ยายบุรีรัมย์พร้อมลูกหลาน ยืนยันจะหาเงินจ่ายค่าเบื้ยคนชรา แต่ขอยืดเวลา 20 เดือน

ยายบุรีรัมย์พร้อมลูกหลาน ยืนยันจะหาเงินจ่ายค่าเบื้ยคนชรา แต่ขอยืดเวลา 20 เดือน

ยายบุรีรัมย์พร้อมลูกหลาน ยืนยันจะหาเงินจ่ายค่าเบื้ยคนชรา แต่ขอยืดเวลา 20 เดือน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นางบวน โล่ห์สุวรรณ์ อายุ 89 ปี พร้อมด้วยนางลัดดาวรรณ โล่ห์สุวรรณ อายุ 66 ปี ลูกสาว ชาว ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ และลูกหลานคนอื่นๆ ตกลงว่าจะหาเงินมาชำระเบี้ยคนชราย้อนหลังคืนตามระเบียบทั้ง 84,400 บาท โดยเลือกแบบไม่มีดอกเบี้ย แต่ขอยืนระยะเวลาการชำระจาก 12 เดือน เป็น 20 เดือน

ขณะนี้กำลังรอคำตอบจากทางองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ว่าจะยืดระยะเวลาได้หรือไม่ หากทำไม่ได้ ตนและลูกหลานก็จะพยายามหาเงินมาจ่ายให้ครบทุกบาท เพราะครอบครัวเข้าใจว่าจะเงินดังกล่าวเป็นของหลวง และอาจต้องแบ่งเงินบำนาญพิเศษกรณีลูกเสียชีวิตที่ยายได้รับล่าสุดเป็นเดือนละ 10,000 บาท มารวมกันเพื่อชำระในแต่ละเดือน

ลูกสาวเครียด ขอไม่โทษใคร

นางลัดดาวรรณ ลูกสาวนางบวน บอกว่า หลังจากพูดคุยกันแล้วทั้งแม่และลูกหลานก็จะพยายามหาเงินไปชำระเบี้ยผู้สูงอายุคืนให้ครบทั้งหมด ตนยอมรับว่าทั้งแม่และครอบครัวรู้สึกเครียดกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่าทางครอบครัวจะไม่เปิดบัญชีรับบริจาคเพราะไม่อยากให้เกิดกระแสดรามา แต่หากใครอยากจะช่วยเหลือก็ให้มาพูดคุยกับคุณแม่หรือลูกหลานที่บ้านด้วยตัวเอง

ลูกสาวนางบวนรายนี้ บอกอีกว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ไม่อยากจะโทษใครอาจจะด้วยความไม่รู้หรือการสื่อสารไม่เข้าใจ ก็ไม่อยากให้เรื่องบานปลายเพราะห่วงสภาพจิตใจของแม่เพราะอายุมากแล้ว แค่นี้ก็เครียดมากพอแล้ว ก็ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาเยี่ยมให้กำลังใจและช่วยเหลือคุณแม่ 

เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจาก อบต. แจ้งนางลัดดาวรรณ ว่ากรมบัญชีกลางส่งหนังสือมาทวงเบี้ยผู้สูงอายุคืนจากนางบวนแม่ของตน ย้อนหลังไปถึง 10 ปี มูลค่า 84,400 บาทพร้อมดอกเบี้ย เพราะเพิ่งทราบว่านางบวนได้รับเงินบำนาญพิเศษกรณีที่เป็นทายาทของ จ.ส.อ.จักราวุทธ โล่ห์สุวรรณ ลูกชาย ซึ่งเป็นทหารสังกัดมณฑลทหารบกที่ 21 นครราชสีมา เดือนละ 5,000 บาท หลังจากเสียชีวิตจากเหตุการณ์คลังแสงระเบิดเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2544 และเงินบำนาญดังกล่าวเพิ่มขึ้นมาเป็น 10,000 บาท เมื่อกลางปี 2562

เหตุนี้สร้างความตกใจให้ยายบวน เพราะไม่เคยรู้มาก่อน ว่าหากได้รับเงินบำนาญของลูกชายที่เสียชีวิตแล้วจะไม่มีสิทธิ์รับเบี้ยผู้สูงอายุ ทั้งยังตกใจเหตุใดหน่วยงานรัฐปล่อยให้เรื่องล่วงเลยมาจนถึง 10 ปี

ด้านเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็ได้ลงพื้นที่สอบถามรายละเอียดคุณยายที่บ้าน พร้อมทั้งจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อ เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือคุณยายในอีกทางหนึ่งด้วย   

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook