข้าสู่กระบวนการปรึกษาหารือทางเลือก จากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และผู้ประกอบวิชาชีพอื่น เพื่อให้เจ้าตัวเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะยุติการตั้งครรภ์หรือไม่

น.ส.ธนิกานต์ กล่าวต่อว่า แต่ถ้าเป็นกรณีอายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์ขึ้นไป ไม่สามารถทำแท้งตามกฎหมายนี้ได้ เพราะทางการแพทย์ถือว่า เด็กมีสภาพเป็นตัวบุคคลแล้ว มีน้ำหนักเกิน 500 กรัม เด็กสามารถกระดิกมือ กระดิกเท้าได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นกรณีที่แพทย์วินิจฉัยเห็นแล้วว่า การตั้งครรภ์จะเป็นอันตรายต่อมารดา หรือเป็นอันตรายร้ายแรงต่อเด็ก ที่จะคลอดออกมา หรือพิสูจน์แล้วว่าเป็นการตั้งครรภ์ ที่เกิดจากการกระทำความผิดทางเพศ หรือการข่มขืน ไม่ว่าจะมีอายุครรภ์กี่สัปดาห์ ก็สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook