จำจนตาย! สาว 18 เตือนภัยทั้งน้ำตา หนุ่มรู้จักทางเฟซบุ๊กหลอกพาไปเที่ยว เกือบโดนข่มขืน

 

จำจนตาย! สาว 18 เตือนภัยทั้งน้ำตา หนุ่มรู้จักทางเฟซบุ๊กหลอกพาไปเที่ยว เกือบโดนข่มขืน

(4 มี.ค.64) เวลา 20.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.เตย (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ชาวหมู่ 2 ต.บ้านซ่อง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ว่าเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (4 มี.ค.64) เวลาประมาณ 18.00 น. ได้ถูกชายหนุ่มวัยประมาณ 20 ปีเศษซึ่งรู้จักกันทางเฟซบุ๊ก ได้เพียงประมาณ 1 สัปดาห์ล่อลวงว่าจะพาไปขับรถเล่นท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ ย่านตลาดนิคมอุตสาหกรรม 304 อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกัน

แต่หลังจากชายรายดังกล่าว ได้พานั่งซ้อนท้ายรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 สีแดง ขับพาตะลอนไปตามสถานที่ต่างๆ ในเขตย่านนิคมฯ 304 แล้วจนถึงกระทั่งเวลาเกือบ 22.00 น. ได้พาขับเลี้ยวรถเข้าไปยังภายในซอยเปลี่ยว ก่อนที่จะขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย และเริ่มทำการลวนลามจับหน้าอกและกอดรัด จนทำให้เธอต้องส่งเสียงร้องเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนอื่นจนดังลั่นไปทั่วบริเวณ พร้อมกับได้พยายามที่จะขัดขืนเป็นเวลานานประมาณ 30 นาที

ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเปลี่ยนใจ และบอกว่าจะพาไปส่งที่ปากทางถนนใหญ่ 304 แต่สุดท้ายกลับปล่อยทิ้งตนเองเอาไว้ข้างทางก่อนที่จะขับรถหลบหนีไป จากนั้นตนเองจึงได้เดินออกมายังปากซอย ซึ่งมีบ้านคนลักษณะเป็นอู่ซ่อมรถอยู่ด้านฝั่งตรงข้าม จึงได้เข้าไปขอความช่วยเหลือ และขอชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ เพื่อติดต่อกับคนทางบ้าน จากนั้นทางเจ้าของบ้านจึงได้โทรศัพท์แจ้งไปยังหน่วยกู้ภัยฯ ในท้องที่ เพื่อให้ช่วยพาไปเข้าแจ้งความร้องทุกข์ยังที่ สภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี

จากนั้นได้ใช้เวลานั่งรออยู่นาน ในบริเวณโรงพัก สภ.ระเบาะไผ่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ได้เข้ามาสอบสวนปากคำ หรือมีการลงบันทึกประจำวันให้ จนกระทั่งเวลาผ่านไปจนถึงเกือบเที่ยงคืนของเมื่อวันวานนี้ ทางอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยจึงได้พากลับมาส่งยังที่บ้าน ซึ่งครั้งแรกตนยังไม่ได้บอกกล่าวให้กับทางผู้เป็นมารดา เมื่อมาถึงบ้านจึงได้รีบเข้าไปยังภายในห้องนอนในทันที จนกระทั่งมารดามาทราบภายหลัง เมื่อมีคนเห็นข่าวสารผ่านทางสื่อโซเชียล ว่าตนถูกล่อลวงไปจนเกือบถูกกระทำการข่มขืนกระทำชำเราดังกล่าว

หลังจากถูกล่อลวงจากชายแปลกหน้า ที่เพิ่งคบหากันผ่านทางสื่อออนไลน์แล้ว จึงอยากจะเตือนภัยไปถึงยังผู้คนในสังคมที่เพิ่งคบหา หรือพูดคุยรู้จักกันผ่านทางสื่อโซเชียลนั้น ให้ระมัดระวังว่าอาจจะถูกล่อลวง หรือหลอกไปทำอนาจารเช่นเดียวกันกับตน ซึ่งต่อไปตนเองจะต้องใช้ความระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น ในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ที่จะนัดพบกับใครหรือไปกับใครทั้งที่เพิ่งรู้จักกันในสื่อโซเชียล เพื่อไม่ให้ถูกล่อลวงได้อีก น.ส.เตย กล่าว