เชียงใหม่เข้ม! ขอความร่วมมือไม่เข้าออกพื้นที่เสี่ยงสีแดง 5 อำเภอ

เชียงใหม่เข้ม! ขอความร่วมมือไม่เข้าออกพื้นที่เสี่ยงสีแดง 5 อำเภอ

เชียงใหม่เข้ม! ขอความร่วมมือไม่เข้าออกพื้นที่เสี่ยงสีแดง 5 อำเภอ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 เม.ย.) คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ยอกระดับมาตรการเข้มป้องกันโควิด-19 จัดโซนอำเภอที่พบผู้ป่วยเเบ่งเป็นสีพบมีสีแดงผู้ป่วยเกิน 50 คน 5 อำเภอ ขอความร่วมมือห้ามเข้าออก-พื้นที่ ทั้งจากต่างจังหวัดเข้ามา และคนในพื้นที่ลดการเคลื่อนไหวหากไม่จำเป็น

ขณะเดียวกันคำสั่งร้านบุฟเฟ่ต์ให้จัดพนักงานร้านมาบริการลดความเสี่ยงสัมผัส ร้านอาหารสถานบันเทิงทุกประเภท งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล ขณะเดียวกันงดจัดกิจกรรมที่มีผู้คนเกิน 50 คน ทำให้บรรยากาศในตัวเมืองเชียงใหม่โซนสีแดงวันนี้เงียบเหงาหลายหน่วยงานสั่งด่วนปิดงานเพิ่ม 1 วัน

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ลงในในประกาศ 3 ฉบับ เพิ่มมาตรการ ควบคุมโรคโควิด-19

หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 272 ราย รวมผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 1,733 ราย โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้เพิ่มมาตรการในร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ต่างๆ จะต้องจัดพนักงานดูแลให้บริการลูกค้าที่มาใช้บริการ ห้ามให้ลูกค้าตักอาหารมารับประทานเอง

นอกจากนี้ ยังได้ออกคำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ให้ลดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้เหลือเพียง 50 คนเท่านั้น ยกเว้นในกรณีที่จำเป็นสามารถยื่นขอพิจารณาอนุมัติการจัดกิจกรรมกับทางคณะกรรมการโรคติดต่อในระดับอำเภอเป็นรายๆ ไป รวมทั้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้งดการพบปะสังสรรค์ และเดินทางเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อให้สามารถควบคุมโรคให้ได้ภายใน 2 อาทิตย์

ทั้งนี้ ยังได้พิจารณาให้ส่วนราชการต่างๆ จัดแบ่งสัดส่วนเจ้าหน้าที่ผลัดกันเข้าทำงาน ในลักษณะ Work From Home แต่ยังคงต้องมีเจ้าหน้าที่เพียงพอกับการให้บริการประชาชน พร้อมเชิญชวนให้บริษัท ห้าง ร้านต่างๆ ได้พิจารณานโยบาย Work From Home เพื่อป้องกันและลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระยะนี้ด้วย

ด้าน นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้ทำแผนที่แสดงการระบาดโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ระลอกเดือนเมษายนนี้ โดยแบ่งตามภูมิลำเนาของผู้ป่วย โดยแบ่งเป็น

1.โซนสีแดง ซึ่งมีผู้ป่วยติดเชื้อมากกว่า 50 ราย ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ สันทราย หางดง สารภี และสันกำแพง

2.โซนสีส้ม ซึ่งมีป่วยผู้ติดเชื้อจำนวน 11-50 ราย ได้แก่  อำเภอแม่ริม ดอยสะเก็ด  สันป่าตอง และดอยหล่อ

3.โซนสีเหลืองซึ่งเป็นพื้นที่อำเภอที่พบผู้ป่วยจำนวนน้อยกว่าสิบคน ได้แก่ อำเภอแม่ออน เวียงแหง เชียงดาว ไชยปราการ พร้าว สะเมิง แม่ออน จอมทอง แม่วาง ฮอด ดอยเต่า และอมก๋อย และโซนสีขาว คือยังไม่พบผู้ป่วย ได้แก่ อำเภอกัลยาณิวัฒนา (ข้อมูล ณ วันที่ 15 เมษายน 2564)

สำหรับหอผู้ป่วยโรงพยาบาลสนามนั้นเป็นระบบปิดไม่สามารถให้คนนอกเข้าไปได้ และหากแพทย์จะเข้าไปต้องสวมใส่ชุด PPE เพื่อป้องกันตัวเอง โดยให้ผู้ป่วยทุกคนต้องวัดอุณหภูมิ วัดความดันด้วยตัวเอง และรายงานผลผ่านทางออนไลน์ให้กับเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ การอยู่ในโรงพยาบาลสนามอาจจะไม่สะดวกสะบายมากนัก ซึ่งทางจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่ ทั้งระบบระบายอากาศ และอินเตอร์เน็ต Wi-Fi ในการอำนวยความสะดวกและลดความตึงเครียดในระหว่างอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวถึงการให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ไม่มีอาการมาอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัยของผู้ป่วย หากมีอาการแทรกซ้อนซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ ทีมแพทย์สามารถช่วยเหลือได้ทันที ถึงแม้ว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่มีอาการแต่ควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และเพื่อความปลอดภัยของชุมชน ไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อให้กับผู้ที่อยู่ร่วมกันภายในบ้านและชุมชนไปในวงกว้าง

ทั้งนี้ พบว่ามีหลายหน่วยงานได้ประกาศแจ้งด่วนกับพนักงานว่าให้หยุดงานเพิ่มอีก 1 วัน ในวันศุกร์ที่ 16 เมษายน ทำให้สามารถหยุดยาวได้ถึงวันที่ 18 เมษายน เพื่อให้ความร่วมมือกับทางจังหวัดในการควบคุมโรค

ทำให้บรรยากาศเช้านี้ในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่โซนสีแดงมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดตามถนนต่างๆ ในเขตรอบคูเมืองเชียงใหม่ และตามถนนสายหลักเกือบทุกสาย มีรถราวิ่งบนท้องถนนบางตาจนบางช่วงแทบจะไม่มีรถวิ่ง ร้านรวงต่างๆ ก็ปิดบริการลงมีเพียงร้านอาหารบางร้าน หรือแม้แต่ในตลาดก็มีผู้คนบางตา ส่วนใหญ่เลือกที่จะลดความเสี่ยงอยู่บ้านกับครอบครัวกัน ทำให้เมืองเชียงใหม่ตอนนี้แม้จะเป็นใจกลางเมืองก็เงียบเหงาแตกต่างจากภาพที่เคยมีมา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook