อิสราเอล เลิกบังคับสวมหน้ากากเวลาอยู่นอกบ้าน หลังฉีดวัคซีนโควิดให้ประชากรเกือบ 60%

อิสราเอล เลิกบังคับสวมหน้ากากเวลาอยู่นอกบ้าน หลังฉีดวัคซีนโควิดให้ประชากรเกือบ 60%

อิสราเอล เลิกบังคับสวมหน้ากากเวลาอยู่นอกบ้าน หลังฉีดวัคซีนโควิดให้ประชากรเกือบ 60%
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รัฐบาลอิสราเอลประกาศยกเลิกมาตรการบังคับประชาชนสวมหน้ากากเวลาอยู่นอกบ้าน หลังจากที่โครงการฉีดวัคซีนประสบความสำเร็จอย่างสูง

ปัจจุบันมีประชากรอิสราเอลเกือบ 60% ที่ได้รับวัคซีนโควิดอย่างน้อยหนึ่งโดส ทำให้รัฐบาลมีความเชื่อมั่นว่าสามารถควบคุมการระบาดได้ และเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดต่างๆ รวมถึงเลิกการบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากเวลาออกนอกบ้าน แต่ยังคงกำหนดให้สวมหน้ากากเวลาอยู่ภายในอาคารหรือพื้นที่ปิด

นอกจากอิสราเอลแล้ว สหรัฐฯ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่สามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้อย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี ระบุว่า ขณะนี้มีคนอเมริกันได้รับวัคซีนโควิดหนึ่งโดสแล้ว 131 ล้านคน หรือเกือบ 40% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วสองโดสมีจำนวนกว่า 84 ล้านคน หรือมากกว่า 25% ของประชากรทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ ชี้ว่า สหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดโลก คือ กว่า 31.5 ล้านคน จากจำนวนผู้ติดเชื้อราว 140 ล้านคนทั่วโลก อินเดียมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมมากเป็นอันดับสอง คือ 14.5 ล้านคน โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอินเดียเพิ่มขึ้นมากที่สุดในโลกตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน และอยู่ที่ระดับ 261,500 คนต่อวันเมื่อวันอาทิตย์

ในขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลก ผ่านหลัก 3 ล้านคนไปแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook