ประยุทธ์เผย ให้ทีมงานโทรสายด่วน 1669 พบไม่มีคนรับ จี้สาธารณสุขแก้ไขด่วน!

ประยุทธ์เผย ให้ทีมงานโทรสายด่วน 1669 พบไม่มีคนรับ จี้สาธารณสุขแก้ไขด่วน!

ประยุทธ์เผย ให้ทีมงานโทรสายด่วน 1669 พบไม่มีคนรับ จี้สาธารณสุขแก้ไขด่วน!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมของ โรงพยาบาลสนาม เอราวัณ 2 ศูนย์กีฬาบางกอกอารีน่า เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร โดยได้รับฟังรายงานจากคณะทำงานเพื่อสรุปแนวทางของโรงพยาบาลสนาม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานในขณะนี้ขอให้ทุกฝ่ายประสานงานอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนกำหนดการทำงานล่วงหน้า รองรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดในอนาคต พร้อมกำชับให้มีการประสานงานในส่วนของโรงพยาบาลสนาม กับ โรงพยาบาลอื่นๆ ในกรณีที่ผู้ติดเชื้อมีอาการป่วย หรือ จัดเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มสีเหลือง ให้มีความชัดเจนรวดเร็ว และมีความปลอดภัย ตามมาตรการป้องกันโควิด-19

นอกจากนี้ ยังสั่งให้กระทรวงกลาโหมนำรถพยาบาลจากโรงพยาบาลทหาร และค่ายทหารต่างๆ ออกมาช่วยทำงานแก้ไขสถานการณ์ในขณะนี้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และ กทม.

นายกรัฐมนตรีตั้งคำถามไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ว่า หมายเลขสายด่วน 1669 สามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ เพราะตนเองได้ให้คนลองโทรเข้าไป แต่พบว่าไม่มีคนรับสาย จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขรับไปดูแลเรื่องนี้โดยเร่งด่วนว่าสาเหตุเกิดจากอะไร

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับมีความไม่สบายใจที่เห็นการติดเชื้อโควิด-19 ในครอบครัวเดียวกัน จากเดิมที่คนแรกติดแต่ไม่สามารถเข้ารับการรักษาได้ จนเกิดการแพร่เชื้อไปในครอบครัว ดังนั้น จึงอยากให้กระทรวงสาธารณสุขทำความเข้าใจให้ประชาชนได้รับทราบถึงจุดให้บริการด้านสาธารณสุข พร้อมยังกำชับให้บุคลากรทางการแพทย์ให้เฝ้าระวังตนเองเพื่อไม่ให้มีการติดเชื้อ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการทำงานได้ ดังนั้น จึงหวังว่าสิ่งที่ได้ช่วยเหลือกันจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่ได้ร่วมกันดูแลประชาชน ขณะเดียวกันคาดหวังว่าสถิติตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลงถ้าทุกคนร่วมมือกัน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นายกรัฐมนตรีก็ต้องแบกรับภาระอยู่แล้ว พร้อมบอกว่า ถ้ารถพยาบาลไม่เพียงพอ ก็จะนำรถสิบล้อไปรับ

INN News

พร้อมเปิด รพ.สนาม เพิ่ม วอนเอกชนร่วมมือทำฮอสพิเทล

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามเอราวัณ 2 บางกอกอารีนา ว่า ตนพอใจในการเตรียมความพร้อม และขณะนี้โรงพยาบาลสนามใน กทม. สามารถรองรับผู้ติดเชื้อได้ 3,000 เตียง โดยในส่วนของโรงพยาบาลสนามจะเป็นพื้นที่ของผู้ป่วยสีเขียว หรือ ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ แต่ต้องกักตัว 14 วัน ขอให้ผู้ป่วยอดทน โดยหากเป็นผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง จะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเท่านั้น และจะนำผู้ติดเชื้อเข้ารักษาในโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด รวมถึงมีการเตรียม Hospitel (ฮอสพิเทล)

พร้อมกับขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ทำเป็น Hospitel ทั้งนี้ ขอให้เสนอความต้องการกลับมายังรัฐบาล ซึ่งก็จะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายให้ ดูแลเรื่องเศรษฐกิจเพื่อไม่ให้มีการเลิกจ้างงาน พร้อมกับยืนยันว่ารัฐบาลมีความพร้อมในการรับมือ แม้สถานการณ์ขณะนี้จะดูรุนแรง โดยตนขอประเมินสถานการณ์อีกระยะว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ โดยหากสามารถควบคุมได้ก็จะเป็นไปตามขั้นตอนที่วางไว้ เช่น การฉีดวัคซีน

นอกจากนี้ ในเรื่องของการนำเข้าวัคซีนได้ตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วว่าไม่ได้มีความล่าช้า แต่ปัญหาคือวัคซีนทยอยเข้ามา และจะมีการฉีดเป็นระยะ โดยจะแจกจ่ายไปทุกจังหวัด ตามพื้นที่ความเสี่ยงและจากลำดับความสำคัญ ไม่ใช่วัคซีนเข้ามาแล้วบอกว่าฉีดเข็มเดียวพอ แต่ต้องเตรียมพร้อมรับความเสี่ยงหากวัคซีนเข็มที่ 2 มีปัญหาในการส่งมอบ ซึ่งทั้งโลกก็มีปัญหาหมด

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ได้พูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม สามารถนำเข้าได้แต่ต้องผ่านกติกา เนื่องจากเป็นวัคซีนที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่มีใครรับผิดชอบได้ นอกจากรัฐบาล เพราะต้องดูแลผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เช่น ผลข้างเคียงในการฉีด และขอบคุณเอกชนที่พร้อมจะช่วยรัฐบาลในเรื่องงบประมาณ

พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนปลอดภัย แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัว และอยากให้ฟังข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางของรัฐ เนื่องจากบางครั้งมีความคิดเห็นหลากหลาย ทำให้ไม่รู้จะเชื่อข้อมูลใด ทำให้เป็นปัญหา ตนไม่โทษใคร อย่างไรตนก็รับผิดชอบอยู่แล้ว ทุกเรื่องในประเทศไทยที่เป็นปัญหาความเดือดร้อนรัฐบาลนี้พร้อมดูแลแก้ปัญหาทุกอย่างให้ดีที่สุด

ตนทราบดีอยู่แล้วว่าประเทศมีปัญหาอะไร แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชน อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ อ่านได้แต่ขออย่าเชื่อทั้งหมด ทั้งนี้ หากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ก็จำเป็นต้องใช้มาตรการที่แรงขึ้น ซึ่งเราทุกคนไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ตนก็รู้สึกเห็นใจประชาชนผู้มีรายได้น้อย

INN News

ย้ำปมสายด่วนไม่มีคนรับสาย ลั่นไม่อยากให้โรคลามทั้งครอบครัว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมโรงพยาบาลสนามเอราวัณ 2 ศูนย์กีฬาบางกอกอารีน่า เขตหนองจอก โดยกล่าวว่า จะต้องมีการเตรียมแผนรองรับไว้ล่วงหน้า โดยตนเองพร้อมสนับสนุนในทุกเรื่อง ซึ่งสิ่งที่เป็นปัญหาตอนนี้คือการให้บริการ ขอให้ไปแก้ไขเรื่องสายด่วน ที่โทรไปแล้วไม่มีเจ้าหน้าที่รับสาย ซึ่งตนเองไม่ได้ต้องการจับผิด แต่ขอให้ไปแก้ปัญหา พร้อมไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ที่มีคนติดเชื้อโควิดทั้งครอบครัว เพราะรอเตียง ที่เขตสายไหม และทราบว่าโรงพยาบาลเอกชนไม่รับผู้ป่วย เนื่องจากเตียงไม่เพียงพอ

ซึ่งโรคนี้อันตรายร้ายแรง จะรับผิดชอบหลายเรื่องคงไม่ไหวเพราะมีความเสี่ยงสูง จึงต้องดำเนินการอย่างละเอียดรอบคอบ หากมีการระบาดมากขึ้นอาจจำเป็นต้องใช้สนามกีฬาทุกจังหวัดเพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วย

ขณะที่เรื่องวัคซีนทางเลือกนั้น ได้มีการเตรียมการไว้แล้ว โดยวันนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการทั้งสองฝ่าย เพื่อสร้างความเข้าใจที่วันนี้เป็นจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ ทั้งนี้ ขอให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์สู้ เพราะเป็นเรื่องที่ได้บุญกุศล ได้ช่วยประชาชนทั้งประเทศ และต้องไม่ให้มีบุคลากรทางการแพทย์ต้องติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก พร้อมขออย่าขัดแย้งกันเด็ดขาด เพราะไม่เช่นนั้นจะทำงานกันไม่ได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เราต้องเตรียมพร้อมตั้งรับสถานการณ์หากทุกคนร่วมมือจะสามารถควบคุมได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการสร้างความเข้าใจกับประชาชน ทั้งนี้ จะต้องเร่งฉีดวัคซีนที่มีอยู่ให้เร็วขึ้น และต้องกระจายไปยังจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดสูง ควบคุมทุกพื้นที่ รวมทั้งต้องเตรียมความพร้อมด้านการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต ด้วย

INN News

ปัดตอบปมทักษิณเสนอประสานวัคซีนรัสเซีย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกมาเสนอตัวประสานเกี่ยวกับวัคซีนโควิดกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย

ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "ผมไม่ตอบ อย่าเอาคำถามคนที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมาถามผม ผมไม่รู้จัก ผมไม่รู้เรื่องเขา"

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึง กรณีการตรวจสอบและเอาผิดไฮโซ 6 คน เล่นบ่อนการพนันที่กัมพูชาแล้วนำเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ มาแพร่ระบาดในคลัสเตอร์ทองหล่อ ว่า มีการสั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า นอกจากการตรวจสอบแล้วจะมีการเอาผิดหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อประชาชน นายกรัฐมนตรีสรุปสั้นๆ เพียงว่า "รับทราบ โอเค ไม่ตอบ พอแล้ว"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook